สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 15 ก.ย.66 รุมถล่มโฆษกรัฐบาล-นักการเมืองดังซื้อบริการ ด.ญ.-สั่งอายัดลอตเตอรี่

โดย thichaphat_d

15 ก.ย. 2566

73 views

1.บิ๊กโจ๊ก เค้นสอบ 6 ตร.เอี่ยวยิงสารวัตรแบงค์

2.อดีต สว.นักการเมืองดัง ย่องมอบตัวกลางดึก คดีซื้อบริการเด็กหญิง

3.จับแก๊งอุ้มรีดสาวจีน มัดมือเท้าซุกรถ

4.คอหวยวุ่นแน่ สั่งอายัด สลากกินแบ่งรัฐบาล

5.คนขับบัสวูบดับคาพวงมาลัย ขณะแซงโค้ง

6.พูดแล้ว นักแสดงหนุ่ม นนกุล รับสนิทนักแสดงสาวรุ่นพี่ แอฟ ทักษอร



เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ลั่น วปอ. เป็นอภิสิทธิ์ชน วอนใช้คอนเน็คชั่น


ท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ไปร่วมงานแถลงยุทธศาสตร์ชาติ ของนักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 65 ช่วงหนึ่ง พูดถึงคอนเน็คชั่น วปอ. ว่า จัดเป็นอภิสิทธิ์ชน ก็วิงวอน ไม่ใช้ประโยชน์แค่เพื่อตัวเอง แต่เผื่อแผ่ไปยังสังคมด้วย

เมื่อวานนี้ช่วงเย็น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานรับฟังการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. รุ่นที่ 65 ก็ถือเป็นภารกิจแรก ที่มาร่วมงานของกองทัพ หลังท่านบอกว่าจะดูแลความมั่นคงด้วยตัวเอง

โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วม

ที่น่าสนใจ คือเนื้อหา ระหว่างการขึ้นพูดของ ท่านนายกฯเศรษฐา ก็บอกว่า “ผมไม่มีโอกาสเข้ามาศึกษาในสถาบันแห่งนี้ แต่อยากฝากข้อคิด ว่า เรื่องวิชาความรู้ไม่เป็นที่น่าสงสัย แต่สถาบันวปอ. ยังพาทุกคน มาสานสัมพันธ์อันดี และความแข็งแกร่งของศิษย์เก่าเป็นที่ประจักษ์ ว่าเส้นสายสัมพันธ์ทำให้พวกท่านเป็นบุคคลพิเศษ หรือเรียกว่าอภิสิทธิชนก็ได้ เป็นท็อบ 1% หรือน้อยกว่าของประเทศนี้

จึงขอวิงวอน อ้อนวอน ไม่ใช้คอนเน็คชั่น เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง แต่เผื่อแผ่ ช่วยเหลือคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย



-นายกฯ แจง ยกเลิกคำสั่ง คสช. ต้องหารือกฤษฎีกาด้วย

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีโฆษกรัฐบาลแถลงเรื่องการยกเลิกคำสั่ง คสช.และมีคำว่า "รัฏฐาธิปัตย์" ออกมา เมื่อวาน นายกฯเศรษฐา ชี้แจงว่า เรื่องนี้ต้องปรึกษากฤษฎีกาด้วย และมีการพูดคำว่า "รัฐสนับสนุน" ขึ้นมาแทน ขณะที่โฆษกรัฐบาล ย้ำ ต้องกำจัด "ผลไม้พิษ"

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง เรื่องการยกเลิกคำสั่ง คสช.ว่า จะต้องปรึกษาสำนักงานกฤษฎีกา เนื่องจากกฎหมายบางข้อไม่ได้ใช้แล้ว หากเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตหรือการปฏิบัติหน้าที่ก็ยกเลิกไป แต่ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็ต้องนำกลับเข้ามา ครม.ใหม่

ซึ่งนายกฯ บอกว่า เป็นการพูดคร่าวๆ และรัฐบาลพยายามทำให้เป็น "รัฐสนับสนุน" ถ้ากฎหมายไม่ได้บอกทำไม่ได้ อยากให้รีบ ๆ ทำ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักนิติธรรมทั้งหมดโดยรวมของการบริหารจัดการประเทศและการดำเนินธุรกิจของประเทศ

ขณะที่คุณหมอชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล ผู้แถลงเปิดประเด็นเรื่องนี้ ให้สัมภาษณ์สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผ่านรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอว่า ที่ตนใช้คำว่า "รัฏฐาธิปัตย์" อาจจะเป็นคำแสลงของนักนิยมประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ต้องการสื่อ คือ ตอนนี้มาถึงยุคประชาธิปไตยแล้ว อำนาจสูงสูดเป็นของประชาชน และมอบให้รัฐบาล ดังนั้นถ้ารัฐบาลเห็นว่ากฎระเบียบอะไรเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตของประชาชน ก็ต้องยกเลิก

โดยอะไรที่มติ ครม.ยกเลิกได้ก็จะดำเนินการทันที อะไรที่ มติ ครม.ยกเลิกไม่ได้ก็จะ "ระเบิดทาง" และดำเนินการไปสู่การยกเลิก ตามกลไกกฎหมายในศักดิ์ที่เสมอกันหรือสูงกว่า

และย้ำว่า "เมื่อบ้านเมืองมาถึงยุคประชาธิปไตยแล้ว ในสวนประชาธิปไตย ถ้ายังเหลือผลไม้พิษ ก็ต้องเอาออกให้หมด"



-รุมถล่มโฆษกรัฐบาล ปมรัฏฐาธิปัตย์ - เลิกคำสั่ง คสช.

แต่ตลอดทั้งวันเมื่อวาน ก็มีผู้ออกมาแสดงความเห็นเรื่องรัฏฐาธิปัตย์ และการยกเลิกคำสั่ง คสช.อย่างคึกคัก ทั้งฝ่ายรัฐบาลและไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาล

ฝ่ายรัฐบาล คือ นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งนักกฎหมายคนหนึ่ง ได้ทวีตว่า “รัฐบาลไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ ดังนั้นการจะยกเลิกคำสั่ง คสช.ใด ๆ ต้องดูเนื้อหาของคำสั่งนั้นๆ ว่าอยู่ลำดับศักดิ์ใด ถ้าเป็นระดับ มติ ครม. รัฐบาลนี้ก็ใช้มติ ครม. ยกเลิกได้เลย แต่ถ้าเนื้อหานั้นเป็นกฎหมาย การจะแก้ไขหรือยกเลิก ก็ต้องเสนอกฎหมายผ่านสภา จะใช้ข้อสั่งการไม่ได้”

ส่วนอีกฝ่าย นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เข้าใจว่าหลักการที่โฆษกรัฐบาลแถลง คือ รัฐบาลต้องการที่จะยกเลิกหรือแก้ไขประกาศหรือคำสั่งของ คสช. ที่เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งในหลักการสามารถทำได้

แต่รัฐบาลต้องสั่งการให้มีการรวบรวม เพื่อแยกประกาศและคำสั่งของ คสช. ว่ามีสถานะเทียบลำดับชั้นกฎหมายว่าอยู่ในสถานะใด เพราะจะมีผลนำไปสู่วิธีการดำเนินการเพื่อยกเลิกหรือแก้ไข ด้วยวิธีการที่ถูกต้องต่อไป

"การที่รัฐบาลจะใช้คำว่ารัฐบาลเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ไม่ถูกต้อง ดูแล้วเหมือนเริ่มลุแก่อำนาจ ขาดการตรึกตรองที่ดี... เหมือนเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า รัฐบาลนี้เริ่มต้นแล้วในการเดินเข้าสู่เส้นทางการใช้อำนาจตามอำเภอใจ"

ขณะที่ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ก็ออกมาทั้งโพสต์เฟซบุ๊กและไลฟ์เรื่องนี้ บอก เห็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงแล้ว แสดงให้เห็นถึงการขาดความรู้เรื่องกฎหมายเบื้องต้น หากไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในพรรคเพื่อไทย หรือนักกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้ เพราะแบบนี้ไม่ใช่เสียแค่ตัวโฆษกฯเท่านั้น แต่กระทบถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะโฆษกไปอ้างว่าทั้งหมดเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี

และเสนอให้รัฐบาลตั้งอาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล มือกำหมายของพรรคเพื่อไทยมาเป็นรองนายกฯดูแลงานกฎหมายของรัฐบาล



-เพิ่มพูนเล็งแจกแท็บเล็ต ลดเหลื่อมล้ำการศึกษา

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวานนี้ได้นัดประชุมผู้บริหารกระทรวง โดยนโยบายสำคัญ ประกาศเดินหน้าแจกแท็บเล็ต ทั้งครูและนักเรียนทั่วประเทศ

เมื่อวานนี้ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยฯ ร่วมประชุมกับผู้บริหารกระทรวง มีหลายประเด็นที่ถูกพูดถึง ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษา บอกว่า ต้องทำความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการวางแผนการใช้เงิน ก็แนะนำ เช่น ค่าใช้จ่ายเวลาไปสอน อาจจะรวมรถกันไป รวมถึงยกตัวอย่างกรณีครูไปงานแต่งงาน หากมี 20 ก็ใส่ 20 บาท หากไม่มีเงิน ก็ไปช่วยเขาล้างจาน ก็เป็นเกียรติแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเปลี่ยนค่านิยม ในการอยู่อย่างพอเพียง

นอกจากนี้ ยังมอบแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาว่า สิ่งที่จะมุ่งเน้นในการทำงาน คือ ให้เด็ก "เรียนดี มีความสุข" โดยประกาศเดินหน้าแจกแท็บเล็ตทั้งครูและนักเรียนทั่วประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำการศึกษา

ในเรื่องการจัดหาแท็บเล็ตนั้น พล.ต.อ.เพิ่มพูน บอกว่าต้องดูในกรอบงบประมาณ ว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่ยังไม่มีกรอบเวลา ให้ผู้บริหารกระทรวงฯไปทำแอ็คชั่นแพลนมาก่อน จึงจะกำหนดกรอบเวลาได้ ซึ่งระหว่างตอบคำถาม ช่วงหนึ่ง ท่านบอกผู้สื่อข่าวว่า “ไม่คิดว่าจะได้มานั่งรัฐมนตรีฯศึกษาธิการ”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qMo2nVtCh6I


คุณอาจสนใจ

Related News