อาชญากรรม

เปิดชนวนเหตุ สามีฆ่ายกครัว 3 ศพ หลังแบกภาระหนี้ค้ำประกันรถ ซ้ำถูกแก๊งเงินกู้ออนไลน์หลอก เป็นหนี้ 1.7 ล้าน

โดย panisa_p

28 ส.ค. 2566

345 views

ความคืบหน้ากรณีพ่อวัย 41 ปี เครียด ตัดสินใจฆ่ายกครัว 3 ศพภรรยาและลูกชาย 2 คน พบชนวนเหตุทั้งแบกภาระหนี้ค้ำประกันรถ และภรรยากู้เงินนอกระบบไปเสียให้แก๊งหลอกปล่อยเงินกู้ออนไลน์กว่า 1.7 ล้านบาท



เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ภายในบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านทิพย์มงคล ตั้งอยู่ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ



ชั้นล่างที่ประตูมุ้งลวดหน้าบ้านพบร่าง นางสาววิภาพร อายุ 44 ปี ภรรยา นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กับพื้น ที่คอและตามตัวมีแผลโดนฟันหลายแห่ง ใกล้กันพบร่างเด็กชาย อายุ 9 ขวบ ลูกชายคนเล็ก สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้น มีโดนฟันที่คอ และตามร่างกายเช่นเดียวกัน



พอขึ้นไปห้องนอนชั้นสอง พบร่างเด็กชาย อายุ 13 ปี ลูกชายคนโต นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นบริเวณประตูห้องนอน และภายในห้องนอนใหญ่ด้านหน้า พบนายสาณิช อายุประมาณ 41 ปี สามีนอนหงายหายใจแผ่วเบา แล้วใช้มือจับคออยู่บนเตียง มีแผลถูกมีดปาดคอ และข้อมือ เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ข้างตัวนาย สาณิชพบมีดอีโต้ เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่มด้วย



นายกฤษฎา ชัยจรินทร์ 1 ในเพื่อนบ้านที่สนิทกับครอบครัวผู้ตายเล่าว่า ครอบครัวนี้มีปัญหาเรื่องการเงิน เริ่มจากเมื่อ 6 ปีก่อน นายสาณิช ไปค้ำประกันซื้อรถยนต์โตโยต้า อินโนวา ให้อดีตหัวหน้า แต่อยู่ๆ อดีตหัวหน้าก็ไม่ผ่อนแล้วหนีหายไป จอดรถทิ้งไว้ที่บ้านเขา สุดท้ายโดนไฟแนนซ์ฟ้อง และมีหมายศาลมาติดที่หน้าบ้านว่ามีหนี้อยู่กว่า 8 แสนบาท หากไม่ชำระจะโดนยึดบ้าน ประกอบกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วภรรยาของนาย สาณิช ที่ไปกู้หนี้ยืมเงินคนอื่นมาอีกกว่า 1.7 ล้านบาท เพื่อโอนให้แก๊งคอลเซนเตอร์ที่เปิดแอพพลิเคชั่นหลอกปล่อยเงินกู้ออนไลน์อีก



และนี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 27 สิงหาคมจะเห็นว่าช่วงเที่ยงมีรถฟอร์ด เอเวอร์เรส สีดำขับเข้ามาในหมู่บ้าน มีคนในรถประมาณ 5 คน เข้ามาเจรจาที่บ้านนาย สาณิช ราว 3 ชั่วโมงก่อนจะขับออกไปจากหมู่บ้านตอนประมาณบ่าย 3 โมง



ขณะที่ความเคลื่อนไหวบ้านของผู้ก่อเหตุ วงจรปิดจับภาพได้ราวบ่าย 3 โมงครึ่ง นาย สาณิช ขับรถกระบะหลังคาสูงเข้ามาที่บ้านพร้อมลูก 2 คน ที่อยู่ด้านหลัง



ก่อนจะออกไปอีกครั้ง ตอน 5 โมงครึ่ง แต่ออกไปไม่นานก็กลับเข้ามา และนี่คือช่วงเวลาสุดท้าสยที่กล้องวงจรปิดจับภาพทั้ง 4 คนไว้ได้ คือประมาณ 5 โมง 48 นาที ของช่วงเย็นวานนี้ (27 ส.ค.) หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบทั้ง 4 คนอีก กระทั่งกลายเป็นศพภายในบ้านตอนห้าทุ่มครึ่ง



ทีมข่าวอาชญากรรมไปขอค้นเอกสารการแจ้งความ ที่ สภ.บางแก้ว พบว่า วันที่ 25 สิงหาคม ภรรยาของนาย สาณิช แจ้งความว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ได้เจอโพสต์โฆษณาในเฟซบุ๊ก แต่จำชื่อเพจไม่ได้ โดยโพสต์ดังกล่าวบอกว่า จะสามารถปล่อยเงินกู้ได้เป็นจำนวน 5 เท่าของเงินเดือน



ผู้เสียชีวิตสนใจ จึงได้กดลิงค์ในโพสต์ดังกล่าว แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว โดยระบุว่าต้องการกู้เงินจำนวน 1 แสนบาท เมื่อกรอกข้อมูลลงทะเบียนเสร็จแล้วก็ได้กดลิงค์เพื่อรอผลการอนุมัติ จากนั้นคนร้ายได้แอดไลน์กลับมา แจ้งว่าเงินกู้ที่ยื่นไปได้รับการอนุมัติแล้ว และส่งเงื่อนไขในการกู้เงินให้ว่า ต้องสร้างเครดิตในระบบธนาคาร โดยจะต้องโอนเงินจำนวน 10% ของยอดเงินที่ยื่นกู้ คือ 1 หมื่นบาท จึงจะสามารถอนุมัติรหัสถอนเงินได้ ผู้เสียชีวิตจึงโอนเงินไปตามคำแนะนำ จากนั้นคนร้ายได้แจ้งว่าผู้เสียชีวิตลงทะเบียนหมายเลขบัญชีผิด จะต้องโอนเงินเพื่อทำการปลดล็อคบัญชี จึงได้โอนเงินไปอีก แล้วคนร้ายก็ยังอ้างว่ามีปัญหาอื่นๆ แล้วให้โอนเงินเพื่อแก้ไขไปเรื่อยๆ จำนวนหลายครั้ง รวมโอนเงินไปทั้งหมด 1,700,320.59 บาท สุดท้ายก็ไม่สามารถกู้เงินได้จริง



แต่กว่าจะรู้ตัวก็เสียเงิน เสียเวลาไป 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 21-23 สิงหาคม ถึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งตำรวจก็รับแจ้งความและพยายามติดตามอายัดบัญชี และแกะเส้นทางเงินของคนร้ายอยู่



มีรายงานว่า ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของภรรยา นายสาณิช 1 ในผู้เสียชีวิต พบว่า เงิน 1.7 ล้านบาท ที่โอนไปให้แก๊งมิจฉาชีพเป็นเงินที่ไปกู้จากที่อื่นมา โดยพบหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาการกู้ยืมเงินในโทรศัพท์มือถือล่าสุด ชุดสืบสวนสามารถแกะรอยเส้นทางการเงินได้บางส่วนแล้ว พบว่ามีการโอนเงินออกไป และมีการกดเงินสดจำนวนนี้ที่จังหวัดหนึ่งในประเทศไทย



ล่าสุดพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งชุดสืบสวนมาคลี่คลายคดีที่ สภ.บางแก้ว เพื่อตามล่าแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงครอบครัวผู้เสียชีวิต ให้โอนเงินล้านแล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qvBlTHO-Fdc

คุณอาจสนใจ

Related News