อาชญากรรม

บุกค้นจุดพ่อโหดฆ่าลูก คนดูแลหอพักเผยพิรุธสองผัวเมีย ทะเลาะเพื่อนข้างห้องก่อนย้ายหนี

โดย nicharee_m

21 ก.ย. 2566

56 views

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองกับการสืบสวนนครบาล 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่พักที่นายเอ็ม เคยพักภายในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซอยพหลโยธิน 50 แยก 11

โดยจุดนี้เป็นที่พักของนายเอ็ม และเจษฎา ที่เคยพักเป็นเป็นจุดที่นายเอ็ม ระบุว่าเป็นจุดที่ ด.ช.ศักดา เสียชีวิต ปี 56 ด.ช.ธนาทรัพย์ เสียชีวิต ปี 59 และ ด.ช.นัฐพงศ์ เสียชีวิต ปี 60-61

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ระบุว่า ครอบครัวนี้ย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 ประมาณปี 2560-2561 ที่ผ่านมาก็เห็นทั้งคู่เดินไป เดินมา และทักทายกันตามปกติ แต่จะไม่เห็นก็ต่อเมื่อทั้งคู่เดินทางไปต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายๆ วัน

ซึ่งตัวนายส่องศักดิ์ ก็พูดจาทักทายดี ไม่มีอาการฉุนเฉียว หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้เห็น รวมถึงที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเด็ก 4-5 คนมาก่อน แต่เห็นเพียงเด็กหญิงเท่านั้น ที่มักจะมาเดินอยู่กับแม่เป็นประจำ แต่จะเดินฝั่งตรงข้ามเสมอ

ที่ผ่านมาไม่เคยพูดคุยกับแม่เด็กเป็นการส่วนตัว เพราะเจ้าตัวไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่แม่ของเด็กเคยเดินมาขอให้แฟนตนไปรับตัวนายส่องศักดิ์ที่ห้างสรรพสินค้า กลับมาส่งยังที่พักเท่านั้น

นอกจากนี้ยังเคยเห็นว่าที่แขนของเด็กหญิง มีผ้าผันแผลผันรอบ เมื่อสอบถามไปยังพ่อของเด็กก็ได้คำตอบว่า ลูกสาวต้มมาม่า และถูกน้ำร้อนลวกแขนจนบาดเจ็บ แต่รอยแผลอื่นตนไม่เคยเห็น เพราะตัวเด็กหญิงก็จะแต่งตัวมิดชิด ใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายตลอดเวลา

ครั้งหนึ่งเด็กหญิงเคยเข้ามาขออาหารตน เมื่อตนจะพาไปหาอาหาร อีกฝ่ายก็บอกว่าอยากกินมาม่า ตนจึงพาไปซื้ออาหารและนมให้รับประทาน แต่ทางพ่อกับแม่ของเด็กไม่รู้ และเมื่อนายส่องศักดิ์รู้เรื่อง ก็บอกกับตนว่าจะจ่ายเงินให้ แต่ตนปฏิเสธเพราะถือว่าซื้ออาหารให้หลานกิน

ส่วนตัวตนไม่ทราบว่าทั้งสองคนย้ายออกไปเมื่อใด เนื่องจากช่วงที่ทั้งคู่ย้ายออกไปเป็นช่วงที่เกิดโควิด-19 จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครสนใจ

เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะแต่ก่อนก็จะมีการพูดคุยบ้างกับตัวนายส่องศักดิ์ จึงไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ ส่วนตัวภรรยานายส่องศักดิ์ ตนก็เห็นว่าเป็นคนเงียบ ไม่สุงสิง และมักจะหลบตาผู้คนเสมอ

โดยมีข้อมูลว่า นายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา เข้ามาพักอาศัยอยู่ประมาณ ปี 2557 - 2561 โดยทางอะพาร์ตเมนต์มีกฎระบุว่า หากผู้พักอาศัยมีเด็กเล็ก จะไม่อนุญาตให้เข้าพักเพราะเกรงว่าจะรบกวนผู้เข้าพักรายอื่น ซึ่งเป็นกฎที่ทางอะพาร์ตเมนต์แจ้งให้ผู้เข้าพักทุกรายทราบแล้ว และที่ผ่านมาทางผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์เคยเห็นคนทั้งคู่พาเด็กมาเล่นที่บริเวณที่พักเฉพาะในช่วงเช้า และคาดว่าในช่วงเย็นจะพาเด็กออกไปพักที่อื่น

กระทั่งในช่วงปี 2561 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19 นายส่องศักดิ์ ได้มีปากเสียงทะเลาะกับผู้เช่าห้องข้างๆ จนมีการเรียกตักเตือน จากนั้นทางนายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ก็รีบย้ายออกไปทันที โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซ้ำยังค้างค่าน้ำ-ค่าไฟ และค่าเช่าห้องกว่า 2 เดือนอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานกลับไปตรวจสอบ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนคดีต่อไป

แนวทางการสืบสวนพบว่า อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ใช้ฆ่าเด็กทารกซึ่งเป็นลูกคนที่ 4 และ 5 ของ น.ส.เจษฎา คนที่ 4 เสียชีวิตช่วงปี 2559 ส่วนคนที่ 5 เสียชีวิตระหว่างปี 2560-2561 ซึ่งขณะนั้น น.ส.เจษฎา กลับมาพบสภาพศพของลูกตัวเขียวแล้ว และนายสอดศักดิ์ ก็บังคับให้กำจัดศพทิ้ง ก่อน น.ส.เจษฎา จะนำไปที่ศาลพระภูมิริมถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 25


แท็กที่เกี่ยวข้อง  พ่อฆ่าลูก ,ฆ่าโบกปูน ,ไอเอ็ม

คุณอาจสนใจ

Related News