สังคม

คืบหน้า "น้องตุลา" ลูกช้างป่าพลัดหลง อาการยังน่าห่วง นอนไม่หลับมีแผลที่ปาก พี่เลี้ยงดูแลใกล้ชิด 24 ชม.

โดย kanyapak_w

5 ส.ค. 2566

658 views

(5 ส.ค.) เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์เฟซบุ๊ก ความคืบหน้าลูกช้างป่าพลัดหลง "ตุลา" มีอาการนอนไม่หลับเพราะเจ็บขา และพอไม่ยอมล้มนอนทำให้ใช้งวงจับที่ไม้ค้ำจนเกิดบาดแผลที่ปาก รวมถึงค่าตับสูง ทำให้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยง 24 ชั่วโมง



#คืบหน้า...การดูแลรักษา "ตุลา" ลูกช้างป่าพลัดหลง สัตวแพทย์ และพี่เลี้ยง ยังต้องดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง



ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ร่วมกับสัตวแพทย์ สัตวบาล จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และเจ้าหน้าที่จากศูนย์แก้ไขปัญหาช้างป่าฯ ทำการรักษาและอนุบาลดูแลลูกช้างป่า "น้องตุลา" รายงานอาการและการรักษา รวมถึงผลตรวจ เข้ามา ว่า จากการยืนหลับไม่ยอมล้มตัวลงนอนของลูกช้างติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้มีอาการเจ็บและอักเสบบริเวณขาหน้าทั้ง 2 ข้าง รวมไปถึงขาหลังขวา การย่างเดินผิดปกติ มีอาการบวมน้ำอักเสบบริเวณไหล่ข้างซ้ายร่วมด้วย มีปัญหาระบบกล้ามเนื้อและกระดูก พบว่ามีภาวะกระดูกบาง (Metabolic Bone Disease) จากการถ่ายภาพเอกซเรย์



สำหรับสาเหตุที่ไม่ยอมล้มตัวนอนเนื่องจากเจ็บขา และผลของการไม่ยอมล้มตัวนอนเป็นเวลาหลายวัน ทำให้บริเวณปากมีแผลผลจากการใช้งวงจับคอกไม้เพื่อพยุงน้ำหนักตัว ทำการหุ้มคอกไม้ด้วยผ้าลดการสัมผัสกับไม้โดยตรง ล้างปากและพ่นสเปรย์นาโนรักษาแผลในปาก



เบื้องต้นทำการปูพื้นคอกด้วยแผ่นยางหนาเพื่อลดแรงกดทับจากการยืนเป็นเวลานานในคอกพื้นปูน



และทำเลเซอร์บริเวณขาทุกข้างที่มีการอักเสบและเจ็บ หัวไหล่ข้างซ้าย ทำการรักษาด้วยเครื่องแม็กเนติก (Magnetotherapy Vet เครื่องมือแพทย์ที่ทำการรักษาด้วยพลังงานสนามแม่เหล็ก) เพื่อเพิ่มความหนาแน่นตัวของกระดูก ลดบวมช้ำ ลดปวด ลดอักเสบ เร่งกระบวนการงอกของกระดูก ในกรณีที่สัตว์มีการกระดูกหัก กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย และใช้ในกรณีกระดูกหัก กระดูกบางได้ทั้งหมดที่มีการเกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างของร่างกาย โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องแม็กเนติกจากคุณกัญจนา ศิลปอาชา



สัตวแพทย์ฉีดยาลดปวด ร่วมกับประคบเย็นและร้อนตามจุดต่างๆ ที่บวมและอักเสบ เสริมแคลเซียม วิตามินบีรวมบำรุงปลายประสาท วิตามินซีเพิ่มภูมิคุ้มกัน และยาบำรุงข้อให้กินทุกวัน



โดยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ได้รับการสนับสนุนเข้าประเมินอาการ สุขภาพ เก็บตัวอย่างเลือด และสวอปช่องปากจาก ผศ.สพ.ญ.ดร.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ คณะทำงานสมาคมสัตวแพทย์สวนสัตว์และสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย และคลินิกช้างและสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน น.สพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ นายกสมาคมสัตวแพทย์สวนสัตว์และสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย และทีมสัตวแพทย์จากองค์การสวนสัตว์ (สวนสัตว์เปิดเขาเขียว)



ผลการตรวจเฮอร์ปีส์ไวรัสจากตัวอย่างเลือดและสวอปช่องปากให้ผลเป็นลบ ผลตรวจเลือดมีค่าตับสูงกว่าปกติ ค่าแคลเซียมต่ำกว่าปกติ และค่าเอนไซม์กล้ามเนื้อสูงกว่าปกติมาก สำหรับปัสสาวะปกติ ถ่ายอุจจาระเป็นก้อน ทั้งนี้จะได้ทำการรักษา ดูแลใกล้ชิดและเฝ้าระวังอาการตลอด 24 ชั่วโมง



ที่มา : ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 - กระบกคู่ จังหวัดฉะเชิงเทรา"







คุณอาจสนใจ