เลือกตั้งและการเมือง

'ปีใหม่ กองเชียร์เพื่อไทย' โพสต์จี้' วันนอร์-ก้าวไกล' เดือดโดน 'อมรัตน์' ล่าแม่มด แฉข้อมูลส่วนตัว-บุกที่ทำงาน

โดย nattachat_c

20 ก.ย. 2566

4.6K views

วานนี้ (19 ก.ย. 66) เพจ ปีใหม่ ปีใหม่ ซึ่งเป็นแฟนคลับของนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความแซะ เจี๊ยบ อมรัตน์ หลายครั้ง เช่น


  • อมรรัตน์ แปลว่า เพชร 'อม-รัตน์ จึงแปลว่า อม-เพชร เพชร เถอะแม่ยักษ์
  • อีเจี๊ยบพัลวันอีตั้นพันเจ็ด
  • อมรรัตน์ (อะ มอน รัด) แปลว่า เพชร อมรัตน์ (อะ มะ รัด) แปลว่า ผู้ไม่เสื่อมสูญ ซื่อตัวเองยังแปลไม่ถูก อมนุษย์ เอ๊ย !
  • อีเจี๊ยกนครสฤนทำอะไร อยู่ปล่อยให้บ้านตัวเองมี แก๊งมาเฟียฉาวไหนว่ามา กำจัด?  


จนทำให้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ออกมาเคลื่อนไหว ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า


ผู้โพสต์ชื่อเล่น “แขก” อายุ 54 เกิด 1 ม.ค.25XX มารดาชื่อ… ที่อยู่ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ใช้รถสีxx รั้วบ้านทาวน์เฮ้าส์สีxxx ลูกจ้างบริษัท …. เบอร์โทร 02 431 005x ก่อจะระบุว่า ดิฉันยินดีให้ข้อมูลชื่อ-นามสกุลจริงและอื่น ๆ กับผู้ได้รับผลกระทบ


ขณะที่ชาวโซเชียลต่างออกมาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับติด #อมรัตน์คุกคามประชาชน แสดงความไม่เห็นด้วย

----------

ขณะที่ เก็ต ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา รองฆากพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ออกมาระบุว่า  


ผมเป็นคนหนึ่งที่โดนผู้เห็นต่างเข้ามาโจมตี ด้อยค่า เหยียดหยาม ด้วยถ้อยคำหยาบคายเกือบทุกวัน แต่ผมคงไม่มีทางไปคุกคามประชาชน โดยบุกไปที่ทำงาน ข่มขู่จะไปบ้าน หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว เพราะอาจมีมือที่ 3 ไปทำร้ายเขาได้ ถ้าคิดว่าตัวเองเสียหาย ใช้กฎหมายครับ


บางท่านก็ระบุว่า ป้าเจี๊ยบก็ด่านายกเศรษฐา ด่าคนอื่นไอสัส กล่าวหาว่าเขาเยี่ยวม่วง มีใครไปบุกบ้านป้า เอาข้อมูลส่วนตัวมาเปิดเผยไหมคะ คนอื่นทำผิดกฎหมาย ก็ดำเนินคดีไป ไม่ต้องไปทำตาม ถูกต้องแล้ว

----------

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ปีใหม่ ปีใหม่ ซึ่งเป็นคู่กรณีได้ออกมาโพสต์ถึง


  • นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล
  • นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1
  • นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ
  • พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม


ขอความเป็นธรรม และ ขอความคุ้มครองจากการถูกข้าราชการการเมือง (ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่1) เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ข่มขู่คุกคาม ไล่ล่าแม่มด และ ใช้อำนาจหน้าที่ บีบบังคับให้เอกชนสนองความต้องการให้ตน

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 เวลาเช้า ดิฉันได้ทราบข่าวจากเพื่อนเฟซบุ๊กว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1 (นายปดิภัทธ์ สันติภาดา) ได้โพสต์ และ ทวีตข้อมูลส่วนตัวของดิฉัน อาทิ


  • ชื่อเล่น
  • อายุ
  • วันเดือนปีเกิด
  • บ้านเลขที่
  • ที่อยู่ หมู่บ้าน
  • รูปพรรณสัณฐาน ที่พักอาศัยของดิฉัน เช่น สีประตูรั้วบ้าน
  • สีรถยนต์ที่ดิฉันใช้
  • รวมถึงระบุชื่อมารดาของดิฉัน
  • จำนวนบุตรของดิฉัน
  • ระบุสถานที่ทำงานของดิฉัน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานโดยละเอียด
  • อีกทั้งยังแจ้งว่า หากใครต้องการทราบชื่อ นามสกุลจริง และ รูปของดิฉัน ให้ติดต่อสอบถามได้จากนางอมรัตน์ นางยินดีมอบให้


ซึ่งภายหลังจากนางอมรัตน์ได้โพสต์และทวีตไปไม่นาน ได้มีสื่อ 'ข่าวสด' นำข้อมูลของดิฉันไปเผยแพร่ต่อ และ  Top News รายงานข่าว


จากนั้น ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์จำนวนมาก

  • แสดงความคิดเห็นเชิงข่มขู่คุกคามด้วยถ้อยคำหยาบคาย สร้างความเกลียดชังต่อดิฉัน
  • บางส่วนชักชวนกันมาทำร้ายดิฉัน
  • บางส่วนนำบัตรประชาชนของดิฉันแปะในคอมเมนต์
  • บางส่วนเอ่ยชื่อจริงของดิฉัน ทั้งในโพสต์ และ ทวิตเตอร์ของนางอมรัตน์ ลุกลามมาถึงในเฟซบุ๊กของดิฉัน


ในเวลาบ่ายโมง ดิฉันได้รับทราบจากผู้จัดการบริษัทที่ดิฉันทำงานอยู่ว่า นางอมรัตน์ ได้โทรศัพท์เข้ามาหาเธอ และส่งข้อมูลมาให้เธอทางไลน์ กล่าวหาว่าดิฉันโพสต์หมิ่นนาง อ้างว่าคนอ่านรู้ว่าดิฉันหมายถึงนาง โดยนางอมรัตน์ได้ขอให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตักเตือน หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อดิฉันต่อไป


ผู้จัดการฝ่ายบุคคล และผู้บริหารท่านหนึ่งของบริษัท ได้สอบถามดิฉัน ซึ่งดิฉันยอมรับว่าโพสต์วิจารณ์การเมือง, นักการเมือง และ พรรคก้าวไกลจริง โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุชื่อ สกุลจริง ของใคร ไม่มีคำไหนสร้างความเสียหาย และ ไม่ได้คิดร้ายหมายขวัญใครถึงชีวิต ใช้สิทธิเสรีภาพตามกรอบกฎหมายทุกประการ ซึ่งหากนางอมรัตน์รู้สึกว่า ดิฉันทำความเสียหายให้นาง นางก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้


ทั้งนี้ ดิฉันไม่ได้กระทำในนามบริษัท และ ไม่ได้โพสต์ในเวลางาน เวลาที่โพสต์นอกเวลางาน เช่น ก่อนเริ่มงาน พักเที่ยง หลังเลิกงาน วันหยุด หรือ วันที่ดิฉันใช้สิทธิลางานทั้งสิ้น ซึ่งดิฉันได้แจ้งต่อผู้บริหารว่า นางอมรัตน์เริ่มโพสต์เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวดิฉัน ก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้ง เมื่อกลางเดือนสิงหาคม โดยดิฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรนางรุนแรงเกินไปกว่าการโพสต์อธิบายข้อเท็จจริง หักล้างข้อความเท็จ ที่นางกล่าวหาดิฉัน

เหตุเกิดหลังดิฉันประกาศยุติสงครามเหลืองแดง ขอเชิญชวนเหลืองแดงสมานฉันท์เดินหน้าประเทศด้วยกัน และ ขอโทษคนเสื้อเหลือง หากเคยใช้วาจาไม่สุภาพต่อกันในอดีต


ซึ่งจากการประกาศนั้น หลายสื่อได้นำข้อความของดิฉันไปลงข่าว ทำให้ NGO แกนนำม็อบคนหนึ่ง โพสต์และทวีตถามว่า ดิฉันเป็นใคร นางอมรัตน์จึงได้โพสต์เผยแพร่ข้อมูลด้านการศึกษาของดิฉัน เพื่อตอบคำถามนั้น แต่เป็นข้อความเท็จเกี่ยวกับตัวดิฉัน กล่าวหาว่า เมื่อก่อนดิฉันรับข้อมูลจากอดีตนักการเมืองพรรคหนึ่งมาโพสต์ ดิฉันได้โพสต์อธิบายข้อเท็จจริง พร้อมแนบหลักฐานเป็น "คำนิยม" ที่นักการเมืองท่านนั้น ให้เกียรติเขียนในหนังสือของดิฉัน โดยเนื้อความระบุว่า นักการเมืองท่านนั้น ได้รับประโยชน์จากข้อมูลที่ดิฉันค้นคว้านำมาเผยแพร่ ไม่ใช่ดิฉันไปรับข้อมูลจากเขามาโพสต์แต่อย่างใด


เวลาบ่ายสามโมงวันเดียวกันนี้ ผู้บริหารได้แจ้งดิฉันว่า นางอมรัตน์ได้เข้ามาที่ทำงานของดิฉัน ได้ขอพบผู้บริหาร และ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล โดยผู้บริหารท่านหนึ่งไม่ต้องการให้เรื่องลุกลามฟ้องร้องกัน จึงได้แจ้งนางอมรัตน์ไปว่าได้ตักเตือนดิฉันแล้ว และ จะออกหนังสือตักเตือนให้ดิฉันเซ็นรับทราบ เพื่อยุติการโพสต์ถึงนางอมรัตน์ต่อไป


ซึ่งดิฉันได้บอกผู้บริหารไปว่า ดิฉันไม่ได้โพสต์ถึงนางอมรัตน์ ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย หรือ กฎระเบียบบริษัทใด ๆ แต่สิ่งที่นางอมรัตน์โพสต์ข้อมูลส่วนตัวของดิฉันต่างหาก ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ และ หมิ่นประมาทดิฉันด้วยการโฆษณา สร้างความเสียหาย และ ความไม่ปลอดภัยในชีวิต รวมถึงครอบครัวของดิฉัน เพราะไม่รู้ว่าใครจะบุกมาทำร้ายคนในครอบครัวของดิฉันเมื่อไร จากคอมเมนต์ที่คลุ้มคลั่ง ชักชวนกันมารุมทำร้าย บางคนบอกบ้านดิฉันอยู่ใกล้บ้านตนเอง เขาสะดวกจะมาจัดการให้เป็นต้น


ดิฉันคือผู้เสียหายจากการกระทำของนางอมรัตน์ มีความเสี่ยงสูงถึงชีวิต ไม่ใช่นางอมรัตน์เสียหายจากการกระทำของดิฉัน แต่ทั้งนี้ดิฉันได้แจ้งผู้บริหารไปว่าดิฉันจะไม่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนาง เพื่อไม่ให้กระทบต่อบริษัทและนายจ้าง โดยมีเงื่อนไขว่า นางอมรัตน์ต้องยุติการคุกคามดิฉันด้วยลฃ


แต่ปรากฎว่า นางอมรัตน์กลับไม่หยุด ยังโพสต์และทวีตเผยแพร่ข้อมูลดิฉันอีก  4 ครั้ง


ครั้งแรก อ้างว่าผู้บริหารและผู้จัดการฝ่ายบุคคลจะทำทัณฑ์บนดิฉัน 1 ปี


ครั้งที่สอง แจ้งแก้ไขข้อความเพราะบริษัทรับปากนางว่าจะจัดการดิฉันให้แล้ว


ครั้งที่ 3 ทวีตภาพบัตรผ่านเข้าบริษัทขอพบผู้บริหารพร้อมระบุว่า ได้มาพบและขอบคุณผู้บริหาร โดยบริษัทจะออกหนังสือเตือนดิฉัน และ ผู้บริหารยังรับปากว่าจะสอดส่องพฤติกรรมดิฉันให้ด้วย


ครั้งที่ 4 ทวีตว่า หลังออกจากบริษัทดิฉันแล้ว นางได้มาเยี่ยมบ้านดิฉันด้วย พร้อมลงภาพที่พักของดิฉันประกอบ ทำให้เกิดการแชร์โพสต์และทวีตของนางต่อ โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากเข้ามาแสดงความเยาะเย้ยดูหมิ่นเหยียดหยาม และแสดงความอาฆาตมาดร้ายดิฉันอีกมากมาย เหตุเพราะนางอมรัตน์เป็นนักการเมืองพรรคก้าวไกลที่มีชื่อเสียง มีคนติดตามหลักล้านคน


ดิฉันจึงจำเป็นต้องเรียนมาเพื่อขอความเป็นธรรม และ ขอคืนความรู้สึกปลอดภัยให้ครอบครัวดิฉันจากทุกท่าน


ดิฉันเชื่อโดยสุจริตใจว่า ประชาชนมีสิทธิวิพากษ์ วิจารณ์การเมือง และ นักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ที่กินภาษีของประชาชน โดยใช้สิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญอนุญาต


หากนักการเมืองใดเดือดร้อน หรือ เสียหายจากการโพสต์ของประชาชน นักการเมืองมีสิทธิใช้กฎหมายคุ้มครองตัวเองได้ ไม่ใช่ใช้ศาลเตี้ยจัดการ


เช่นเดียวกัน หากประชาชนรู้สึกว่าการกระทำของนักการเมือง ข้าราชการการเมือง ที่กินภาษีของประชาชน เป็นการละเมิดสิทธิ คุกคาม หรือ ชี้เป้าให้ตกเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และ ครอบครัว ประชาชนย่อมควรได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายไม่ต่างกัน


ดิฉันยังเชื่อว่า จริยธรรมของนักการเมือง และ ข้าราชการการเมืองจำเป็นต้องมี การใช้อำนาจหน้าที่ของข้าราชการการเมืองข่มขู่เอกชน บีบบังคับเอกชนให้ดำเนินการใด ๆ ต่อพนักงานของตน เพื่อสนองความต้องการของข้าราชการการเมือง เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและเสถียรภาพของประชาชน เช่นที่ดิฉันถูกกระทำจากนางอมรัตน์ซึ่งเป็นข้าราชการการเมือง ควรถูกพิจารณาสอบสวนจริยธรรมจากหน่วยงานที่สังกัด


ดิฉันยังเชื่อว่าประชาชนของประเทศไทย ควรต้องได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพ ต้องไม่ตกอยู่ในอันตรายจากการไล่ล่าแม่มดจากนักการเมือง จากข้าราชการการเมือง และ/หรือ จากประชาชนด้วยกัน


โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เรียกร้องยกเลิก/แก้ไข ม.112 โดยอ้างว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีฟรีสปีช วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย พรรคก้าวไกลอ้างเสรีภาพในการพูดและการแสดงความคิดเห็น ชักชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการเมือง ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพรรคก้าวไกลจะพิจารณาพฤติกรรมไล่ล่าแม่มดของนางอมรัตน์สมาชิกพรรคของตนอย่างจริงจัง


ดิฉันขอวิงวอนต่อทุกท่าน ได้โปรดยุติการคุกคามของนางอมรัตน์ที่มีต่อดิฉัน ได้โปรดคุ้มครองความปลอดภัยให้ดิฉันและคืนความยุติธรรมให้ดิฉันและครอบครัวด้วย

-------------------

ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา คุณอมรัตน์ โพสต์ระบุว่า


เช้านี้ถึงแม้จะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แต่ดิฉันมีความรู้สึกผิดติดค้างคิดว่าสมควรต้องออกมาขออภัยอย่างจริงใจต่อ toxic ในสังคมออนไลน์ที่ตัวเองมีส่วนสร้างขึ้นเมื่อวานนี้


ดิฉันยืนยันว่าได้ใช้วิจารณญาณและสัญชาติญาณในฐานะมนุษย์ ใช้พื้นฐานประสบการณ์และข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินว่าสิ่งไหนคือ "ภัยสังคม"


ภัยสังคมย่อมหมายถึงตัวเองไม่ได้เป็นผู้รับผลกระทบแต่เพียงลำพัง แต่เป็นภัยที่ชาวโลกออนไลน์ประสบร่วมกัน


การกระทำตามวิจารณญาณส่วนตัวนั้นจะผิดถูกดีเลวอย่างไร ดิฉันยินดีรับผิดชอบทั้งทางสังคมและทางกม.ทุกประการ


ดิฉันก็จะพิทักษ์สิทธิ์ตัวเองตามกม.ต่อไปเช่นเดียวกัน / จากนี้ต้อง move on เพื่อไม่เพิ่ม toxic ให้สังคมออนไลน์อีกต่อไปที่เกิดไปแล้วต้องขออภัยซ้ำอีกครั้ง


อย่างไรก็ดี ในทางส่วนตัวดิฉันรู้สึกเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า ทุกการตัดสินใจมีต้นทุนมีราคาที่ต้องจ่ายอยู่แล้วอันนี้ทราบดีอยู่


อนึ่ง ขอยืนยันว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 นั้นเป็นไปอย่างสุภาพมีเหตุผล ไม่มีสิ่งใดเลยที่ใกล้เคียงกับคำว่าข่มขู่คุกคามตามที่พยายามมี "กระแสปั่น"


ดิฉันเป็นไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่มีศักยภาพข่มขู่บังคับใครแน่นอนหากบุคคลที่ 3 ที่เกี่ยวข้องมิได้เห็นพ้องด้วย
-------------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5ZYSVw7S-ag

คุณอาจสนใจ

Related News