สังคม

เผยนาทีสลด รถไฟชนกระบะขนคนงานลากปลาดับ 8 ศพ ได้ยินเสียงหวีดดังกระชั้นชิดไม่ถึง 1 วินาที ก่อนเกิดเหตุ

โดย weerawit_c

5 ส.ค. 2566

373 views

จากกรณีอุบัติเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ 833 ดีเซลเลขที่ 5240 มีต้นทางจากไอซีดี ลาดกระบัง ปลายทางแหลมฉบัง ชนกับรถยนต์กระบะขนคนงานลากปลา บริเวณใกล้กับที่หยุดรถคลองอุดมชลจร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 3 ราย ประกอบด้วย


1. นายสุนทร บัวทอง อายุ 55 ปี

2. นางวารี ภู่ถาวร อายุ 64 ปี

3. น.ส.สุลีรัตน์ ไวว่อง อายุ 22 ปี

4. นายสุรพล อยู่เล็ก อายุ 60 ปี

5. นายณัฐชัย เหยี่ยว อายุ 18 ปี

6. นายธนาวัฒน์ ลิ้มเจริญวิวัฒน์ อายุ 27 ปี

7. นายสายยนต์ โพธิ์รักษ์ อายุ 62 ปี

8. นางสุนทรี โพธิ์รักษ์ อายุ 55 ปี


ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย รักษาตัว รพ.พุทธโสธร ประกอบด้วย

1. นายวรพล ม่วงสี อายุ 25 ปี (เส้นเอ็นฉีกขาด บาดเจ็บที่ศีรษะ นิ้วก้อยซ้าย กระดูกแตก)

2. นายจตุพร แก้วโรจน์ อายุ 26 ปี  

3. นายสุพรรณ โพธิ์รักษา อายุ 25 ปี

4. นายสุรพัศ ประสพ อายุ 20 ปี (บาดเจ็บเล็กน้อยจากการกระโดดลงจากรถ ขอกลับไปรักษาตัวที่บ้าน)


ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ บันทึกภาพ 02.16 น. (4 ส.ค.) เห็นแสงไฟรถกระบะคันเกิดเหตุกำลังข้ามทางรถไฟ และได้ยินเสียงหวีดรถไฟลากยาวไม่ถึง 1 วินาที ลักษณะกระชั้นชิด จากนั้นรถไฟได้พุ่งชนบริเวณท้ายรถกระบะคันดังกล่าวอย่างแรง ซึ่งได้ยินแต่เสียงชนไม่เห็นภาพจังหวะตอนชน


วานนี้ (4 ส.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ราย มายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อพิมพ์รายนิ้วมือ นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรรอให้ญาติติดต่อขอรับนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป โดยมีญาติเดินทางมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ขอดูร่าง บางคนโผล่เข้ากอดศพร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ


นางสาวอรอนงค์ บัวทอง อายุ 26 ปี ลูกสาวของ นายสุนทร บัวทอง อายุ 55 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า พ่อเดินทางออกจากบ้านมากับกลุ่มคนอื่นรับจ้างจับปลา หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ที่พ่อออกไปจากบ้าน ประมาณ 05.00 น. มีคนมาเรียกตนเองที่บ้าน ให้โทรหาพ่อเพราะเกิดอุบัติเหตุกับรถกระบะที่พ่อนั่งไป ตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปหาพ่อแต่ก็ไม่มีคนรับ โดยกู้ภัยรับโทรศัพท์ของพ่อ


ตนเองจึงถามว่าเจ้าของโทรศัพท์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ถามชื่อว่าพ่อตัวเองชื่ออะไรเมื่อตนเองบอกว่าชื่อสุนทร กู้ภัยตอบกลับมาว่าได้เสียชีวิตแล้ว ตนเองรู้สึกช็อกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะคืนก่อนเกิดเหตุยังพูดคุยกับพ่อเป็นปกติไม่มีลางบอกเหตุว่าพ่อจะไปเกิดเหตุร้าย ซึ่งพ่อก็ยังชักชวนให้แฟนตนเองไปด้วย แต่แฟนตัวเองไม่ว่างจึงไม่ได้ไป หากไปด้วยก็อาจจะเกิดอันตรายไปอีกหนึ่งคน


นายวิชัย อยู่เล็ก อายุ 54 ปี ผู้ขับรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุ ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนญาติพี่น้องไปรับจ้างจับปลา และต้องสัญจรข้ามทางรถไฟดังกล่าว ยืนยันจุดเกิดเหตุค่อนข้างมืด สัญญาณไฟมีปัญหาติดบ้างไม่ติดบ้าง อีกทั้งรถไฟขนสินค้าก็ไม่ได้เปิดหวีดเตือนมาแต่ไกล ทั้งที่บริเวณนั้นเป็นทางข้าม ตนไม่เห็นไฟของรถไฟคิดว่าไม่มีรถไฟขับมาจึงขับรถกระบะข้ามทางปกติ


อีกทั้งบริเวณดังกล่าวลักษณะเป็นเนิน และมีทางรถไฟ 3 เลน ตอนที่รถของตนกำลังจะข้ามพ้นเลนสุดท้าย ปรากฎว่ารถไฟได้ขับมาและชนเข้าที่ท้ายกระบะอย่างแรง ส่งผลให้รถคนที่นั่งมาท้ายกระบะกระเด็นออกจากรถเสียชีวิต ส่วนตนเองนั่งหน้ารถจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังรู้สึกช็อกและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องกันหมด


นายวิชัย ยืนยัน คนที่นั่งในรถกระบะมองเห็นรถไฟขับมาแบบกระชั้นชิด บอกให้ตนเองขับไปเลยๆ แต่ตนมองไม่เห็นรถไฟและไม่ได้ยินเสียงหวีด ยืนยันที่เกิดเหตุมืดและมองไม่เห็นอะไร ปกติเวลาที่ตนขับข้ามทางรถไฟ ก็จะชลอความเร็วหรือหยุดใช้ความระมัดระวังมาก อยากเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีเครื่องกั้นทาง โดยเฉพาะจุดเกิดเหตุเป็นทางที่คนสัญจรผ่านจำนวนมาก


นายสุรพัศ ประสพ อายุ 20 ปี ผู้รอดชีวิตที่นั่งมาในรถยนต์กระบะ เล่าว่า ขณะรถกำลังจะขับข้ามทางรถไฟ ตนเห็นว่ามีขบวนรถไฟพุ่งใกล้เข้ามาในระยะอีกเพียงไม่กี่เมตร และได้ยินเสียงคนงานที่นั่งมาด้วยกันร้องบอกคนขับรถว่าให้รีบข้ามไป ตนเองมองว่าไม่น่าจะทันจึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถ


นายวิเชียร แสงทับสอน อายุ 58 ปี เจ้าของบ่อปลา เปิดเผยว่า ตนได้ว่าจ้างกลุ่มคนงานให้มาจับปลาที่บ่อของตน นัดเวลาไว้ตี 2 เห็นผิดสังเกตจึงให้แฟนโทรศัพท์ตาม จึงทราบว่ารถคันที่บรรทุกคนงานมาเกิดอุบัติเหตุ รู้สึกเสียใจเกิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ตนรู้จักกับนายวิชัย ว่าจ้างให้มาลากปลาในบ่อของตนเกือบ 30 ปี


ทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณทางลักผ่านที่ไม่ได้รับอนุญาต หลักกิโลเมตรที่ 43/9 ใกล้กับที่หยุดรถคลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งการรถไฟฯ ได้ติดตั้งป้าย และสัญญาณไฟเตือนครบถ้วนเพื่อพยายามช่วยในเรื่องความปลอดภัยให้มากที่สุด


นางสาวสุรีพร นิรันดร อายุ 32 ปี ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เผยว่า สัญญาณไฟเตือนบริเวณจุดเกิดเหตุติดบ้างไม่ติดบ้าง บางครั้งรถไฟมาถึงทางข้ามแล้วสัญญาณไฟเพิ่งติด บางครั้งขบวนรถไฟผ่านไปแล้วสัญญาณไฟเยิ่งติดขัดข้องบ่อย ต้นไม้ก็บังสัญญาณและป้ายเตือน ทำให้ผู้ที่สัญจรมองไม่เห็น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มาปรับทัศนียภาพ ตัดต้นไม้ที่บังสัญญาณไฟและป้ายเตือน ซ่อมแซมแก้ไขสัญญาณไฟ โดยก่อนหน้านี้สัญญาณไฟเห็นไม่ชัดบางทีใช้งานได้ เกิดเหตุแล้วเพิ่งมาแก้ปัญหา


ด้านผู้ขับรถยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า อันตรายเพราะไม่มีเครื่องกั้น ตนเองขับรถผ่านทุกวัน ซึ่งถนนข้ามทางรถไฟมีลักษณะเป็นเนิน ทำให้บางคครั้งมองไม่เป็นรถไฟ และมีต้นไม้บดบังสัญญาณไฟทำให้มองไม่เห็นสัญญาณเตือน เพราะเวลาขับรถจะไม่ค่อยได้ยินเสียงหวีด กลางคืนก็มองเห็นสัญญาณไฟไม่ชัด


ด้าน นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ เผยว่า แม้ว่าพนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงทางลักผ่าน จำนวน ถึง 3 ครั้ง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ


แม้ว่าทางดังกล่าวจะเป็นทางลักผ่าน แต่เพื่อพยายามที่จะลดอุบัติเหตุให้มากที่สุด การรถไฟฯ จึงได้ดำเนินการติดตั้งสัญญาณเตือน ป้ายจราจร ไฟกะพริบป้ายข้อความเตือนทั้ง 2 ด้าน มีเครื่องหมายจราจรครบถ้วนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านจุดดังกล่าว


ในส่วนมาตรการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งสรุปจำนวนทางลักผ่านที่ผิดกฎหมายเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาปิดจุดทางลักผ่านต่างๆ หรือประสานหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟสนับสนุนงบประมาณในการติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ


นายพงษ์ศักดิ์ พวงร้อย พนักงานเทคนิค 10 การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาหากการรถไฟฯ เข้าไปดำเนินการปิดทางลักผ่านต่าง ๆ ก็จะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ขอให้เปิดเส้นทางลักผ่านเพื่อใช้ในการสัญจร หรือลักลอบเปิดใช้ทางลักผ่านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟฯ แต่อย่างใด


พ.ต.อ. สาธิต มิตรรัก ผู้กำกับการ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ได้เชิญตัวนายวิชัย อยู่เล็ก คนขับรถมาสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหากรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสหรือไม่นั้นต้องรอผลแพทย์ ทั้งนี้พบว่าที่เกิดเหตุเป็นทางลักผ่านไม่มีเครื่องกั้น ส่วนรถไฟจะเปิดหวีดเตือนหรือไม่ รวมถึงคนขับประมาทหรือไม่ต้องรอสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป



https://youtu.be/YioqW0qpxnE

คุณอาจสนใจ

Related News