อาชญากรรม

เปิดใจ ‘ตาล ประวีณมัย’ ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกติดตั้งแอปฯ 'กรมที่ดิน' สูญเงินกว่าล้านบาท

โดย petchpawee_k

10 ส.ค. 2566

4.1K views

“ตาล ประวีณมัย” ผู้ประกาศข่าวช่อง 3  เปิดใจ หลังถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ หลอกติดตั้งแอพฯกรมที่ดิน อ้างติดต่อเรื่องเสียภาษีที่ดินประจำปี รู้ตัวอีกทีพบเงินถูกถอนออกจาก 3 แอปฯ รวมกว่า 1 ล้านบาท 


วานนี้ (9 ส.ค.66) นางสาวประวีณมัย บ่ายคล้อย หรือ คุณตาล ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 นำหลักฐานการแชทและประวัติการถูกโอนเงิน มาแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ หลังถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น แล้วถูดดูดเงินในโมบายแบงกิ้ง เสียหายกว่า 1 ล้านบาท


โดยคุณตาล ประวีณมัย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (9 ส.ค.66) ขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่บ้านพัก ในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร มีสายโทรศัพท์เข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน ติดต่อเรื่องการเสียภาษีที่ดินประจำปี โดยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเสียภาษีที่ดินของตัวเองได้อย่างถูกต้อง โดยอ้างว่าต้องอัพเดทข้อมูลเนื่องจากเป็นรายชื่อที่ตกหล่น จึงแนะนำให้แอดไลน์เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ และไลน์ที่แอดไประบุชัดเจนว่าเป็นไลน์ของกรมที่ดิน และส่งข้อความมาว่า “ สวัสดีค่ะสำนักงานกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกองทะเบียนออนไลน์ ติดต่อยืนยันการอัพเดทสถานะ ข้อมูลให้เป็นปัจจุบันนะคะ”


และมีข้อความตอบกลับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนออนไลน์ และได้โทรเข้ามาหลอกให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นกรมที่ดิน ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ ซึ่งตัวเองพยายามจะใช้คอมแต่ทางมิจฉาชีพบ่ายเบี่ยงให้ใช้โทรศัพท์มือถือบอกว่า จะอัพเดทข้อมูลจึงขอให้เจ้าตัวอัพเดทข้อมูล ผ่านแอพพลิเคชั่นของกรมที่ดินที่เหมือนกับของทางการ ก่อนที่แอปจะเริ่มติดตั้งโดยเปอร์เซ็นต์การติดตั้งขึ้นช้า และไม่สามารถทำอะไรกับโทรศัพท์ได้เลย ซึ่งคุณตาลเข้าใจว่า น่าจะเป็นช่วงที่มิจฉาชีพกำลังรีโมทข้อมูลจากโทรศัพท์ของคุณตาล ไปยัง โทรศัพท์ของมิจฉาชีพ


จากนั้นเมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นแล้ว ปลายสายมีการแนะนำให้ทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนในระบบแอพพลิเคชั่น และมีการยืนยันรหัส OTP และการสแกนหน้า 2-3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จจนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ขณะเดียวกันตลอดการพูดคุยมีการประวิงเวลาเพื่อไม่ให้ตัวเองวางสายและออกจากแอพพลิเคชั่น จากนั้นจึงเริ่มสงสัยและไม่ขอทำธุรกรรมด้วย จึงออกจากระบบ แต่เมื่อจะออกจกากระบบ ปรากฏว่าอีกฝ่ายบอกต้องแสกนหน้าอีกครั้ง


จากนั้น พอโทรศัพท์กลับมาใช้ได้ ปรากฏว่าแอพพลิเคชั่นที่จัดกลุ่มไว้ในโทรศัพท์ถูกนำออกมาไว้นอกโฟลเดอร์กระจัดกระจายหมด จึงลองไปตรวจดูในบัญชีธนาคาร  แล้วทำให้ทราบว่า ในบัญชีกสิกรไทย มียอดเงินโอนเข้ามา 500,000 บาท และ 120,000 บาท


จากนั้นก็มียอดเงินโอนออก 500,000 บาท และ 175,000  บาท ถูกโอนออกไปยังบัญชีปลายทางของคนที่ชื่อว่า “นายภานุพันธ์”


จึงทราบว่า คนร้ายนำบัตรเครดิตที่ผูกกับแอพฯธนาคาร ไปขอกดเงินสด โดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร และโอนเงินออกไปที่มิจฉาชีพ


พอไปตรวจสอบธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ปรากฎว่า ก็ถูกเอาบัตรเครดิตไปถอนเงินในบัตร โอนเข้าบัญชีคุณตาล และโอนออกไปบัญชีมิจฉาชีพ  และยังมีบัญชีเงินเก็บของธนาคารกรุงไทยอีก 1 บัญชีที่ถูกโอนออกไปอีก 150,000 บาท


รวม 3 บัญชี มูลค่าความเสียหายร่วม 1 ล้านบาท  จากนั้นตนจึงรีบติดต่อ ไปยังธนาคารเพื่อจะขออายัดบัญชีปลายทางแต่ธนาคารแจ้งว่าต้องมาแจ้งความก่อนเพื่อขอรหัสถึงจะสามารถอายัดบัญชีปลายทางได้


คุณตาล ยังยืนยันว่า ตั้งแต่แรกที่ได้คุยกับแก็งค์คอลเซ็นเตอร์จนถึงจบบทสนทนา ไม่มีการกดลิงก์ใดๆทั้งสิ้น  ส่วนแอพฯติดตั้งได้อย่างไรนั้น ขอไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน เพราะในไลน์หรือ SMS ไม่ได้มีลิงก์ให้ติดตั้งเลย


คุณตาล ยังกล่าวอีกว่า ที่หลงเชื่อเนื่องจากมิจฉาชีพมีข้อมูลที่ตรงกับผู้ที่จะเสียภาษี และเป็นช่วงที่ต้องเสียภาษี รวมถึงไลน์ที่ติดต่อและแอพฯ มี่มีโลโก้ของกรมที่ดินจริง อีกทั้งเมื่อโทรไปตรวจสอบพบว่ามีชื่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวในกนมที่ดินจริงด้วย อีกทั้งยังสามารถบอกรายละเอียดหน้าจอขณะดาวน์โหลดรวมถึงเลขข้อมูลโฉนดที่ดินได้ถูกต้อง ซึ่งตัวเองยอมรับว่าพลาดที่ไม่ทันระวังตัวเนื่องจากขณะนั้นเธอทำงานอื่นไปด้วย จึงไม่ทันสังเกตุ


ช่วงท้ายคุณตาล ระบุว่า เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว และเราทั้งอ่านข่าว รายงานข่าว ย้ำเตือนว่ามิจฉาชีพมีหลายรูปแบบ และมาในรูปแบบที่เนียนมาก พอวันนี้ตัวเองโดนเอง ขอให้เป็นบทเรียนว่า หากมีโดนลักษณะแบบนี้ อาจจะต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าหากมีการให้แสกนใบหน้าหรือแสดงพาสเวิร์ด นี่คือเป็นวิธีการมิจฉาชีพ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LIxMzbs5Qpg

คุณอาจสนใจ

Related News