สังคม

จับแล้ว ไอ้หื่นบุกใช้มีดจี้ขืนใจ LGBTQ+ ต่อหน้าแฟนหนุ่ม จำนนด้วยหลักฐาน

โดย kanyapak_w

2 ก.ย. 2566

3K views

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายจอมหื่นวิตถารบุกห้องพักผู้เสียหายซึ่งเป็น LGBTQ+ ในหอพักแห่งหนึ่งย่านชุมชนทุ่งเสา เขตเทศบาลนครใหญ่ จ.สงขลา ขณะนอนอยู่กับแฟนหนุ่ม โดยใช้วิธีสับคัตเอาท์แผงไฟบริเวณชั้น 3 ให้ไฟดับ เพื่อล่อเหยื่อออกมาดู และใช้มีดจี้คอ ก่อนจะร่วมรักทางประตูหลังต่อหน้าแฟนหนุ่ม



แต่เปลี่ยนใจพาขึ้นไปทำอนาจารบนดาดฟ้าชั้น 4 แทน ก่อนใช้วิธีสไลน์หนอนจนสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และยังชิงโทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง โดยผู้เสียหายรายนี้บอกว่า ไม่เห็นหน้าคนร้าย เพราะ สวมไอ้โม่ง แต่จำอวัยวะเพศได้ เพราะ ผ่าเบนซ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.40 วันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา



โดยในวันเกิดเหตุทาง พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ต.บัญญัติ สุกิจจารักษ์ สว.สส.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้แกะร้อยคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดขณะเดินขึ้นไปในโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับหอพัก และปีนดาดฟ้าชั้น 4 ข้ามฟากไปก่อเหตุ



จนรู้ตัวว่า เป็นชายอายุ 34 ปี และตามไปจับได้ในช่วงเย็นของวันเกิดเหตุที่บ้านพักในย่าน ถ.เทียนจ่ออุทิศ ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่ยังคงปากแข็ง แม้ว่าถึงขั้นต้องดูอวัยวะเพศที่ผ่าเบนซ์ตรงเป๊ะตามที่ผู้เสียหายยืนยัน แต่ก็ยังคงปฏิเสธ



โดยพบว่า มีประวัติเคยก่อคดีพยายามฆ่า จี้พยามยามข่มขืน และ คดียาเสพติด และเคยติดคุกมาแล้วด้วย เบื้องต้นตำรวจจึงทำได้เพียงแจ้งหาเสพยา เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด และคุมตัวเอาไว้นั้น



ล่าสุดวันที่ 2 ก.ย. 66 ผู้ต้องสงสัยรายนี้ดิ้นไม่หลุดแล้ว เนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอจากคราบอสุจิบนดาดฟ้า ชั้น 4 และที่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายทั้ง 2 เครื่อง ออกมาแล้ว ซึ่งตรงกับชายต้องสงสัยรายนี้ ชื่อว่า นายภูริวิทย์ อายุ 34 ปี จึงขอศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ



และโดนแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 4 ข้อหา นอกเหนือจากเสพยายาเสพติด คือ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำด้วยประการใดอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธและในเคหสถาน , ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยการขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้อาวุธ , บุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน และ พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร



และคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี แม้ว่าทีแรกจะปากแข็งยืนกรานกระต่ายขาเดียวไม่ได้ก่อเหตุ แต่ต้องมาจำนนด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวดิ้นไม่หลุด



ทั้งนี้ผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวรายรายงานว่า ได้ส่งผลกระทบกับจิตใจ น้องริน(นามสมมติ) อายุ 19 ปี สาวประเภทสองอย่างหนัก เนื่องจากถึงขั้นต้องเลิกกับ นายเกม(นามสมมติ) แฟนหนุ่มอายุ 16 ปี เนื่องจากครอบครัวของแฟนหนุ่มรับไม่ได้ที่ลูกชายมาคบกับ LGBTQ+ จึงจำเป็นต้องเลิกกัน



ทำให้หัวใจเธอบอบช้ำอย่างหนัก เพราะ นอกจากจะต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้ายถูกคนร้ายทำอนาจารแล้ว ยังต้องเลิกกับแฟนด้วย ที่สำคัญหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวยังถูกด้อยค่า และบูลลีจากคอมเมนต์ในโซเชียล จากการที่เธอเป็น LGBTQ+




แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม

คุณอาจสนใจ

Related News