เลือกตั้งและการเมือง

เปิดประวัติ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย

โดย kanyapak_w

22 ส.ค. 2566

2.5K views

เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและหนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย



คุณเศรษฐา ทวีสิน เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2505  ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อดีตประธานอำนวยการและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำการขับเคลื่อนแสนสิริ สู่บริษัทชั้นนำในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ทั้งนี้ ก่อนร่วมงานกับแสนสิริ คุณเศรษฐา เคยทำงานกับ Procter & Gamble บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เคลื่อนไหวเร็ว (FMCG)



คุณเศรษฐา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสสาชูเซ็ตส์ (University of Massachusetts) และปริญญาโทในสาขาบริหารธุรกิจด้านการเงินจาก บัณฑิตวิทยาลัยแคลมอนต์ (Claremont Graduate School) สหรัฐอเมริกา



ขณะที่บริหารแสนสิริ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและแนวทางการบริหารธุรกิจที่ครอบคลุม คุณเศรษฐาผลักดันให้แสนสิริเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาเป็นระยะเวลาเกือบ 40 ปี ทั้งยังได้สร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในกลุ่มผู้บริโภค พร้อมทั้งเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์มาตรฐานต่างๆ



ที่ผ่านมา คุณเศรษฐายังเป็นผู้สังเกตการณ์ที่เฉียบคมเกี่ยวกับวาระทางสังคมของประเทศ และได้มอบหมายแนวคิดในการสร้างกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแรงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศชาติในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม สนับสนุนความเท่าเทียมและหลากหลาย รวมถึงในหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน



Milestone ในภาคธุรกิจ เศรษฐาเริ่มงานในอาชีพแรกในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท พร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ประเทศไทย ก่อนเข้าร่วมงานกับแสนสิริ    



พ.ศ. 2533        เริ่มเข้าทำงานในบริษัท แสนสำราญ จำกัด



พ.ศ. 2537        มีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นและเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท แสนสิริ จำกัด



พ.ศ. 2538        ภายใต้การบริหารงานของตน นำบริษัทเข้าจดทะเบียนแปรสภาพเป็น บริษัทมหาชนจำกัดและเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 100 ล้านบาท



พ.ศ. 2539        จัดตั้งบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อดูแลงานบริหารจัดการโครงการ และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพราะเล็งเห็นว่าการต่อยอดธุรกิจให้ครบวงจรเป็นจุดแข็งในการนำธุรกิจไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน



พ.ศ. 2540        ประเทศไทยและบริษัทเผชิญวิกฤติต้มย้ำกุ้ง ซึ่งเป็นวิกฤติทางการเงินครั้งรุนแรงที่สุด สามารถดำเนินการบริหารจัดการแก้ไขชำระหนี้และนำองค์กรผ่านพ้นมรสุมธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว



พ.ศ. 2543        ทำการปรับโครงสร้างหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายแรกๆ หลังจากวิกฤติปี 2540 และเริ่มขยายธุรกิจรุกการทำโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว) โครงการ แรกในทำเลวัชรพล



พ.ศ. 2550        พัฒนาโครงการ บ้านแสนสิริ สุขุมวิท บ้านเดี่ยวใจกลางเมือง และได้รับการตอบรับอย่างดี จนได้รับรางวัล Asia’s Best Residential Project of The Year 2006



พ.ศ. 2550        ด้วยเห็นว่าการส่งเสริมและสนับสนุนเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญ ได้ริเริ่มโครงการ แสนสิริ อะคาเดมี่ คลินิคสอนฟุตบอลเยาวชนทั่วไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถึงปัจจุบันนี้มีเด็กกว่า 8 พันคนที่ผ่านการฝึกสอน ของโครงการและหลายคนได้โอกาสเข้าเรียนและติดทีมชาติเยาวชน



พ.ศ. 2553        ริเริ่มการจับมือเป็นพันธมิตรกับ UNICEF เพื่อสนับสนุนและต่อยอด ประเด็นสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน โดยเป็นองค์กรธุรกิจ ของไทยองค์กรแรกๆ ที่ได้รับเกียรติร่วมมือ โดยความร่วมมือดังกล่าว ได้ดำเนินเป็นระยะเวลา 10 ปี จนกระทั่งสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2563



พ.ศ. 2555        นำพาองค์กรรุกธุรกิจที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดตามหัวเมืองสำคัญๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง (ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน ขอนแก่น พัทยา และเขาใหญ่)



พ.ศ. 2556         ได้รับรางวัล Thailand Property Award สาขา Best Housing Development



พ.ศ. 2557         เป็นตัวแทนภาคเอกชนรายเดียวของประเทศไทยเข้าร่วม UNICEF Innovation & Action Workshop Panel ที่กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เพื่อเสวนาเรื่องของสิทธิและสวัสดิภาพเด็ก



พ.ศ. 2559         เปิดตัวโครงการแฟล็กชิป 98 ไวร์เลส บนถนนวิทยุ ด้วยมูลค่าโครงการ  สูงถึง 8,500 ล้านบาท บนทำเลที่มีราคาที่ดินสูงที่สุด ณ ขณะนั้น (ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Award ในปี พ.ศ. 2561)



พ.ศ. 2559        ได้รับรางวัล Global CSR Summit and Award (Silver Award for CSR and Leadership)



พ.ศ. 2560        มองการณ์ไกล ขยายฐานธุรกิจด้วยการร่วมลงทุนกับบริษัทระดับโลก 6 ราย รวมถึง Standard International เช่น บริหารโรงแรมชื่อดัง  ระดับโลก และเข้าดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ ของ Standard International



พ.ศ. 2562        นำองค์กรรับรางวัลชนะเลิศ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทธุรกิจ ขนาดใหญ่ จาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ



พ.ศ. 2563        นำบริษัทลงนามในข้อตกลง United Nations Global Standards of Conduct for Business กับ UNDP ซึ่งเป็นบริษัทไทยแรกในไทย  ที่ดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อสนับสนุน และลดการแบ่งแยกความเหลื่อมล้ำสำหรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ



พ.ศ. 2564        ได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบ ด้านสิทธิมนุษยชน (รางวัลชมเชย จากกรมคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการสังคมกระทรวงยุติธรรม)



พ.ศ. 2565        นำองค์กรประกาศจุดยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมและกำหนดเป้าหมาย การก้าวเข้าสู่ Net Zero เป็นรายแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์



พ.ศ. 2565    ยุติการทำงานทั้งหมดในบริษัท แสนสิริ จำกัด มหาชน ในตำแหน่ง ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมทั้งทุกตำแหน่งในฐานะกรรมการบริษัท และกรรมการชุดย่อยของบริษัท ได้แก่ ประธานกรรมการบริหาร รองประธานกรรมการลงทุน และกรรมการบรรษัทภิบาทลและความยั่งยืน โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2566 เป็นต้นไป



พ.ศ 2566        ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย




คุณอาจสนใจ

Related News