สังคม

ผัวเก่าหึงโหด ราวีเมียไม่เลิก ติด GPS ที่รถ เอาลูกเป็นตัวประกัน ลั่นใครทำอะไรไม่ได้! มีพี่ชายเป็นนายกฯ อบต.

โดย nattachat_c

11 ส.ค. 2566

343 views

เรื่องราวของความรุนแรงในครอบครัวยังมีอยู่เรื่อย ๆ รวมถึง การกระทำไม่ดีของสามีต่อภรรยา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลงไม้ลงมือ การด่าทอหรือใช้คำสุภาพก็เป็นสิ่งที่มนุษยชนไม่ควรทำ 


ในวันนี้ (11 ส.ค. 66) รายการโหนกระแส จึงขอเสนอเรื่องราวของ ชายคนหนึ่งที่หึงโหด ตามราวีฝ่ายหญิงไม่เลิก ถึงขั้นติดจีพีเอสในรถฝ่ายหญิง ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะไปไหน ก็จะโทรไปด่าว่าไปที่นั่นที่นี่ทำไม รวมถึงบางครั้งก็มีการขับรถตามด้วย โดยเรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้


คุณเจี๊ยบ (ฝ่ายหญิง) : ฝ่ายชายชื่อ พิทักษ์ เป็นน้องชาย นายกฯอบต. ตำบลหนึ่ง รู้จักกับเขาเพราะพี่ที่ทำงานแนะนำ บอกว่าเขาคนดี ตอนนั้นหนูทำงานแรก โดยทำงานด้านกฎหมายท้องถิ่น ที่สำนักงานเทศบาล 


ตอนแรก ๆ เขาดีมาก ดูแลหนูดี หนูเป็นสายธรรมะ ชอบเข้าวัด เขาก็พาหนูไปตลอด จนหนูมองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนดี จนปี 57 เราก็ไปให้ผู้ใหญ่ผูกข้อมือ แต่งงานกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียน 


ต่อมา มีลูกคนแรก เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยมาบ้าน ออกไปกินเหล้าประจำ แต่ถ้ามาบ้านก็ได้แต่กลิ่นเหล้า และ ชอบพูดจาไม่ดีใส่ ทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน แล้วตังแต่ท้อง เขาไม่จ่ายอะไรเลย หนูจ่ายค่าคลอดคนแรกหมดเลย และเขาก็ไม่รับรองบุตรด้วย


ส่วนลูกคนที่ 2 หนูไม่ได้ตั้งใจมี ขอพูดง่ายๆ ว่าเขาข่มขืนหนู เขาไม่เคยทำร้ายร่างกาย แต่ด่าทอเป็นประจำ และพยายามทำอนาจารตลอด จนกระทั่งมีลูกคนที่ 2


หนูคยไปแจ้งตำรวจในท้องที่ แต่เขาบอกว่าไม่มีคลิปให้ดูว่าถูกละล่วง ก็เลยไม่รู้ะทำอย่างไร


หลังจากมีลูกคนที่ 2 จากนั้นเขาก็หายไปพักนึง เข้ามาบ้านเดือนละ 1-2 ครั้ง จนกระทั่งลูกคนรแรก 4 ขวบเข้าโรงเรียน หนูไม่มีรถ ก็เลยขอให้เขาช่วยไปรับไปส่ง แต่เขาก็ไม่ช่วย จนหนูต้องซื้อรถเอง


ตอนมีคนที่ 2 ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ แต่เขามาดูแลบ้าง ตอนนั้นแยกกันอยู่ค่ะ และที่เหมือนเดิมคือ ชอบมาละเมิดทางเพศ แม้ตอนท้องที่สองเขาก็ทำ และมีพฤติกรรมเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย


เดือนมกราคม 66 เขาชวนไปอยู่บ้านญาติ บอกว่าหนูจะได้ไม่ต้องเช่าบ้าน และมีคนช่วยดูแล แต่พอหนูไปอยู่ เขาก็เมาเหล้าประจำ แล้วชอบด่าลูก ใช้คำหยาบคายประจำ


หนูทนไม่ไหว ก็เลยเลิกกันต้นปี 66 นั่นแหละ ตอนนั้นตกลงกันว่า ต่างคนต่างอยู่ สามารถไปๆ มาๆ ได้ คือเราก็ไปมาหาสู่กันอยู่เพราะลูก ตอนนั้นหนูเช่าห้องอีกที่ แล้ว โดยลูกอยู่กับเราทั้ง 2 คน แต่เราก็พาลูกไปหาญาติเขา เพราะเขาอยากเจอหลานบ้าง แต่พอไปบ้านญาติ ก็เจอแต่เขาเมาเหล้า และชอบบอกหนูว่าให้ค้าง แต่หนูไม่อยากเจอแบบเดิมๆ เลยไม่ค้าง


เดือนพฤษภาคม ลูกคนเล็กเปิดเทอม เขาเอาคนเล็กลาออกจากโรงเรียนเอง ซึ่งหนูเคยบอกคุณครูไว้ว่าถ้าพ่อจะมา อย่าให้ลูกไป ให้โทรมาบอกหนู แต่คุณครูบอกว่าเขาน่ากลัว และรับมือไม่ไหว เลยต้องปล่อยน้องไป แล้วรีบโทรมาบอกหนู


หนูอยากได้ลูกคืน ก็ไปหาเขา บอกว่าถ้าไม่คืนจะแจ้งมูลนิธิ แต่เขาปล่อยลมยางหนูไม่ให้หนูไปไหน จนวันรุ่งขึ้นหนูก็ไปหาตำรวจ


มีวันหนึ่ง หนูไปงานฟังธรรมของหลวงตา ที่บางไทร อยุธยา จากนั้นก็ได้ไปรู้จักเพื่อนชื่อแชน พิทักษ์ตามมาที่งาน ตอนนั้น งง มาก ว่าตามมาถูกได้ไง แล้วก็มาด่า


แชน : ผมรู้จักเจี๊ยบในงานนั้นเลย ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ แล้วพิทักษ์ก็มาถ่ายรูป แล้วเริ่มมาด่า มาแตะตัวผม ผมเลยยกมือถือมาถ่าย เพราะโดนคุกคาม บอกเขาว่าไม่ถูกต้อง คือผมมาทำบุญ ผมกับเจี๊ยบไม่ได้มีเรื่องชู้สาว ขอยืนยันตรงนี้


เจี๊ยบ : ต่อมาเขาก็มาอาละวาดที่หอพัก บอกว่าเรามีชู้ ก็เลยบอกไปว่าเลิกกันแล้ว หนูจะไปมีชู้ได้ไง เขาก็บอกว่าจะเอาลูกไป จนเขาเอาลูกคนเล็ก 4 ขวบไป ส่วนคนโต 9 ขวบ อยู่กับหนู


วันที่ 14 เขาขับรถตามหนูไปปราจีนบุรี แล้วหลังจากนั้น เขาก็โทรไปป่วนเพื่อนร่วมงานหนู โทรไปหาตลอด จนเพื่อนร่วมงานต้องไลน์มาฟ้อง


วันที่ 6 มิ.ย. หนูเลี้ยงวันเกิดลูก เขาก็ตามมาอาละวาด แล้วก็ตามไปบ้านด้วย ตามไปด่า หนูเลยบอกว่าให้ออกไป ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ วันนั้น เขาบอกว่าลูกไม่สบาย หนูเลยลงไปดู ปรากฎว่าเขาไม่ให้หนูเจอลูก เลยเอาตัวไปขวางรถ เพราะอยากเจอลูก ซึ่งเขาบอกว่าลูกไม่สบาย พาลูกมา แต่กลับไม่ให้ลูกเจอหนู ตอนนั้น หนูขวางรถเพราะคิดว่าเขาไม่กล้าชน เขาชนหนูนะ 


ซึ่ง ตอนที่เลิกกัน บอกกันว่าจะให้ลูกมาหาบ้าง ซึ่งเขาก็รับปาก แต่ที่ผ่านมา 2-3 เดือน เขาไม่พาลูกมาหาเลย กลายเป็นว่าเขาใช้ลูกมาเป็นเครื่องมือเป็นเหยื่อ ในการให้หนูไปนอนกับเขา โดยการโทรมาหาว่าลูกร้องให้หนูไปหา แต่หนูไม่รู้ว่าเขาตีลูกหรือเปล่า รู้แค่ว่าลูกร้องหนักมาก 


แชน : ฝ่ายชายเขาเอาลูกมาเป็นเครื่องมือในการต่อลูก ส่งคลิปเสียงที่ลูกร้องไห้ เพื่อให้ฝ่ายหญิงไปเจอ ไปเจอที่อื่นก็ไม่ได้ ต้องไปเจอที่บ้านฝ่ายชายเท่านั้น  


เจี๊ยบ : เขาบอกว่าถ้าไม่ไปหา จะกระทืบลูก เลยต้องมาออกโหนกระแส ซึ่งหนูไม่กลับไปนอนอยู่แล้ว เขาก็เลยบอกไปว่า ต่อไปจะทำงานไม่ได้ จะไปอาละวาดที่ทำงาน หนูรู้มาตลอดว่าติดจีพีเอส อยากรู้ว่าเขาจะทำยังไง ซึ่งเขาไม่เคยยอมรับว่าได้ติดจีพีเอสที่รถหนู  


ทนายเดชา : สร้างความเดือดร้อน จำคุก 1 เดือน ตอนนี้ในส่วนของคดีความ ให้ไปยื่นคำร้องที่ศาลเด็กและเยาวชน ปทุมธานี เพราะบิดาไม่ได้จะทะเบียน ไม่ได้มีอำนาจ พวกคลิปในการข่มขู่ ก็ต่างกรรมต่างวาระ ก็โดนทบไปเรื่อยๆ แต่เขายังสามารถเยี่ยมลูกได้อยู่


เจี๊ยบ : เขาแอบถ่ายคลิปตอนหนูอาบน้ำ บอกว่าจะไปคล่อยคลิป ถ้าไม่ยอมไปนอนด้วย หนูไม่ได้คบซ้อนนะคะ เจอพ่อแม่ผูกข้อไม้ข้อมือเรียบร้อย  อยู่กินกันอย่างเปิดเผย ตอนนี้ลูกอยู่กับเขา อยากได้ลูกคืน และอยากให้เลิกยุ่งกับหนู ก็คือหนูยังต้องทำงาน ลูกมาทีไรก็บอกว่าไม่อยากกลับ อยากอยู่กลับแม่ ก็ได้แต่บอกไปว่าอดทนนะ แม่กำลังหาทางช่วยอยู่


แชน : ผมว่าเด็กไม่ควรเจอกับคนแบบนี้ ไม่ดีสำหรับเด็ก


สรุป สุดท้าย หนุ่ม กรรชัย ได้ต่อสายตรงหา กัน จอมพลัง เพื่อให้เข้ามาดูเรื่องคดีนี้ เพราะฝ่ายชายเป็นน้องชายของ นายกฯอบต. กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึง กัน จอมพลัง ก็ตกปากรับคำว่าจะโทรหา ปลัด พม.ทันทีที่วางสวย พร้อมกับย้ำว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ใหญ่กว่านายกฯอบต. ก็เอาเข้าคุกมาแล้ว

-----------

คุณอาจสนใจ

Related News