สังคม

สทนช.เตือนรับมือเอลนีโญ-ฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำสะสมในเขื่อนน้อย อาจทำให้แล้งหนักในปีหน้า

โดย panisa_p

18 ก.ย. 2566

163 views

ฝนที่ตกหนักทางภาคเหนือ ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของเขื่อนใหญ่ 4 เขื่อน ในลุ่มเจ้าพระยามากขึ้น เติมความหวังว่าจะมีน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง แต่ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่เขื่อนสิริกิตติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์วันนี้พบว่า ปริมาณน้ำที่สะสมในเขื่อนวันนี้ยังน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตร และโดยภาพรวมของทั้ง 4 เขื่อนใหญ่ ที่มีน้ำน้อยก็เสี่ยงที่จะเผชิญภัยแล้งต่อเนื่อง จำเป็นที่ต้องบริหารน้ำให้เหมาะสม



เขื่อนสิริกิตติ์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นหนึ่งใน 4 เขื่อนใหญ่ที่เติมน้ำลงในลุ่มเจ้าพระยา ตั้งแต่อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ถึงนครสวรรค์ ไปถึงลุ่มน้ำภาคกลางและภาคตะวันออกบางส่วน ขณะเดียวกันก็เป็นดัชนีชี้วัดสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาล่วงหน้าว่า โดยวัดจากปริมาณน้ำใช้การได้ที่มีอยู่ในเขื่อน



และสัญญาณที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือ เขื่อนสิริตกิตติ์ มีน้ำสะสม 5007 ล้าน ลูกบาศ์เมตร แต่เป็นน้ำที่ใช้ได้การได้จริงราว 2112 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น และขณะนี้เป็นช่วงท้ายฤดูฝน จึงถือว่าเสี่ยงที่จะเผชิญภัยแล้ง จำเป็นที่ต้องมีแผนใช้น้ำให้คุ้มค่า



นอกจากปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิตติ์ ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วในวันเดียวกันนี้แล้ว สถิติอื่นๆ ก็ต่างกันชัดเจน เช่นปีนี้มีน้ำไหลเข้ารวม 2847 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปีที่แล้ว 5412 ล้านลูกบาศ์เมตร ขณะที่น้ำระบายออก ตลอดปีที่แล้ว 3190 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้ยังไม่สิ้นฤดู ระบายน้ำไปแล้วถึง 4011 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปีที่แล้วถึง2600 ล้าน ลบม. โดยน้ำที่ระบายออก ใช้เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ อุปโภคบริโภคและการเษตรที่กระจายกันอยู่ในลุ่มน้ำน่าน นี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ เขื่อนสิริกิตติ์ย้ำเตือนการใช้น้ำให้คุ้มค่า



ตอนนี้ 12 มาตรการรับมือภัยแล้ง ที่คณะรัฐมตรีรับทราบแล้วก่อนหน้านี้ ถูกเผยแพร่เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำอย่างประหยัด ขณะเดียวก็ ก็เป็นสิ่งท้าทายเมื่อมีการณ์คาดการณ์ว่าราคาข้าวจะสูง ยิ่งทำให้มีความต้องการปลูกข้าวเพิ่มขึ้น แต่สวนทางกับน้ำที่จะทำนาซึ่งมีลดลง และหากยังฝืนเพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำมากก็มีโอกาสที่ผลผลิตจะเสียหาย

คุณอาจสนใจ

Related News