สังคม

ไรเดอร์หนุ่มชิงทอง 8 บาท ทนแรงกดดันไม่ไหว เข้ามอบตัวแล้ว สารภาพนำไปขายหาเงินใช้หนี้เช่าพระ

โดย paranee_s

15 ส.ค. 2566

213 views

วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคนร้ายเป็นชายหนุ่ม สวมชุดไรเดอร์แบรนด์ดัง รูปร่างผอมสูงราว 170 ซม. อายุไม่เกิน 30 ปี สวมหมวกกันน็อกคลุมปิดหน้า ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นสร้อยคอทองคำ เส้นละ 2 บาท 4 เส้น รวม 8 บาท มูลค่าเกือบ 3 แสนบาท จากห้างทองในหัวหิน ถ.ชมสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์


จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปอย่างลอยนวล เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2566 ที่ผ่านมานั้น พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.หัวหิน ร่วมกับ สืบจังหวัดฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบตัวผู้ก่อเหตุและทราบชื่อต่อมาคือ นายนรภัทรหรือแป๊ะ อายุ 25 ปี ชาว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยสืบทราบว่า พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเขาน้อย อ.หัวหิน เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดหัวหินที่ จ. 111/2566 ลงวันที่ 2 ส.ค.266 และกระจายกำลังติดตามจับกุมตัวไปตามพิกัดต่าง ๆ ที่คาดว่านายนรภัทร จะหลบซ่อนตัว


กระทั่งทราบว่านายนรภัทร หลบไปกบดานอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงได้พยายามกดดันทุกช่องทางเพื่อให้มอบตัว ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา นายนรภัทร คนร้ายพร้อมครอบครัว ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.หัวหิน โดยยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำจริง เนื่องจากต้องการหาเงินไปใช้หนี้เพื่อน



ทั้งนี้ยอมรับว่าประกอบอาชีพไรเดอร์ ประมาณ 1 ปี รายได้ไม่ดีนัก จึงกู้เงินจากเพื่อน จำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อลงทุนเช่าพระเครื่องมาขายทำกำไร แต่ปรากฏว่าพระเครื่องที่ซื้อมาไม่สามารถขายได้ แต่ถูกเพื่อนทวงเงินคืนทุกช่องทางและทวงกับครอบครัว ทำให้เครียดจัดและคิดสั้นก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำดังกล่าว



ซึ่งนายนรภัทร รับสารภาพเพิ่มเติมว่า ระหว่างหลบหนี ทำสร้อยคอทองคำ หล่นหาย 2 เส้น เพราะถือไว้ไม่ได้ใส่กระเป๋า จึงเหลือติดตัวมาแค่ 4 บาท นำไปจำนำ ได้เงิน 90,000 บาท ก่อนหนีไปกบดานที่กรุงเทพฯ โดยเช่าโรงแรมแถวรัชดาฯ อยู่นาน 2 สัปดาห์และไม่ยอมใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองติดต่อครอบครัว แต่พยายามติดต่อทางอื่น กระทั่งเงินหมด อีกทั้งถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว



พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของนายนรภัทร เป็นคนมาหากินดูแลครอบครัวดี มีลูกเล็ก 2 คน แต่เมื่อมีภาระหนี้สินและถูกเร่งรัดให้คืนเงินอย่างหนักจึงคิดสั้นดังกล่าว



ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทางบริษัทฯ ต้นสังกัดตั้งแต่วันเกิดเหตุ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้รู้ตัวตั้งแต่วันเกิดเหตุและสามารถออกหมายจับได้ในวันต่อมา ซึ่งชุดสืบสวนได้กดดันทางฝ่ายพ่อแม่และภรรยากระทั่งนำมาซึ่งการมอบตัวในวันนี้



อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงร้านทองต่าง ๆ ใน อ.หัวหิน ที่มีจำนวนมาก เกือบ 20 ร้าน ในเรื่องของความปลอดภัย อยากจะให้ผู้ประกอบการร้านทองทำตามระเบียบที่ได้ตกลงกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ให้ทางตำรวจทำสติกเกอร์ไปติดหน้าร้าน ถ้าลูกค้าใส่หมวกกันน็อกหมวก หมวกไอ้โม่ง ให้ถอดก่อนเข้าร้าน ไม่ใช่ปล่อยให้เข้าไป เรื่องการจอดรถควรสังเกตว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น จอดรถไม่ดับเครื่อง การหันหัวรถมีการจงใจชัดเจนหันหัวรถเตรียมพร้อม ฯลฯ และสิ่งสำคัญคือควรติดกล้องวงจรปิดภายในร้าน และด้านนอกร้าน อย่างน้อย 2-3 ตัว ควรจะทำลูกกรงเหล็กสเตนเลส เหล็กดัด ประตูที่ใช้ระบบการล็อกจากข้างใน เพื่อชะลอและช่วยได้ในกรณีที่คนร้ายมีอาวุธ เป็นการยื้อเวลาระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุนั่นเอง

คุณอาจสนใจ

Related News