'วีระ' จ่อร้องศาลปค.สูงสุด จับป.ป.ช. ฐานปกปิดข้อมูลคดี 'นาฬิกายืมเพื่อน'

นายวีระ สมความคิด เตรียมร้องศาลปกครองสูงสุดให้สั่งจับ ป.ป.ช. พร้อมปรับสูงสุด หลังยังปกปิด ไม่ให้เอกสารสอบรายงานผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กรณียืมนาฬิกาเพื่อน



นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เข้าพบ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อขอเอกสารรายงานผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรทราบ เนื่องจากไม่แสดงว่ามีนาฬิกาข้อมือและแหวนประดับหลายรายการของ ป.ป.ช. ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาสั่งให้ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลเอกสารดังกล่าวจำนวน 3 รายการ



ภายหลังการเข้าพบนายวีระเปิดเผยว่า ป.ป.ช.ให้เอกสารตนเพียง 2 รายการ คือ รายงานผลการตรวจสอบและบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของพลเอกประวิตร จำนวน 90 แผ่น และรายงานการประชุมของคณะกรรมการป.ป.ช.เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็พบว่าเอกสารที่ให้ยังคงมีลักษณะของการปกปิดเหมือนเดิม ทุกหน้าที่มีรายชื่อ มีข้อมูลข้อความสำคัญ รายการทรัพย์สินซีเรียลนัมเบอร์นาฬิกา 22 เรือนก็มีการคาดทับด้วยสีดำ



นายวีระ ระบุอีกว่าที่ตนไม่ได้ คือเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่หน้า 48 - 86 ป.ป.ช.ให้กระดาษเปล่ากับนายวีระ โดยเลขาป.ป.ช.อ้างว่าดำเนินการตามมติของ ป.ป.ช. ทั้งนี้ที่ผ่านมา ป.ป.ช.พยายามที่จะไม่เปิดเผยเอกสาร



ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแล้ว และมีการไปฟ้องเพื่อให้มีการพิจารณาคดีใหม่ จนเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาศาลก็เรียกไปไต่สวนว่าได้ให้เอกสารกับนายวีระครบถ้วนแล้วหรือยัง ป.ป.ช.ก็บอกว่ายังไม่ได้ให้เลยโดยไม่มีเหตุผลสมควรอื่น ศาลก็มีคำพิพากษาให้ป.ป.ช.ต้องให้เอกสารกับนายวีระอย่างถูกต้องครบถ้วนทั้ง 3 รายการภายในวันที่ 11 สิงหาคมนี้



นายวีระ ระบุว่าจะรอดูว่าพรุ่งนี้ ซึ่งจะครบกำหนดเวลาที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งว่า ป.ป.ช.จะมีการเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติม รวมทั้งจะให้เอกสารที่ชัดเจนกว่านี้กับนายวีระตามที่ศาลมีคำสั่งหรือไม่ หากไม่มีจะไปร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ให้สั่งปรับ ป.ป.ช.ขั้นสูงสุดไม่ต่ำกว่าวันละ 5 หมื่นบาท รวมทั้งจะขอให้ศาลจับกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งหมด และ เลขาป.ป.ช. มาขังไว้ก่อนจนกว่าจะให้เอกสารกับตนอย่างถูกต้องครบถ้วน และจะใช้สิทธิ์ดำเนินคดีอาญาในฐานะที่ใช้ ป.ป.ช.ใช้มติของตัวเองมาฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ



สำหรับกรณีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยรายงาน ผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของพลเอกประวิตรกรณียืมนาฬิกาเพื่อนต่อนายวีระ รวม3รายการคือ1.รายงานและสำนวนการตรวจสอบ การไต่สวน และการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้อง รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด 2. ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 3 รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้



แต่ ป.ป.ช.มีมติให้เปิดเผยเอกสารรายที่1 และ 3 เท่านั้น โดยอ้างว่ารายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หากเปิดเผยอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พนักงานไต่สวน พนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก