อาชญากรรม

เปิดปมเหตุสลด ฆ่ายกครัว 3 ศพ เครียดหนี้สินค้ำประกัน ถูกแก๊งเงินกู้ออนไลน์หลอกซ้ำ

โดย panisa_p

28 ส.ค. 2566

320 views

วันนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นในครอบครัวส่วนหนึ่งมาจากหนี้สินและถูกซ้ำเติมด้วยการถูกหลอกผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งสะท้อนถึงอันตรายรุนแรงของภัยออนไลน์ เพราะหัวหน้าครอบครัวหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำร้ายภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบ และ 11 ขวบ เสียชีวิตรวม 3 ศพ ส่วนตัวเองบาดเจ็บสาหัส ปมเหตุคาดว่ามาจากความเครียดเรื่องหนี้สินที่ไปค้ำประกันซื้อรถยนต์ของผู้อื่น จนตัวเองจะถูกยึดบ้าน จากนั้นก็ไปกู้ยืมมาได้ราว 1 ล้าน 7 แสนบาท แต่ในที่สุดก็เงินก้อนที่ยืมมา ก็ถูกมิจฉาชีพใช้แอปพลิเคชันหลอกลวง จนสุดท้ายก็สูญเงินทั้งหมด



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งชุดสืบสวนมาคลี่คลายคดี ไปทำงานร่วมกับตำรวจภูธรบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตามล่าแก๊งมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงครอบครัวนายสาณิช วัย 41 ปี จนสูญเงินที่มีทั้งหมด นำมาซึ่งความเครียดและก่อเหตุสลด จนภรรยาและลูกชาย 2 คน เสียชีวิต รวม 3 ศพ ขณะที่นายสาณิช ทำร้ายตัวเองหวังจะจบชีวิตด้วย แต่แพทย์พบว่ามีอาการสาหัส เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อคืนนี้ที่บ้านพักของนายสาณิช ที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ



เพื่อนบ้านคนหนึ่ง ยืนยันว่าสามีภรรยาคู่นี้ เป็นเพื่อนบ้านที่อัธยาศัยดี สามีทำงานบริษัทโลจิสติกส์ ส่วนภรรยาทำงานโรงงานผลิตนมแห่งหนึ่ง ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเมื่อ 6 ปีก่อน นายสาณิช ค้ำประกันการซื้อรถยนต์ให้อดีตหัวหน้างาน แต่สุดท้ายเจ้าของรถก็ไม่จ่ายหนี้และนำรถมาจอดทิ้งไว้ที่บ้าน ทำให้นายสาณิช ถูกทวงหนี้สินทั้งหมด และมีหมายศาลมาติดที่บ้านเพื่อให้ชำระกว่า 8 แสนบาท จากนั้นครอบครัวได้กู้เงินนอกระบบ เพื่อจายหนี้ ไม่ให้ถูกยึดบ้านจนเกิดหนี้หมุนเวียน กระทั่งสัปดาห์ที่แล้ว ภรรยานายสาณิช กู้เงินมาอีก 1 ล้าน 7 แสนบาท



เพื่อนบ้านยังระบุว่า หลังจากกู้เงินมาได้ไม่นาน ภรรยาของนายสาณิช ก็ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชั่น จนเงินก้อนดังกล่าวก็เสียไปด้วย



ทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ไปขอค้นเอกสารการแจ้งความ ที่ สภ.บางแก้ว พบว่าวันที่ 25 สิงหาคม หรือเมื่อ 3 วันก่อน ภรรยาของนาย สาณิช ไปแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พบโพสต์โฆษณาในเฟซบุ๊ก แต่จำชื่อเพจไม่ได้ ชักชวนว่าจะปล่อยเงินกู้ให้ จำนวน 5 เท่าของเงินเดือน



ภรรยานายสาณิช จึงกดลิงค์ในโพสต์ดังกล่าวแล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว และแจ้งว่าต้องการกู้เงิน 1 แสนบาท เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จ ได้กดลิงค์เพื่อรอผลการอนุมัติ จากนั้น มิจฉาชีพแอดไลน์กลับมาแจ้งว่าเงินที่ยื่นกู้ ผ่านการอนุมัติแล้ว แต่อ้างว่ามีเงินไขให้สร้างเครดิตในระบบธนาคาร โดยจะต้องโอนเงิน 10% ของยอดเงินที่ยื่นกู้ คือ 1 หมื่นบาท เข้าบัญชีก่อนจึงจะได้รหัสถอนเงินกู้ 1 แสนบาท



ภรรยานายสาณิช หลงเชื่อจึงโอนเงินตามคำแนะนำ ต่อมามิจฉาชีพแจ้งว่าลงทะเบียนผิด ต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อปลดล็อคบัญชี จึงจะได้เงินที่กู้และเงินที่โอนมาก่อนหน้านี้ โดยมิจฉาชีพหลอกให้โอนเพื่ออ้างว่าแก้ไขไปเรื่อย จนพบว่าได้โอนเงินออกไปมากถึง 1,700,320 บาท 59 สตางค์ แต่ก็ไม่สามารถกู้เงิน 1 แสนบาท ได้และไม่ได้เงิน ที่โอนไปเพื่อแก้ไขรหัสคืนมา กระทั่งวันที่ 23 ที่ผ่านมา จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกและไปแจ้งความดังกล่าว



จากข้อมูลที่ทีมข่าวตรวจสอบ พบว่าหลังจากตำรวจรับแจ้งความแล้วพยายามติดตามอายัดบัญชี และแกะรอยเส้นทางเงินของคนร้าย โดยตำรวจตรวจสอบจากโทรศัพท์ มือถือ ภรรยานายสาณิช พบว่าจำนวนเงิน 1.7 ล้านบาท ที่เสียไปให้กับมิจฉาชีพนั้น มีหลักฐานว่าเป็นเงินกู้มาจากผู้อื่นเช่นกัน ขณะที่ชุดสืบสวนแกะรอยพบเส้นทางการเงินบางส่วนแล้ว พบว่าถูกกดเงินสดออกไป ในพื้นที่จังหวัดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

คุณอาจสนใจ

Related News