เลือกตั้งและการเมือง

'สุทิน' หอบพวงมาลัยเข้าพบ 'บิ๊กโอ๋' ขอคำแนะนำนั่ง รมว.กลาโหม แจงกองทัพเห็นพ้อง ยกเลิกเกณฑ์ทหาร

โดย petchpawee_k

5 ก.ย. 2566

11 views

เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) เวลา 10.00 น. นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินสายเข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักส่วนตัว ภายในซอยพหลโยธิน 62/1 เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน


โดยนายสุทิน เดินทางมาถึงก่อนเวลาประมาณ 10 นาที ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือไหว้ พล.อ.อ.สุกำพล ที่ออกมารับด้วยตนเอง พร้อมนำพวงมาลัยที่เตรียมมามอบให้ ก่อนจะเข้าไปหารือกันภายในบ้าน


ระหว่างการการหารือ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่พลเรือนแท้ๆ มาคุมกระทรวงกลาโหม นายสุทิน จึงตอบกลับว่า "ผมมาทำงานตรงนี้เลือกไม่ได้ วันนี้ก็เลยอยากจะมาขอคำแนะนำ เพราะพลเรือนแม้จะศึกษามาเยอะ แต่ก็ไม่สู้คนที่ทำมาก่อน โดยเฉพาะความเป็นรัฐมนตรี จึงต้องมาขอคำแนะนำ" ทำให้พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวรับว่า ถือเป็นโอกาสดีที่มาขอคำแนะนำ เพราะบางคนอยากทำก็ทำเลย ทำไปแล้วผิดก็ไปเลย ไม่บอก มันก็ไปเรื่อย" นายสุทิน กล่าวต่อว่า นักวิชาการก็ต้องฟัง นายสุรชาติ บำรุงสุข ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ


ภายหลังจากที่นายสุทิน เดินทางเข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของนายทักษิณ เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน กว่า 1 ชั่วโมง


นายสุทินและ พล.อ.อ.สุกำพล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ร่วมกัน โดยนายสุทิน กล่าวว่า วันนี้เราได้ความมั่นใจและความรู้เยอะมาก ท่านเชื่อมั่นว่าตนจะทำได้ จึงได้ถ่ายทอดความเป็นรัฐมนตรีว่าจะต้องบริหารอะไรบ้าง สิ่งสำคัญอันดับ 1 2 และ 3 คืออะไร จะต้องวางตัวอย่างไร บางเรื่องท่านก็ให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์มาก


นายสุทิน ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนได้พูดคุยกับทหารหลายกลุ่ม ประมวลแล้วถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี มีกำลังใจในการทำงาน


เมื่อถามว่าได้มีการสะท้อนอะไรหรือไม่ เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่เป็นฝ่ายพลเรือน นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ได้สะท้อนอะไร แต่เราได้เห็นสัญญาณทางกองทัพก็เปิดใจกว้างรับพลเรือน และเราก็จับสัญญาณได้ว่าหากเราเข้าใจเขา มีแนวปฏิบัติชัดเจน และเขาเชื่อมั่นว่าเราทำเพื่อชาติ ตนเชื่อว่าทหารไม่มีปัญหา


เมื่อถามว่าตอนนี้ไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรแล้วใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ไม่ได้ลำบากใจ แต่ก็ไม่ถึงประมาท ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าไม่ประมาทคืออะไร นายสุทิน ย้ำว่า ประมาทคือบริหารแบบไม่ต้องไปคิด ไม่ต้องไปอ่าน ไม่ต้องไปเตรียม ชิลๆ


เมื่อถามว่าที่กลัวเรื่องประมาท เพราะมีบทเรียนมา 2 ครั้งแล้วใช่หรือไม่ จากรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทย นายสุทิน กล่าวว่า อันนั้นเราไม่ได้คิด และไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็นที่ต้องนำมาคิดด้วย ถ้าเราคิดว่าเรารู้ดีแล้ว ชำนาญแล้ว นั่นคือประมาท


เมื่อถามถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องยกเลิกเกณฑ์ทหารและงบจัดซื้อเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกับ 3 เหล่าทัพ แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด ส่วนเรื่องการเกณฑ์ทหารพอได้พูดคุยแล้วพบว่ากองทัพคิดมานานแล้ว เขาทำเป็นขั้นตอน แต่ถ้าหากให้เร็วตามที่สังคมต้องการ รัฐบาลจะต้องเข้าไปกำกับและสนับสนุน ดังนั้น ตนไม่หนักใจ


เมื่อถามย้ำถึงกรณีเรือดำน้ำที่ทางกองทัพเรือเตรียมที่จะให้นายสุทิน ลงนาม และเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์จีน นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว ตนจะพูดถึงเรื่องนี้ แต่เท่าที่พูดคุยก็ถือว่ามีทางออก เป็นทางออกที่ดีด้วย แต่ขอพูดหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา


เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นงบประมาณผูกพัน มีโอกาสเดินหน้าต่อหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า รอแถลงนโยบายก่อน ก่อนที่ พล.อ.อ.สุกำพล จะพูดสวนขึ้นมาว่า ถามเร็วไป


เมื่อถามว่าการปรับลดกำลังพล ที่นายสุทินเคยพูดว่าจะเริ่มต้นได้เดือนเมษายนปีหน้า หลายคนวิจารณ์ว่าช้าไป นายสุทิน กล่าวว่า ที่บอกว่าเมษายนปีหน้า คือทหารเกณฑ์ เพราะทหารเกณฑ์เขาจะเลือกเดือนเมษายน ซึ่งทางปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่าได้มีการศึกษาเรื่องนี้ไว้แล้ว สามารถทำได้เลย ในเรื่องการเปิดรับสมัครแบบสมัครใจ ซึ่งหากจำนวนที่สมัครแบบสมัครใจเต็มแล้วก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ส่วนเรื่องการปรับลดกำลังพลเป็นเรื่องของการปรับสัดส่วนของนายพลที่บอกว่าเยอะเกินไป โดยกองทัพก็มีแผนอยู่แล้ว ปี 2570 ขนาดของกองทัพจะเปลี่ยน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาวางไว้ รัฐมนตรีมีหน้าที่ช่วยให้เป็นไปตามแผน


เมื่อถามย้ำถึงการลดการเกณท์ทหาร ว่าเราใช้วิธีการรับสมัครแบบ 100% ไม่ได้เพราะยังขาดทหารเกณฑ์อีกประมาณ 40,000 คน นายสุทิน กล่าวว่า ข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือต้องมีทหาร เพราะเขาประเมินแล้วว่าศักยภาพของกองทัพต้องมีกำลังพลเท่าไหร่ เราจึงจะต้องเปิดรับสมัครก่อน และการที่เราจะเปิดรับสมัครแค่ได้เยอะ เราจะต้องสร้างแรงจูงใจคือเพิ่มสวัสดิการให้ดีขึ้นและปรับทัศนคติ ไม่ให้มีทัศนคติเชิงลบกับทหารเกณฑ์


“ติดภาพการฝึกแบบโหดร้าย ทารุณ เด็กเจ็บและเด็กตาย อันนี้เราต้องกลับความเชื่อเขา และยังมีความเชื่อ โดยเฉพาะผู้ปกครองในต่างจังหวัด ว่าเอาลูกเขามาเป็นทหารเกณฑ์ ได้เงินเดือนจริงแต่รับจริงไม่ถึง เราต้องพูดให้ชัดว่าเด็กที่เป็นทหารเกณฑ์ต่อไปนี้ จะได้รับเงินเดือนเต็ม หักก็หักเท่าที่จำเป็น เราจะได้อธิบายได้ เข้าบัญชีโดยตรง” นายสุทิน กล่าว


จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่าที่พูดคุยกันในวันนี้ก็ชี้แจงให้ฟังว่าเข้าไปแล้ว จะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่พลเรือนเข้ามาคุมทหาร ซึ่งได้พูดคุยกันก็มีความเข้าใจ นายสุทินก็รับได้เยอะแล้วคงไปเตรียมตัวเองให้พร้อม ตนคิดว่าเมื่อพลเรือนมาคุมทหาร มีจิตใจที่ดี ทหารก็คงมีจิตใจที่ดี ทุกอย่างก็จบ เข้าหากันคนละครึ่งทาง


นายสุทิน เปิดเผยต่อด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการเดินทางไปพบ พล.เชษฐา และนายสุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการฝ่ายความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นอกจากนี้ยังมีคิวที่ประสานอยู่ เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก่อนวันแถลงนโยบายก็คงจะพบ


ส่วนจะมีการขอพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบกด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็จะไปพบท่าน ไม่เลือกฝ่ายไหน


เมื่อถามว่าการเดินสายพบบุคคลสำคัญแสดงให้เห็นว่ายังไม่พร้อมในการบริหารกระทรวงกลาโหมใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ มันเป็นสไตล์การทำงานของตน เราคิดว่าขอความรู้ ขอประสบการณ์ ยังเป็นน้ำไม่เต็มตุ่ม มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ และการที่ไปพบก็ได้ความรู้กับมาทั้งนั้น


ทั้งนี้ นายสุทินกล่าวด้วยว่ายังไม่รู้ว่าวันไหนจะเข้ากระทรวง ต้องรอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/EqxjpLlEtBU

คุณอาจสนใจ

Related News