สังคม

ครูไม่ปล่อยผ่าน เอาใจใส่เด็ก เห็น นร.ซึม อดข้าว รีบแจ้ง ผอ.ลงพื้นที่ หาทางช่วย

โดย thichaphat_d

31 ส.ค. 2566

402 views

ครูแปลกใจ ลูกศิษย์นั่งซึม อดข้าว ตรวจสอบพบเด็กยังค้างค่าเทอม อดมื้อกินมื้อ จึงนำเรื่องแจ้ง ผอ. สั่งการลงพื้นที่ตรวจสอบ เร่งช่วยเหลือด่วน ก่อนเป็นปัญหาสังคม ลุกลาม

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 ส.ค.2566 นายสิริบูรณ์ พรหมคุณ พัฒนาการอำเภอบางเสาธง สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางเสาธง ร่วมกับ ศตส.ภาคประชาชน และกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอบางเสาธง พร้อมด้วยสถานีอนามัยเจริญราษฎร์ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนประสบปัญหาทางสังคม ต้องการความช่วยเหลือ ที่แฟลตเคหะเมืองใหม่บางพลีโครงการ 3 ตึก 24 หมู่ที่ 15 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ครอบครัวนี้อยู่กัน 3 คน คือ พ่อ ลูกชาย และลูกสาว


หลังจากได้รับการประสานจากครูประจำชั้น ม.3 ว่าพบเด็กเรียนดีแต่ยากจน จึงนำเรื่องแจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบ และมีคำสั่งให้ลงพื้นที่ตรวจ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือด่วน

โดยครูประจำชั้น กล่าวว่า จากการสังเกตพบเด็กมีอาการแปลก นั่งซึมไม่ค่อยกินข้าวกลางวัน และยังค้างค่าเทอม จึงเข้าไปพูดคุยสอบถาม หลังทราบปัญหา จึงนำเรื่องแจ้งผู้อำนวยการฯรับทราบ และมีคำสั่งให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านพักของเด็กฯ พบว่านายศุภชัย ศรีมาส อายุ 57 ปี (บิดา) ป่วยด้วยโรคประจำตัว มีอาการปวดศีรษะ บ้านหมุนเป็นประจำ ไม่สามารถทำงานได้ ต้องลาออกจากงาน มากว่า 1 ปี ปัจจุบันไม่มีราย ต้องนำเงินเก่าที่เก็บไว้ มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน



ส่วนบุตรชายคนโตทำงานแล้ว แต่มีรายได้เพียงพอแค่ใช้จ่ายส่วนตัว ไม่สามารถนำเงินมาช่วยเหลือพ่อและน้องสาวได้ ซึ่ง ด.ญ.ภัทรลภา ศรีมาส อายุ 14 ปี ลูกสาวคนเล็ก ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) สมุทรปราการ ชั้น ม.3 มีความประพฤติเรียบร้อย เรียนดี เป็นลูกกตัญญู ไม่เคยทำให้พ่อหนักใจ หรือเรียกร้องสิ่งของใดๆ จากพ่อ เหมือนกับเด็กวัยรุ่นทั่วไป ขณะนี้กำลังประสาน หาทุนการศึกษาให้กับเด็กได้เรียนต่อในระดับสูงต่อไป



นายสิริบูรณ์ พรหมคุณ พัฒนาการอำเภอบางเสาธง กล่าวว่า ในวันนี้เป็นตัวแทนของคณะกรรมการ โดยมีนายชูชาติ พิพัฒน์ศรัทธา นายอำเภอบางเสาธง ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงระดับอำเภอ (ศจพ.อ) มามอบเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท ในเบื้องต้นเป็นการช่วยเหลือในภาวะที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน ให้แก่ผู้ประสบปัญหาด้านรายได้และด้านการศึกษา จากนั้นจะได้ดำเนินการในขั้นตอนของระเบียบทางราชการ ให้อีก

คุณอาจสนใจ

Related News