เลือกตั้งและการเมือง

"วันชัย" เชื่อเลือกโหวตรอบหน้าได้นายกฯ ชี้พท.จับมือภท. ไม่มีแก้ม.112-ก้าวไกล

โดย nutda_t

8 ส.ค. 2566

212 views

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย จับมือกับพรรคภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาล ว่านับแต่ไม่มีมาตรา 112 สว.ได้พูดคุยกันหลายกลุ่มหลายฝ่ายและเสียงส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ถ้าไม่มีเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว จะโหวตให้กับใครก็ตามที่ได้รวมเสียงส่วนใหญ่ได้ และขณะนี้ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย กับพรรคอื่นๆรวมกันได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ก็เชื่อว่าสว. จะโหวตให้ เพราะประเด็นแก้มาตรา 112 หรือพรรคก้าวไกลหมดไปแล้ว สว.ต้องการให้มีรัฐบาลโดยเร็ว อยากจะรีบโหวต หลังคาราคาซังและมีผลกระทบถึงสว. ทำให้ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปมองว่ามีส่วนในการที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลช้า หรือสว.อาจเป็นอุปสรรคในการจัดตั้ง และการบริหารประเทศ


ดังนั้น สว.หลายคน โดยเฉพาะที่อยู่ต่างจังหวัด ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยากให้มีการโหวต อยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว และแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือพุ่งเป้ามาที่สว. พร้อมขอฝากไปยังพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำด้วยว่า ในช่วงหาเสียงจะโจมตีกล่าวหาใคร เป็นเพียงเรื่องของการหาเสียง แต่ขณะนี้เป็นเรื่องของการตั้งรัฐบาล เป็นวาระในการแก้ปัญหาของประชาชนเมื่อไม่สามารถมีเสียงได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดพรรคเดียว ก็จำเป็นต้องมีการประนอมอำนาจหลายพรรคตกลงกันให้ได้ ได้กันบ้าง เสียกันบ้าง ทำอย่างไรให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว อย่าไปตั้งแง่ตั้งงอน ทำให้ประเทศสะดุดหยุดได้ อยากให้เอาวาระของประชาชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประชาชนโดยเร็ว ยิ่งมีรัฐบาลเร็วเท่าไหร่ก็จะทำให้ประเทศเกิดความเชื่อมั่นมากเท่านั้น

นายวันชัย ย้ำว่า สว.ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือปัญหาใดๆทั้งสิ้น พร้อมที่จะสนับสนุนคนที่ได้เสียงข้างมาก พร้อมที่จะโหวตให้ให้มีรัฐบาลเร็วๆ และย้ำว่าอย่ามัวแบ่งซีกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่ากลุ่มนั้นเป็นเผด็จการ กลุ่มนั้นเป็นก๊วนพวกสืบทอดอำนาจ เพราะมันจบแล้ว ตั้งแต่มีผลการเลือกตั้งออกมา ทุกคนมาจากประชาชน ก็ต้องลดละเลิกเรื่องการกล่าวหากัน รีบตกลงกันให้ได้และรีบเดินหน้า

ส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เคยพูดเรื่องมาตรา 112 และมีประเด็นเรื่องปมพิรุธเลี่ยงภาษีที่ดิน นายวันชัยกล่าวย้ำว่า โดยหลักการ ใครรวมเสียงข้างมากได้จะให้พรรคนั้นและคนๆ นั้น ส่วนประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นใครอย่างไร เป็นเรื่องของหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีการประสานหาเสียง อาจจะพูดจาอะไรที่มันเลยเถิดไป แต่ปรากฏว่าที่ตนฟังจากการแถลงล่าสุดได้พูดชัดเจนว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายในการแก้มาตรา 112 จึงทำให้ประเด็นเหล่านี้ตกไป

ส่วนจะมีสว.บางคนตั้งแง่ตั้งประเด็น นายวันชัย มองว่า ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ตนรับฟัง เห็นตรงกันว่าใครรวมกันได้ก็พร้อมที่จะสนับสนุน ไม่ได้มองเรื่องตัวบุคคลเป็นสำคัญ เพราะเชื่อเหลือเกินว่าคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องผ่านการกลั่นกรองของพรรคการเมืองและองค์กรต่างๆตรวจสอบมาแล้ว และถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีพรรคการเมืองต่างๆ ก็อาจจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นอีกเรื่องในอนาคต

ทั้งนี้หากมีพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย นายวันชัย กล่าวว่าเท่าที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกับสว.หลายกลุ่ม ประเด็นนี้ตัดออกไปแล้ว ไม่ได้เข้าข้างพรรคใด ขณะนี้สว.เข้าข้างประชาชน เพียงแค่ตัดประเด็น 112 ที่มองว่ากระทบต่อความมั่นคงและสถาบันออกไปแล้ว ดังนั้นย้ำว่าใครรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ ก็จะเป็นหลักการสำคัญของสว. ที่พร้อมสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

ส่วนกระแสตีตกชื่อนายเศรษฐา ให้การจัดตั้งรัฐบาลอยู่ที่พรรคอันดับ 3 และ 4 นั้น นายวันชัย มองว่าเป็นเพียงข้อวิเคราะห์ทางการเมืองของนักวิชาการ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาตัวบุคคลมาเป็นตัวตั้ง เอาหลักการเป็นสำคัญ ไม่เช่นนั้นกระสุนจะมาตกที่สว. พร้อมย้ำว่าสว.มาปรารภอยากให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีเร็วที่สุด เพราะผลจากการโหวตครั้งที่แล้วรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นถ้ารีบโหวตให้มีรัฐบาลโดยเร็ว สว. ก็จะได้ไม่ตกเป็นเป้าและไม่เป็นเมืองกระสุนตก ที่ทำให้ประชาชนเอาประเด็นเหล่านี้มาเป็นข้อกล่าวหา อยากให้ข้อครหา ข้อกล่าวหาทั้งหมดออกไป และอยากให้มีรัฐบาลเดินหน้าประเทศไทยต่อไป และการเลือกครั้งหน้าเชื่อว่าจะได้นายกรัฐมนตรี เว้นแต่จะมีปัญหาอุปสรรคอันเกิดจากพรรคการเมืองที่จะตั้งรัฐบาลหรือข้อกฎหมาย หรือถ้าไม่สะดุดขาตัวเอง

ส่วนหากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย นายวันชัย กล่าวว่าเป็นเอกสิทธิ์และเป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตย ที่เป็นสิทธิ์จะโหวตหรือไม่โหวตให้ ไม่เป็นประเด็นที่จะตั้งแง่ตั้งงอน เพราะในอนาคตเราไม่มีทางรู้ได้ว่าใครจะรวมกับใครในภายหลัง แต่ก็เชื่อว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยจะตระหนักถึงปัญหาต่างๆเหล่านี้ดี แล้วรู้ว่าควรต้องทำอะไรในสถานการณ์แบบนี้ และที่ตนพูดมาโดยตลอดว่าพรรคเพื่อไทยมีศักยภาพ มีประสบการณ์ประสานสว.ได้ จึงเชื่อว่าคงจะดำเนินการได้บรรลุผลในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนถ้าพรรคก้าวไกลจะไปร่วมรัฐบาลภายหลังปรับครม.หรืออะไร ก็เป็นเรื่องในอนาคตที่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ จึงไม่กังวล

แท็กที่เกี่ยวข้อง  วันชัย สอนศิริ

คุณอาจสนใจ

Related News