รวบ "เอส คอลาย" พาลูกเลี้ยงวัย 12 ขวบ หนีออกจากบ้าน บังคับเสพยาก่อนข่มขืน

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพ สามีหนุ่มที่มีลอยสักเต็มตัว พร้อมประกาศให้ทุกคนช่วยตามหาบุคคลรายนี้ เนื่องจากมีการพาลูกสาววัย 12 ขวบ ออกจากบ้านพัก แล้วทางบ้านเกรงว่าลูกสาวจะติดยาและถูกสามีหนุ่มรายนี้กระทำชำเรา เพราะเด็กหญิง 12 ขวบ เป็นเพียงลูกเลี้ยงของหนุ่มรายนี้

ในเวลาต่อมาเพจสืบนครบาล IDMB มีการโพสต์ข้อความ โดยให้ข้อมูลว่าเรื่องนี้ถึงหูผู้การจ๋อ (ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล) เป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีการจัดกำลังลงพื้นที่เพื่อติดตามหาตัวชายคนนี้อย่างเร็วที่สุด

พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ทางสืบนครบาลได้รับการประสานผ่านช่องทางอินบ็อกซ์ในโซเชียลมีเดีย ในข้อมูลดังกล่าวจากทางครอบครัวของผู้เสียหายเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา จึงได้มีการจัดกำลังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ หาข่าวและติดตามตัวเด็ก โดยกำชับให้ชุดทำงานเร่งรัดในการติดตามตัว เนื่องจากได้ข้อมูลว่าตัวผู้ก่อเหตุมักจะมีการบังคับให้เด็กเสพสิ่งเสพติดและมีการกระทำชำเราล่วงเกินเด็ก

ซึ่งทางตำรวจในตอนแรกได้ข้อมูลมาเพียงว่า ตัวผู้ก่อเหตุเป็นแฟนหนุ่มที่มาติดพันกับมารดาของเด็กหญิง 12 ขวบ และเริ่มมาอยู่กินฉันสามีภรรยากันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ขณะนั้นเด็กหญิงรายนี้อายุเพียง 8 ขวบ ก่อนที่ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงสาวจะพบความผิดปกติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้ก่อเหตุรายนี้กับตัวเด็ก เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา

ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้รับข้อมูลว่าตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ชื่อ นายวีรยุทธ หรือ เอส คอลาย อายุ 29 ปี มีการพาตัวเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ไปที่ชุมชนแห่งหนึ่งในย่านธนบุรี เพื่อไปทำการเสพสิ่งเสพติด เมื่อตำรวจนำกำลังลงพื้นที่ ผู้ก่อเหตุได้ไหวตัวพาเด็กสาววัย 12 ขวบ หลบหนีไป โดยตำรวจได้พบรอยเท้าภายในชุมชน จึงมีการขยายผลไปจนพบเส้นทางว่าผู้ก่อเหตุมีการนำตัวเด็กไปที่ตลาดวังหลัง จึงเร่งรัดติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ ในช่วงบ่ายวานนี้ (วันที่ 6 สิงหาคม เวลา 14.00 น.)

ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติของตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ พบว่าเคยต้องโทษในหลายคดีเข้าออกเรือนจำมามากกว่า 13 ครั้ง และยังเคยพาเด็กสาววัย 12 ขวบ ที่เป็นลูกติดของแฟนสาวรายนี้ออกไปจากบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นทางครอบครัวของเด็กหญิงได้แจ้งความและมีการดำเนินคดีไปจนถึงขั้นตอนการส่งตัวฟ้องต่อศาล และมีการประกันตัวออกมา แต่กลับมาก่อเหตุขึ้นอีก โดยมีการตัดกำไล em ที่ข้อเท้าออกและพาเด็กมาก่อเหตุอีกครั้ง โดยสาเหตุเจ้าตัวยังคงอ้างว่ามาจากการที่ตนเองหลงรักเด็กสาวรายนี้ และหมดรักกับคนเป็นแม่ ซึ่งเป็นแฟนสาวของตนเอง จึงตัดสินใจพาเด็กออกไปเร่ร่อนเพื่อต้องการอยู่กันสองต่อสอง

สำหรับตัวเด็ก หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวกลับมาได้ พบว่ามีบาดแผลที่แขนเล็กน้อย แต่เด็กยังคงอยู่ในอาการมึนเมาคล้ายมีการเสพยาเสพติดโดยฝ่ายสืบสวนชุดจับกลุ่มได้มีการประสานให้เจ้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ให้เข้ามาดำเนินการรับตัวเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ไปดูแล และรักษาสภาพจิตใจเป็นที่เรียบร้อย


เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนชุดจับกลุ่มได้มีการแจ้งข้อหานายเอส ฐานความผิดเกี่ยวกับเพศ