ถึงเวลาม่านปิดแล้ว ‘ชูวิทย์’ สั่งลา หลังภารกิจแฉเพื่อชาติครั้งสุดท้าย จบอย่างสมบูรณ์

“ชูวิทย์” สั่งลา หลังแฉเพื่อชาติครั้งสุดท้าย จบอย่างสมบูรณ์ บอกตลอด 20 ปี อยู่ในแสงสี ถึงเวลาที่ผ้าม่านจะปิดลงแล้ว


วานนี้ (21 ส.ค.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าว “แฉเพื่อชาติ” EP.3 ซึ่งเป็นตอนสุดท้าย โดยช่วง ท้ายการแถลง นายชูวิทย์กล่าวขอบคุณสื่อมวลชน ที่จะต้องสื่อสารให้สังคมรับทราบ ยืนยันว่าพูดด้วยเจตนาบริสุทธิ์ชัดเจน ส่วนคนที่โจมตีคน ตนไม่ได้เป็นคู่แข่ง ไม่ได้เป็นนายกฯ และตนก็ไม่กลัวด้วย


จากนี้จะมีคนไปร้องนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย อีกเยอะ ดังนั้นตนจึงบอกว่า นายเศรษฐาอยู่ไม่ได้หรอก ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนชื่อ ถ้าพรรคเพื่อดึงดันก็แล้วแต่


จากนั้นนายชูวิทย์ ระบุว่า ภารกิจแฉเพื่อชาติของตนได้จบลงแล้ว จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะไม่ได้เห็นผมมานั่งแถลงข่าวแบบนี้อีก จะไม่ได้เห็นมาแฉใครแบบนี้อีก คุณไม่ได้เห็นผมในการมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ แต่ที่ผมต้องทนเอาร่างการที่ผุพัง ที่มีมะเร็งมากัดกินผมอยู่ ผมจำเป็นต้องกินยาแล้วลุกขึ้นมาพูดเรื่องนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นผมตายตาไม่หลับ ผมนอนตายตาไม่หลับเพราะเห็นแล้ว ผมเห็นแล้วอดไม่ได้ ถึงขึ้นส่งให้คนบินไปฮ่องกงเพื่อเสาะหาข้อมูล 

พร้อมบอกว่าการกระทำของพวกคุณเข้าขบวนการฟอกเงิน  และตนก็ส่งเรื่องร้องไปให้กับรอง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบ.ตร.แล้ว

จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ยกมือไหว้ และกล่าวขอบคุณประเทศไทยที่ทำให้ผมได้เกิดมา ขอบคุณสังคมไทย ที่ทำให้ผมได้เห็น อดทนเดี๋ยว จนบัดนี้ในสิ่งที่ผมทำ ผมยืนยันด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ของผม ว่าผมเข้าทำการไปโดยไม่มีเหตุผลเคืองคุณเศรษฐาแม้แต่นิดเดียว ที่บอกว่าโกรธแค้นไม่ขายคุณ ที่คุณไม่มาซื้อ จะซื้อได้ยังไง ผมขายไปแล้ว และหลักฐานผมก็มีสัญญา

ก่อนระบุว่า แต่คุณโกรธแค้นกับที่ดินที่เดิมที่เป็นของตระกูล แต่ตนไม่ขายให้ ก่อนจะบอกว่า จบการแถลงข่าวครั้งสุดท้าย แฉเพื่อชาติหลักฐานทั้งหมด ตนรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเป็นเอกสารราชการทั้งสิ้น ตนได้มาก่อนที่กรมที่ดินจะยึดเอกสารไปให้ใครถ่าย


นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ในระยะเวลา 20 ปีที่ผมอยู่ในแสงสี อยู่ใน Spotlight ถึงเวลาที่ผมจะถอยลุกจากโต๊ะ ถึงเวลาผ้าม่านจะปิด แสงไฟจะดับ ซึ่งมันเป็นธรรมชาติ ใครที่ยังอยู่ในโลกแห่งการละคร คุณก็โลดแล่นไป แล่นไปเติบโตไปตามวิถีชีวิตของพวกคุณ และพวกคุณอย่าคิดถึงผมแล้วกัน


พร้อมฝากถึงประชาชนทั้งหลายว่า ที่ผ่านการเลือกตั้ง ก็เห็นได้แล้วว่าใครที่เป็นคนตระบัดสัตย์ ตนมีหน้าที่ในการเปิดเผยข้อเท็จจริง พร้อมข้อมูลหลักฐานเอกสาร ให้ใช้วิจารณญาณ ไม่จำเป็นต้องเชื่อตน แต่ข้อมูลในสิ่งที่ตนมี มันไม่ใช่ข้อมูลที่ตนเสกสรรปั้นแต่งขึ้น แต่เป็นข้อเท็จจริง ที่พยายามทำให้ท่านเข้าใจ


นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า สิ่งใดที่ตนพลาดพลั้งไป ตนขออภัย ตนเป็นมนุษย์ ปุถุชน แต่ไม่เคยโกงใคร ไม่เคยเอาเงินใคร ไม่เคยไปหลอกใคร ทรัพย์สินทั้งหมดล้วนแต่ที่ผมหามา ที่ผมติดคุกเพราะบุกรุกที่ผมเอง ไม่ได้บุกรุกที่คนอื่น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ปวดหัวชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ วันนี้คุณได้เห็นธาตุแท้ ตนติดคุกสามรอบ รอบสุดท้ายด้วยเงิน 150,000 บาท ผมก็ยินดีติด เมื่อท้ายสุดผมหมดสิ้นหนทาง ก็ตามกระบวนการกฎหมาย ก็สารภาพ


แล้ววันนี้ผมลาสังคมไทย การลาของสังคมไทยในวันนี้ มันเป็นสิ่งที่ผมยอมรับว่าเพียงพอแล้ว เมื่อผมเพียงพอแล้ว และถึงเวลาของผม ผมก็ไม่ดันทุรังต่อไป  ทุกวันนี้ มีคนส่งสมุนไพรจีน สมุนไพรไทยแนะนำหมอ แต่ตนไม่ได้ไป ตนยอมรับว่าวาระนี้ เป็นวาระที่ต้องผจญด้วยตนเอง เป็นเวลาที่วันใดวันนึง ต้องถึงกับทุกคนอยู่ดี วันนี้ขอลาทุกคน เพราะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ใดๆ ที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ทางกฎหมาย ผมก็อยากต่อสู้ต่อไป วันนี้เลยขอเอ่ยคำอำลากับสื่อมวลชน