'ศ.ดร.สิริพรรณ' มองความท้าทาย 'รัฐบาลเศรษฐา' ชูธงเศรษฐกิจ เรียกคืนศรัทธาหลังข้ามขั้ว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อคณะรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งแน่นอนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยจะคุมกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ท่ามกลางความท้าทายของรัฐบาลผสมที่โฉมหน้ารัฐมนตรีบางกระทรวงอาจจะไม่ถูกใจประชาชน



ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี มองว่าการตัดสินใจเลือกคุมกระทรวงด้านเศรษฐกิจ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และดึงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงกระทรวงดิจิทัล มาอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย แม้ต้องสูญเสียกระทรวงมหาดไทยแต่เชื่อว่าไม่เสียหาย เพราะพรรคเพื่อไทยได้ทำงานถนัดด้านเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องพบกับความท้าทายสำคัญจากศรัทธาประชาชน โดยเฉพาะจากโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี สถานการณ์เศรฐกิจโลก และความล่าช้าในการผ่านงบประมาณรายจ่ายปี 2567 และเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีนโยบายตัวเอง ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงในสภา เพียง 141 เสียง จึงขาดอำนาจการต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาล



นอกจากนี้ยังมีความท้าทายเฉพาะตัวของนายเศรษฐา ที่ขาลอยในพรรคเพื่อไทย ไม่มีอำนาจเด็ดขาดภายในพรรค และไม่ได้เป็น สส. รวมถึงการมีชนักติดหลังจากการเปิดโปงของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์​ ทำให้นายเศรษฐา ตกในที่นั่งตัวประกัน ที่อาจจะตกเก้าอี้ได้ตลอดเวลา ทำให้รัฐบาลอาจขาดเสถียรภาพ แต่กลายเป็นจุดแข็งที่พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่เลือกยุบสภา เพื่อใช้เวลาในการเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนให้มากที่สุด



ส่วนบทบาทการเป็นฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกล อาจเป็นหอกข้างแคร่ของพรรคเพื่อไทย แต่ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้น่ากลัวแล้ว เพราะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม



ขณะที่การกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีผลต่อการเมืองไทยโดยตรง ที่ต้องตระหนักถึงความรู้สึกของประชาชนและความเป็นธรรมที่เท่าเทียม



การก้าวข้ามความท้าทายของรัฐบาลเศรษฐา 1 และพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายอนุรักษ์นิยม หากจะสร้างความเชื่อมั่นต้องการปรองดอง อาจต้องกล้าหาญพอที่จะกล่าวคำว่าขอโทษกับประชาชน