โจรขมังเวทย์ เสกคาถาหายตัว เดินแก้ผ้าเข้าวัด ขโมยตู้บริจาค

วงจรปิดจับภาพจอมโจรขมังเวทย์ เสกคาถาพรางตัว เดินแก้ผ้าล่อนจ้อนเดินเข้ามาในวัดแหลมใต้ เข้าไปขโมยตู้รับบริจาค ยกออกมาโตงเตง ก่อนจะนำตู้ไปงัดนำเงินด้านในออกมา ด้านหลวงตาตื่นขึ้นมาทำวัตร เห็นเต็มๆ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะจอมโจรมีมีดอยู่ที่มือ ทำให้จอมโจรคิดว่าหลวงตาไม่เห็น เดินชะล่าใจใจเย็นออกไปใส่เสื้อผ้านอกวัด ก่อนหลบหนีไป

ภาพวงจรปิดภายในวัดแหลมใต้ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ ช่วงเวลาตี 3 คืนวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยในภาพเป็นชายที่แก้ผ้าเปลือยเปล่า เดินทอดน่องไปนั่งอยู่ที่หน้าศาลา ที่ทางวัดนำเครื่องนวดไฟฟ้า เปิดไว้บริการให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่วัดได้ผ่อนคลาย โดยภายในศาลามีตู้บริจาค อยู่หนึ่งตู้ ให้ประชาชนที่มาใช้บริการได้บริจาคตามกำลังศรัทธา ซึ่งโจรรายนี้น่าจะท่องคาถาพรางตัว ถอดเสื้อผ้าวางไว้ที่ต้นไม้ ด้านนอกวัด ก่อนจะเดินแก้ผ้าเข้ามาเพราะคิดว่าไม่มีใรเห็น จากนั้นได้เข้าไปยกตู้เงินบริจาค ก่อนจะเดินออกมาในสภาพที่เปลือยเปล่า ยกตู้ออกไปด้านข้างศาลา ก่อนจะใช้มีดปลอกผลไม้ ที่หามาได้จากร้านค้าขายของด้านหน้าศาลา ทำการงัดตู้นำเงินข้างในไป และทิ้งตู้รับบริจาคเอาไว้ ซึ่งพระครูธรรมจำลอง อายุ 62 ปี เจ้าอาวาสวัดแหลมใต้ ได้นำออกมาให้สื่อมวลชน ช่วยติดตามหาบุคคลในภาพ ที่เข้ามาขโมยเงินในตู้บริจาคของทางวัดไป

พระครูธรรมจำลอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา หลวงตาวิบูลย์ จันทพล อายุ 52ปี ได้ตื่นขึ้นมาเพราะจะไปทำวัตรเช้า เดินมาเจอชายแก้ผ้าอยู่ที่ลานวัด แต่หลวงตาก็ไม่กล้าเข้าไป เพราะชายรายนี้ถือมีดอยู่ จึงได้แต่แอบมอง ก่อนที่ชายคนนี้จะเดินไปใส่เสื้อผ้า ด้านนอกวัดแล้วก็เดินหายไป พอมาสำรวจตรวจสอบก็พบว่า ตู้รับบริจาคภายในศาลาที่เปิดไว้ให้ประชาชนได้มาใช้บริการนวดได้หายไป จึงเดินสำรวจตรวจสอบ ก็มาพบตู้บริจาคถูกงัดวางอยู่ด้านข้างศาลา โดยภายในมีเงินบริจาคของญาติโยม คาดว่าน่าจะหลายพันบาทอยู่ในนั้น เพราะทางวัดไม่ได้เปิดนำเงินออกมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งคนร้ายคงคาดว่าตัวเองมีวิชาอาคมดี จึงถอดเสื้อไว้ด้านนอก ก่อนท่องคาถาพรางตัว แล้วเดินเข้ามาในวัด ยกตู้บริจาคออกไป หวังว่าคงไม่มีใครเห็น แต่คาถาก็ไม่สามารถหลบกล้องได้ ทำให้กล้องวงจรปิดของทางวัดจับภาพได้อย่างชัดเจน เห็นทุกส่วนทุกอวัยวะ ตนเองเห็นภาพแล้วก็รู้สึกสลดใจ ทำไมถึงเข้ามาขโมยของวัดแบบนี้ จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด มาช่วยให้สื่อช่วยตามหาบุคคลในภาพ เห็นนำเงินที่ขโมยไปมาคืนวัด ซึ่งทางวัดก็ได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้แล้ว ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา