เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' แจงเงินดิจิทัล ใช้รัศมี 4 กม. ขยายบางพื้นที่ห่างไกล - 'จุลพันธ์' ยันไม่กู้เงินเพิ่ม

โดย thichaphat_d

12 ก.ย. 2566

4 views

วานนี้ (11 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานในการประชุม


เวลา 09.42 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เริ่มแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยย้ำในการเดินหน้า นโยบายเร่งด่วน เติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ


ต่อมา นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นกล่าวเป็นคนแรก เพื่อซักถามถึงเรื่องนโยบายต่างๆ โดยได้ตั้งคำถามว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่า


นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าแหล่งรายได้และงบประมาณ ตั้งคำถามว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต สุดท้ายแล้วจำเป็นจะต้องมีเงินสดมากองไว้เต็มจำนวนเพื่อเป็นการแบล็คมูลค่าเงิน เพื่อการันตีว่า 1 บาทในโลกจริง จะเท่ากับ 1 บาทดิจิทัล ซึ่งขึ้นอยู่กับที่มาของงบประมาณว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งหากไม่น่าเชื่อถือจะมีผลต่อร้านค้า ที่จะกังวลว่า รัฐมีเงินมารองรับหรือไม่ สุดท้ายจะกลายเป็นเงินเฟ้อในโลกดิจิทัล ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในการทำนโยบายคนละครึ่งที่แม่ค้าขอชาร์จค่าอินเทอร์เน็ต


ส่วนเรื่องการแก้วินัยกรอบการเงินการคลัง นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า


ตนไม่ได้มีปัญหากับตรงนี้ แต่มีปัญหาตรงที่คำแถลง มีการเพิ่มพูดถึงการรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด แต่งานแรกในฐานะประธานกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ จะเริ่มต้นด้วยการทะลายกรอบการเงินการคลังเลยหรือไม่ เราไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้ ถึงเวลาที่จะต้องตั้งใจฟังเสียงที่ไม่ได้อยากได้ยิน ข้อดีคือ คำแถลงนี้สามารถทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ผิดสัญญา แม้จะพลาดในครั้งนี้ ยังมีโอกาสในการแถลงงบประมาณ

จนเมื่อเวลา 17.33 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งแรกของวัน


โดยขอบคุณทุกความเห็นจากสมาชิกรัฐสภา ที่ให้คำแนะกับรัฐบาล ในการดำเนินนโยบายรัฐบาลจะยึดโยงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และประชาชนของรัฐบาลนี้ ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัด และคนทุกฐานะ รวมถึงข้าราชการ อย่างเท่าเทียม และทั่วถึง


นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันเพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า จะไม่แก้ไขหมวดหนึ่งและหมวดสอง ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะดำรงไว้ซึ่งการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข


ส่วนเรื่อง 4 กิโลเมตร ของนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเราตระหนักดีว่าชนบทอาจจะมีร้านค้าไม่เพียงพอ จึงขอไปดูรายละเอียดและดำเนินงานให้เหมาะสมตามคำแนะนำของสมาชิก


ขณะที่เรื่องระยะเวลาในการใช้ 6 เดือน เรื่องนี้จำเป็น เราต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดังนั้น ระยะเวลาในการใช้เงินครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก


สำหรับกรณีที่มีบางคนบอกว่า อยากให้ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ถ้าเกิดคนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใด ก็ควรกลับไปใช้ที่นั่น ซึ่งมีเวลาถึง 6 เดือน กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น เพราะฉะนั้น 4 กิโลเมตร ตามบัตรประชาชนขอคงไว้ ยกเว้นบางเขตอาจจะต้องขยาย

-----------

วานนี้ (11 ก.ย.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงต่อจากนายกรัฐมนตรี ถึงนโยบายของรัฐบาล ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า


เป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากไ ปที่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ด้วยกลไกการใช้บล็อกเชน และกำหนดกรอบที่จะสามารถใช้จ่ายเงินที่อยู่ในกระเป๋าเงินดิจิตอลได้


โดยหลักคิดของนโยบายนี้ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ในจุดใดของประเทศ รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนคนไทยในอนาคต สามารถมีกระเป๋าเงิน 2 กระเป๋า คือ กระเป๋าเงินสด และกระเป๋าเงินดิจิทัล ในการสร้างพื้นฐานรองรับเศรษฐกิจระดับโลกได้


สำหรับแหล่งที่มาของงบประมาณ ที่มีการอภิปรายอย่างหลากหลาย ขอให้สมาชิกระมัดระวังในการชี้นำแหล่งที่มาให้กับสังคม อาจทำให้สังคมเข้าใจผิด  และกระทบความน่าเชื่อถือ และกรอบวินัยทางการเงินการคลัง


โดยขอยืนยัน รัฐบาลยึดมั่นกรอบวินัยการเงินการคลัง ไม่แตะต้องทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนน้ำมัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ กองทุนประกันตนก็ตาม ซึ่งรัฐบาลรู้จุดประสงค์ในตัวเม็ดเงินนั้นดี จึงขอให้รัฐสภามั่นใจได้


ดังนั้น กระบวนการที่รัฐบาลจะทำสุดท้ายจะมีความชัดเจน ทั้งกรอบการใช้เงิน ระยะเวลาในการดำเนินการ และการนำเงินมาใช้คืนในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ ไม่มีการกู้เพิ่มแน่นอน พร้อมย้ำยึดกรอบวินัยทางการเงินการคลัง


ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจของดิจิทัลวอลเล็ท เช่น กรณีรัศมี 4 กิโลเมตร ขณะนี้ อยู่ในช่วงของการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีการเสนอมากมายจากภาคประชาชน ก็พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิกไปพิจารณาในภาพรวม เพื่อหาหนทางที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดในกระบวนการใช้เม็ดเงิน


สุดท้ายข้อสรุปจะเป็นเช่นไร เม็ดเงินทั้งหมดจะถึงมือพี่น้องประชาชนและเกิดประโยชน์สูงสุดในเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจ


ส่วนการเอื้อทุนใหญ่แ ละการดำเนินการในราคาที่ไม่เป็นธรรม ก็จะรับฟังด้วยความเป็นธรรม แต่โดยหลักคิดแล้ว รัฐบาลไม่ได้มองพี่น้องประชาชนเป็นผู้ร้าย  เพราะประชาชนส่วนมากเมื่อได้เงินไปแล้ว หากจัดสรรการใช้เงินได้เป็นประโยชน์ เชื่อว่าการใช้เงินจากดิจิทัลวอลเล็ท ด้านการบริโภคที่เป็นประโยชน์หมุนเวียนในชุมชนของตน


ส่วนข้อกังวลเม็ดเงินจะไหลไปที่ทุนใหญ่ ขอชี้แจงว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ท ไม่มีการเลือกปฏิบัติ จึงขอให้ความมั่นใจกับประชาชน โดยขณะนี้ มีพี่น้องประชาชนรวมกลุ่มจำนวนมาก เพื่อนำเม็ดเงินไปต่อยอดอาชีพจัดกิจกรรมที่จะสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ซึ่งเป็นแนวความคิดของประชาชนล้ำหน้ากว่ารัฐบาลปัจจุบันนี้ ดังนั้น นโยบายนี้เมื่อลงไปแล้ว ก็จะแตกยอดความคิด


ขณะเดียวกัน ในช่วงท้าย นายจุลพันธ์ ยืนยันเทคโนโลยีบล็อกเชนโปร่งใส ตรวจสอบได้ และย้ำว่านโยบายนี้เกิดประโยชน์ตรวจสอบได้โดยครบถ้วนสมบูรณ์
------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WO_UJwsuniU

คุณอาจสนใจ

Related News