‘ลูกค้า’ แฉ! ถูกช่างสักจับหน้าอก บังคับจับนกเขา แถมยังข่มขู่ซ้ำ พบเหยื่อนับสิบคน

วันที่ 4 ส.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับผู้เสียหายที่ออกมาแฉพฤติกรรมช่างสักคนหนึ่ง ใน จ.นครสวรรค์ ที่มีพฤติกรรมลวนลามลูกค้าผู้หญิง หนักถึงขั้นขอมีเพศสัมพันธ์ บางครั้งก็ใช้ถ้อยคำบูลลีลูกค้า จนเกิดมหกรรมการแฉ เพราะมีลูกค้าสาวๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายราย

คุณออม ลูกค้ารายแรกเล่าว่าร้านสักร้านนี้ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากใน จ.นครสวรรค์ ตนนัดคิวไปสัก โดยตกลงกันว่าจะสักบริเวณสีข้างลำตัว ออมพาเพื่อนไปนั่งรอด้วย 2 คน แต่ช่างให้นั่งรอด้านนอก พอเข้าไปถึงในร้าน จะเห็นว่าในร้านมีการปิดม่านมิดชิด ถ้าคนขับขี่รถผ่านหน้าร้าน อาจจะคิดว่าร้านไม่เปิด แล้วพอเข้าไปด้านใน ก็จะมีม่านกั้นอีกชั้น เหมือนเป็นห้องสักโดยเฉพาะ คนที่ติดตามไปต้องนั่งรออยู่ด้านนอก

พอไปถึง เขาบอกให้ตนปลดตะขอเสื้อชั้นในออก บอกว่าจะทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็เขาก็เปิดเสื้อชั้นในตนออกจนเห็นหน้าอก แล้วใช้มือถูๆ ลูบคลำหน้าอกอยู่นาน ตนเห็นท่าไม่ดี จึงถามไปว่าจะลงเข็มหรือยังช่างสักรายนี้บอกว่า ขอทำความสะอาดผิวหนังอีกไม่นาน เดี๋ยวจะเริ่มลงเข็มแล้ว แต่เขาก็ยังจับหน้าอกตนไม่เลิก แล้วยังดึงมือตนไปจับที่ต้นขาเขา แล้วขยับไปจับอวัยวะเพศของเขา บอกว่า ถ้าเจ็บให้บีบได้เลย

ตนเห็นว่าไม่ใช่แล้ว จึงลุกออกมา แล้วบอกว่าไม่สักแล้ว แล้วกลับบ้านทันที ปรากฏว่าช่างสักทักแชตมาบอกว่า ดีแล้วที่ไม่สัก เพราะตนยังเด็ก เผื่อในอนาคตจะรับราชการแล้วอาจจะมีปัญหา ตนจึงสวนกลับไปว่า อย่ามาอ้างเรื่องนั้นเรื่องนี้ สิ่งที่เขาทำมันไม่มีจรรยาบรรณ และควรจะขอโทษตั้งแต่เกิดเรื่องแล้

เช่นเดียวกับ คุณเอ ผู้เสียหายอีกคนบอกว่า เจอเหตุการณ์ใกล้เคียงกัน โดยตนเคยสักที่แขนมาก่อน ตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไร เขาก็ชวนพูดชวนคุยตามปกติ แนะนำเรื่องการสัก ไม่ได้ทำพฤติกรรมไม่ดีอะไร ผ่านมา 2-3 ปี ตนจึงไปสักอีกครั้งกับช่างคนนี้ จะสักตรงกลางหน้าอก โดยพาแฟนไปด้วย ช่างก็ให้แฟนนั่งรอด้านนอก เขาให้ตนถอดเสื้อให้หมด แล้วเอาผ้าห่มมาปิดหน้าอก เอาไว้ หลังจากสักไปสักพัก เขาก็บอกว่าให้เอาผ้าออกเลย ไม่ต้องปิดแล้ว เขาเห็นมาเป็นร้อยเป็นพันแล้ว ไม่ต้องกลัว ตนก็คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอเอาผ้าออก เขาเอามือมาจับหน้าอกตน แล้วอีกมือหนึ่งก็สักไปด้วย

แล้วยังเอามือของตนไปจับที่ต้นขา และอวัยวะเพศของเขา แล้วขู่ว่าถ้าไม่อยากมีเรื่อง อย่าเสียงดัง เพราะแฟนของตนรออยู่ข้างนอก ขู่ว่าจะแฉว่าตนจ่ายเงินไม่ครบ ข่มขู่ต่างๆ นานา บอกว่าถ้าอยากจะออกไปเร็วๆ ให้ช่วยสำเร็จความใคร่ให้เขาให้เสร็จ

หลังจากวันนั้น ตนไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง กลัวไปหมด เก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเอง แล้วตัดสินใจไปสักกับร้านอื่น เพราะเห็นว่าเป็นรุ่นน้องของเพื่อนที่รู้จักกัน ปรากฏว่าไปถึงเจอช่างสักที่ลวนลามเรา อยู่ที่ร้านนั้นด้วย เขาเป็นอาจารย์ที่สอนช่างสักคนใหม่ ที่เรานัดสักรอบนี้



ระหว่างที่สักอยู่ ผู้ก่อเหตุเดินมานั่งดูอยู่ข้างๆ เหมือนมาคอยดูงาน และแนะนำช่างสักคนใหม่ว่า ต้องสักแบบนั้น แบบนี้ ระหว่างที่พูด เขาสอดมือเข้ามาใต้ผ้าขนหนู แล้วลวนลามด้วยการจับหน้าอกตน ตนก็เลยดิ้นเพื่อให้ช่างที่สักอยู่รู้ตัวว่าตนโดนกระทำ แต่เขาเข้าใจว่าตนเจ็บที่สัก ก็เลยรีบหยุด ส่วนผู้ก่อเหตุรีบชักมือออก

หลังเกิดเหตุตอนนั้นก็ยังไม่กล้าบอกแฟน กลัวว่าแฟนจะใจร้ายไปทำร้ายช่าง อาจทำให้แฟนมีคดีความติดตัว สุดท้ายจึงเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว ต่อมามีคนโพสต์แฉพฤติกรรมของช่างสักคนนี้ โดยมีชื่อย่อของร้าน ทำให้คนที่เจอเหตุการณ์ใกล้เคียงกัน ทักมาพูดคุยสอบถามจนรู้ว่าเป็นฝีมือช่างคนเดียวกัน ล่าสุดพบว่ามีผู้เสียหายร่วม 10 รายแล้ว บางรายโดนหนักถึงขั้นขอให้อมนกเขาให้ช่างด้วย

ขณะที่ คุณพนิษฐ์นันท์ นิ่มนวล อดีตประธานชมรมช่างสัก และผู้ประกอบการร้านสักแห่งประเทศไทย มองว่า โดยปกติแล้ว เวลาไปสัก สักตรงไหน ก็เปิดเสื้อผ้าแค่ตรงนั้น สักสีข้างไม่มีความจำเป็นต้องปลดเสื้อชั้นใน หรือสักกลางหน้าอก รอยสักเล็กๆ ก็แค่ปลดกระดุม แล้วเอาเทปกาวแปะเสื้อเซฟลูกค้าไว้ โดยมากร้านสักจะทำกันแบบนี้ ดังนั้นพฤติกรรมของช่างสักรายนี้ จึงถือว่าล่วงละเมิดลูกค้าอย่างชัดเจน

สิ่งที่อยากจะแนะนำลูกค้าที่กังวล กลัวจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากบอกว่า ตอนนี้มีช่างสักผู้หญิงเก่งๆ อยู่เป็นจำนวนมากแล้ว หรือถ้าต้องไปสักกับช่างผู้ชาย แล้วไม่สบายใจ กลัวเรื่องความปลอดภัย ทุกวันนี้มีโซเชียล ตอนสักก็ตั้งกล้องไลฟ์สดได้เลย ไม่ต้องให้เห็นอวัยวะที่สักก็ได้ แต่เพื่อทำให้ช่างสักรู้จักว่ามีคนจ้องอยู่ เขาก็จะไม่กล้าทำอะไรไม่ดี

ขณะที่ทนายแก้ว ให้ความรู้ในข้อกฎหมายว่า การจับจูบลูบคลำ เป็นความผิดฐานอนาจาร มีอายุความประมาณ 3 เดือน หากปล่อยเหตุให้ล่วงเลยไป ไม่ได้ไปแจ้งความเอาผิดเขา มันก็ทำให้เขาลอยตัว ไม่ได้รับกรรม แต่ถ้ามีสักคนที่ถูกบังคับให้อมนกเขา อันนี้ถือว่าเป็นคดีข่มขืนกระทำชำเรา มีอายุความยาวมาก 15 - 20 ปี อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจเอาไว้ เพื่อให้เรื่องนี้ได้เข้าสู่กระบวนการกฎหมายก่อน

ขณะที่ พ.ต.อ.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ โฟนอินเข้ามาเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาอนาจารแล้วโดยยอมรับว่าทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ อ้างว่าผู้เสียหายมีปัญหากับแฟน จึงตั้งใจปลอบ ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าผู้เสียหายเองก็สมยอม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำให้การ

หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลไปยังผู้เสียหายรายอื่นๆ ว่าใครที่เจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และมีใครที่เหตุยังไม่หมดอายุความอีกบ้าง ส่วนใครที่หมดอายุความไปแล้ว ก็สามารถกันตัวไว้เป็นพยานได้เช่นกัน