'เศรษฐา' ลุยอีสานสำรวจภัยแล้ง จ่อชงครม. ออกมาตรการช่วยเกษตรกร-กระตุ้นศก.-ลดราคาพลังงาน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ติดตามปัญหาภัยแล้ง และจังหวัดอุดรธานี ติดตามความคืบหน้างานมหกรรมพืชสวนโลก โดยไม่เห็นด้วยที่จะขอเพิ่มงบประมาณมากเกินความจำเป็น และในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกวันพุธที่ 13 กันยายน จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งเงินดิจิตอลวอลเลต การพักหนี้เกษตรกร และลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน



เริ่มที่จังหวัดขอนแก่น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรี รวม 8 คน ทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ,ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรนายไชยา พรมมา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรงงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ร่วมกันครั้งแรกที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ติดตามปัญหาภัยแล้งที่นอกจากรับฟังบรรยายสรุปจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมชลประทาน และจังหวัดขอนแก่นแล้ว ยังรับฟังข้อเสนอจากประชาชนผู้ใช้น้ำทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน



ซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสถานการณ์น้ำที่กำลังจะหมดฤดูฝน แต่มีการบริหารจัดการในระยะสั้นแล้ว แต่ต้องเตรียมการในระยะยาวด้วย เพราะจะต้องทำให้น้ำไม่ท่วมและไม่แล้ง โดยเห็นด้วยที่จะผลักดันโครงการโขง-ชี-มูล-เลย ที่จะผันน้ำจากแม่น้ำโขงจากอ.เชียงคาน จ.เลย ผ่านอุโมงค์น้ำายังเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่าจะทำให้มีน้ำเพิ่ม 1,700 ล้านลูกบาศก์เมตรและเพิ่มพื้นที่ประโยชน์จากการใช้น้ำกว่า 1 ล้าน 7 แสนไร่



ระหว่างการเดินทางออกเขื่อนอุบลรัตน์ นายกรัฐมนตรี ได้จอดรถพูดคุยกับ นายอุดม พื้นทอง บ้านกุดเชียงมี ที่กำลังหว่านข้าว จึงแลกเปลี่ยนเรื่องปัญหาราคาข้าว และการเจอปัญหาน้ำท่วม รวมถึงต้นทุนค่าน้ำมัน



นายกรัฐมนตรี กล่าวกับชาวนาว่า รัฐบาลนี้ตั้งใจทำให้ราคาข้าวดีขึ้น รวมถึงราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่จะทำให้รายได้สุทธิดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายรับจำนำข้าวหรือประกันรายได้ เพราะไม่อยากบิดเบือนราคาตลาด และให้เป็นไปตามกลไกลตลาด แต่ต้องการทำให้รายได้สุทธิดีขึ้น ผ่านราคาสินค้าเกษตร ซึ่งจะมีการขยายตลาดต่างประเทศ และลดต้นทุน เช่นราคาปุ๋ย ส่วนการค้าต่างประเทศ จะมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนการค้า ผลักดันสินค้าเกษตรให้ดีขึ้นทุกตัว



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรึ ลงพื้นที่ศูนย์เตรียมความพร้อมงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี 2569 ที่ทุ่งหนองแด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อรับฟังความคืบหน้าโครงการมหกรรมพืชสวนโลก ที่จะมีขึ้นระหว่างวันนที่ 1 พฤศจิกายน 2569- 4 มีนาคม 2570



โดยนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และนายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี รายงานว่าเหตุที่การก่อสร้างล่าช้า เพราะหลังจากมีการอนุมัติโครงการสถานที่จัดงานบริเวณทุ่งหนองแดงแล้วกว่า 1 พันไร่ และออกแบบเรียบร้อยแล้ว แต่ยังล่าช้าเพราะการอนุมัติงบประมาณไม่ต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการของบประมาณเพิ่มอีกกว่า 3,000 ล้านบาท จาก 2,500 ล้านบาท ทำให้นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการของบประมารเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว รัฐบาลคงไม่สามารถจัดหาให้ได้ทั้งหมดเพราะต้องใช้ในส่วนอื่นด้วย แต่ชื่นชมที่จังหวัดอุดรธานีกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกที่จะเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวได้อีกมาก จึงอยากให้ปรับการใช้งบประมาณให้เหมาะสมและวางแผนสำหรับการใช้ประโยชน์พื้นที่ก่อสร้างสถานที่จัดงานอย่างต่อเนื่องด้วย



ในช่วงค่ำนายกรัฐมนตรี ได้เดินเที่ยวชมถนนคนเดิน เมืองอุดรธานี พูดคุยทักทายกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ที่มาขอถ่ายภาพกับนายกรัฐมนตรีจำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีทักทายอย่างเป็นกันเองทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ซึ่งมีการสอบถามถึงการจ่ายเงินดิจิตัล วอลเลต ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก 13 กันยายน จะมีมาตรการพักหนี้เกษตรกร มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดราคาไฟฟ้า และราคาน้ำมัน ตามที่ได้ประกาศไว้ และ รัฐบาลนี้เป้าหมายที่จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เติบโตปีละ 5 % ให้ได้