เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯยันไม่เคยให้สัมภาษณ์จะตั้ง "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาฯ แต่พร้อมขอคำปรึกษาอดีตนายกรัฐมนตรีทุกคน

โดย kanyapak_w

23 ก.ย. 2566

195 views

นายกฯพอใจร่วมเวที UNGA ถือเป็นก้าวแรกประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดแล้ว เผยไทยชูสันติภาพที่ยั่งยืน หวังเข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยันไม่เคยให้สัมภาษณ์จะตั้ง "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาแต่พร้อมขอคำปรึกษาอดีตนายกรัฐมนตรีทุกคน เพื่อประโยชน์ประเทศชาติ  อย่างที่ได้ปรึกษา "ประยุทธ์" เป็นคนแรก




วันที่ 22 ก.ย.2566 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สรุปภารกิจในการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เป็นครั้งแรกว่า มีภารกิจที่หลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะตนเอง แต่ทั้งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจักพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งต่างมีภารกิจมาก ซึ่งตนเองมีโอกาสได้พูดในหลายเวที เรื่องของโลกร้อน และสันติภาพ อากาศบริสุทธ์ ความมั่นคงทางทหาร ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง และอาริยะเกษตร รวมถึงมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำหลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านสำคัญๆเช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้พูดคุยเรื่องความมั่นคงทางชายแดน และส่งเสริมการค้าระหว่างกันให้สูงขึ้น



ส่วนวันนี้ถือเป็นไฮไลต์ของงานที่ได้กล่าวถ้อยแถลง ประมาณ 15 นาที นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้มีการพูดถึงปัญหาของโลก ที่เกิดจากอากาศร้อน ที่เรียกได้ว่าไม่ใช่โลกร้อน แต่เป็นโลกเดือด หลายประเทศก็ยัง มองไปข้างหลัง เรื่องของตัวเลขดัชนีชี้วัดต่างๆ ก็ต้องรวมพลัง และทำให้มันเกิดขึ้นได้ ตนเคยบอกไปหลายเวทีแล้วว่า การประชุมของสหประชาชาติครั้งนี้มีเรื่องของปัญหาที่ต่างกันหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เห็นตรงกัน เรื่องความมั่นคงทางอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญ โลกร้อน โลกเดือดก็ทำให้ไม่แน่นอน ทางด้านภูมิอากาศที่เหมาะกับการทำกิจกรรม ประเทศเราเองเหมาะกับเกษตรกรรม มีความมั่นคงทางอาหารสูง แต่เรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ทำให้เราต้องกลับมาดูเรื่องนี้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ทั้งเรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และเรื่องอาริยะเกษตร ซึ่งต้องหาพื้นที่ให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเพาะปลูก รวมถึงการใช้หนองน้ำ เลี้ยงปลา หลายอย่างตนเชื่อว่า สามารถปรับมาใช้ได้



ส่วนเรื่องปัญหาสุขภาพ ที่มีโรคเพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเหมือน wakeup call หลังมีโรคระบาดทำให้เรารู้ว่าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษยชนถูกจำกัด หรือได้รับการดูแลเยียวยาอย่างไม่ทั่วถึง แต่ประเทศไทยโชคดีที่มีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง แต่แม้ว่าจะมีสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง แต่มีการเคลื่อนไหวของประชากร เราดูแลดีอย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศอื่นไม่ดูแลเพียงพอ สหประชาชาติเองก็ควรเข้ามาเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นแน่ใจว่าทุกๆประเทศ มีระบบ health care ที่ดีเหมือนประเทศไทย ขณะที่ไทยเองยังไม่หยุดยั้ง ยังยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อทำให้คนไทยสบายมากขึ้นในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่จะเข้า



ส่วนสันติภาพที่ยั่งยืนในความหมายของนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสันติภาพที่ยั่งยืนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ประเทศไทยเรามีความเชื่อเรื่องความสงบ และความเชื่อเรื่องการจริญที่ยั่งยืน โดยไม่เข้าไปก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละประเทศ



"แต่เป็นที่ทราบดีว่า เรื่องความระหองระแหง ระหว่างประเทศมีหลายคู่ ส่วนประเทศเราแม้จะเป็นประเทศเล็ก ไม่ได้ใหญ่มาก ก็ภูมิใจในเอกราช ที่เรามีมาตลอด เราเองมีความภูมิใจ และมีความสบายใจ ในการที่เราอยู่ในภูมิศาสตร์ ที่เป็นที่ยอมรับของทุกประเทศ จึงเป็นหน้าที่ของผู้นำและรัฐบาลนี้ที่จะต้องดำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกราชและไม่เข้าข้างใค เรามีความเชื่อในเรื่องสันติสุขและความเจริญที่ยั่งยืน" นายกรัฐมนตรี กล่าว



ส่วนการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ HRC นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ดูแลสิทธิมนุษยชนเพียงอย่างเดียว เรามีประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ไม่ว่ามาเลเซีย ลาว กัมพูชา และที่ละเอียดอ่อนที่สุดคือ เมียนมา ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องดูแลหากมีผู้อพยพเข้ามา หรือมีผู้ที่เดือดร้อนบริเวณชายแดน เพราะเรามีชายแดนกับเมียนมากว่า 1,000 กิโล จะต้องดูแล



ผู้สื่อข่าวถามว่ามองความสำเร็จในการร่วมเวทีโลกครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครั้งแรกก็ต้องขอบคุณ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน BOI ที่ช่วยดูแลและเป็นเจ้าภาพในการนำนักธุรกิจเก่งๆ และสนใจมาร่วมทุนในประเทศไทยมาร่วมงาน ถือเป็นนิมิตหมายและจุดเริ่มต้นที่ดี 4 วันที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ ถือเป็นก้าวแรกในการประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว เราพร้อมที่จะมีการลงทุนข้ามชาติ ทั้ง 2 ทาง ไม่ใช่แค่ให้เขามาลงทุนอย่างเดียว เอกชนไทย ที่แข็งแกร่งหลายราย พร้อมลงทุนในต่างประเทศด้วย



ส่วนการพบผู้นำต่างชาติ ตอบรับกับรัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีใหม่อย่างไร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ดี ทุกคนยินดีดว้ย และทุกคนเข้าใจว่าถึงเวลาต้องมีผู้นำในการออกมาค้าขาย



ขณะเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg และถูกตีความว่าจะตั้งนายทักษิณชินวัตร เป็นที่ปรึกษาหลังพ้นโทษ ว่าให้ไปแกะเทปสัมภาษณ์ได้เลย ยืนยันว่าไม่เคยพูด แต่สิ่งที่ถูกถามว่าจะปรึกษานายทักษิณ หรือไม่ ตนจึงตอบว่า จะปรึกษาอดีตนายกรัฐมตรีทุกท่าน ซึ่งท่านแรกที่ได้ปรึกษาคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง และนายอานันท์ ปันยารชุน ที่ได้ไปหาถึงบ้าน รวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปพบที่เชียงใหม่ ส่วนนายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับคำชื่นชมจากพี่น้องประชาชนอย่างมาก และเป็นคนที่มีความรู้



"ผมคิดว่าประเทศไทยคงเสียหายถ้าไม่ปรึกษาคนเหล่านี้ เพราะผมเป็นมือใหม่หัดขับ ซึ่งไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรี เท่านั้น อดีตรองนายกฯ ผู้แทนการค้าไทย รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงก็ปรึกษาหมด ไม่ได้กีดกันใครทั้งสิ้น ไม่ได้กีดกันเรื่องสี และความเชื่อทางการเมือง อะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ผมยินดีครับ ไม่มีการพิจารณาที่จะไปตั้งเป็นท่านที่ปรึกษา ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อนตั้งกี่ปี จะมารับเป็นที่ปรึกษา ท่านมีกฏ มีแนวทางมีหน้าที่รับผิดชอบในหน้าที่ของท่าน ที่อยากจะทำอยู่แล้ว"

คุณอาจสนใจ

Related News