รุ่นพี่ชั้นประถม เผยพฤติกรรม "เอ็ม" ก้าวร้าวแต่เด็ก ไม่แปลกใจก่อเหตุโบกปูนฝังลูก

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านพ่อของนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ ในพื้นที่ ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง แต่ไม่พบใคร บ้านปิดล็อกประตูรั้วสนิท จึงเดินทางไปที่ร้านตัดผม ซึ่งอยู่ห่างกับบ้านหลังดังกล่าวไม่มากนัก สอบถาม นายเชือน อายุ 56 ปี น้าชายของนายเอ็ม เล่าว่า นายเอ็ม กลับมาบ้านใน ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด เมื่อช่วงเดือน เม.ย.66 โดยได้พาลูกสาว วัย 2 ขวบ ที่ได้ฆ่าโบกปูนเสียชีวิต กลับมาที่บ้านด้วย ซึ่งกลับมาทุกครั้งก็จะชอบซื้อเหล้าซื้อเบียร์และอาหารต่างๆ มาเลี้ยงเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง ทั้งนี้นายเอ็ม ไม่ชอบเสียงเด็กร้อง เวลาลูกร้องเสียงดัง นายเอ็มจะใช้มือตบ และพูดกับเด็กว่า “มึงเงียบนะ มึงนิ่งนะ เดี๋ยวกูตบตาย” และที่ผ่านมา นายเอ็ม จะทะเลาะกับพ่อบ่อย และเคยแทงล้อรถพ่อ และอีกหลายๆเรื่อง ถึงขั้นตัดขาดพ่อลูก ที่งนี้หลังจากเห็นข่าวนายเอ็ม ฆ่าลูก บอกตรงๆเลยว่ารับไม่ได้เลย


ด้าน นายวิระศักดิ์ อายุ 48 ปี เพื่อนรุ่นพี่ เล่าว่า เอ็ม ชื่อเดิมคือนายนพดล ตนรู้จักกับเอ็ม และเติบโตเรียนประถมมาด้วยกัน โดยเอ็มเป็นรุ่นน้อง ประมาณ 3 ปี เดิมที่เอ็ม เป็นคนดี แต่ตอนเรียนชั้นประถม จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนฝูงในโรงเรียนบ่อยครั้ง และเคยทะเลาะกับครูอาจารย์ที่สอนด้วย มีการท้าเตะท้าต่อยกับครูอาจารย์เสมอ อีกทั้งยังทะเลาะกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จนอาศัยอยู่บ้านด้วยกันไม่ได้ จึงเป็นสาเหตุให้พ่อไล่เอ็มออกจากบ้าน


เมื่อมาทราบข่าวว่า เอ็มฆ่าลูก ตนไม่แปลกใจเลย เพราะนิสัยดั้งเดิมของเอ็มเป็นคนก้าวร้าวอยู่แล้ว ยอมรับว่าตอนเด็กเอ็มก้าวร้าวไม่มาก แต่เริ่มหนักรุนแรงขึ้นตามอายุ ส่วนประเด็นที่ว่าเอ็มไม่ชอบเด็กนั้น อาจจะเป็นหลังจากเอ็มมีลูกแล้ว และอาจไม่สบอารมณ์กับเด็ก ทั้งนี้ตนไม่นึกว่าเอ็มจะก่อเหตุ ปกติมนุษย์และสัตว์เขาไม่ทำกัน จิตเกินคนไปแล้ว มองว่าไม่ใช่โรคจิต แต่มาจากสันดาน อยู่ใกล้ใครก็อันตราย อยากให้ดำเนินคดีให้หนัก เพราะออกมาก็คิดว่ายังคงทำแบบนี้อีก


ด้าน เพื่อนบ้านที่รู้จักกับแม่ของเอ็ม เล่าว่า นายเอ็มถูกเลี้ยงมาแบบนี้ เพราะแม่เป็นคนทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว แม่เลี้ยงแบบทิ้งๆขว้างๆ ไม่สนใจ ใช้ความรุนแรงกับลูกตั้งแต่เล็กๆ ทั้งการจับโยน