อาชญากรรม

ต้อนรับเข้าพรรษา! ตำรวจเมืองคอนบุกจับ “ท่านโต้ง” พระภิกษุชื่อดังค้าและเสพยานรกคากุฏิวัดกลางเมือง

โดย paranee_s

28 ก.ค. 2566

2.3K views

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 กค.2566 ร.ต.อ.พศวีย์ จันทอง รอง สวป.หัวหน้าชุด อส.ตร.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจได้จับกุม 2 ผัวเมียผู้ค้า-เสพยาเสพติดรายย่อยได้ 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า และยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวจึงทำการสอบสวนขยายผลจน 2 ผัวเมียให้การรับสารภาพว่าซื้อยาเสพติดมาจากพระภิกษุนักเทศน์ชื่อดัง สังกัดวัดแห่งหนึ่งในย่านตลาดแขก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อสั่งการดำเนินการต่อไป


หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เกียรติชัย มีสุข หน.ชุด ปปส.สภ.เมือง ร่วมทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม จนทราบเครือข่ายและมีพยานหลักฐานชัดเจน พร้อมเส้นทางการโอนเงิน


โดยมีพลเมืองดียืนยันว่าพระภิกษุรูปดังกล่าวเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ และ มักจะแปลงกายเป็นฆราวาสออกขับรถจักรยานยนต์ตระเวนเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในตอนกลางคืน ทั้งเคยก่อเหตุบุกใช้เหล็กแป๊บทำร้ายร่างกายหนุ่มคู่ขาที่นอกใจไปนอนกับผู้หญิงอื่น ซึ่งในขณะนี้พระภิกษุรูปดังกล่าวแต่งกายชุดฆราวาส (ชุดนอน) เพิ่งเสพยาไอซ์นอนหลับอยู่ในกุฏิภายในวัดดังกล่าว เชื่อว่ามียาเสพติดยาบ้า ยาไอซ์ อยู่ในครอบครองจำนวนหนึ่งด้วย


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนบุกตรวจค้นจับกุมทันที โดยเมื่อได้เดินทางเข้าตรวจค้นจับกุม และขออนุญาตกับทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว แจ้งพฤติกรรมของพระปลัดสมเกียรติ สุถิตฺสิโก หรือ นายสมเกียรติ คุ้มวงศ์ อายุ 42 ปี พรรษา 3 หรือที่รู้จักกันในนาม “ท่านโต้ง” ให้ทราบและขออนุญาตจับกุม ทางท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาสจึงอนุญาตให้ทำการจับกุมได้ เพราะไม่อยากให้ศาสนามัวหมอง เพราะบุคคลที่บวชเป็นพระแต่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด


กำลังตำรวจจึงไปเคาะประตูกุฏิของพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิเจ้าอาวาสออกไปประมาณ 30 เมตร ซึ่งพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ได้ตะโกนถามด้วยเสียงดุดันว่าใคร ก่อนจะเปิดประตูออกมาตรวจสอบด้วยความไม่พอใจ ซึ่งพบว่าพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” อยู่ในชุดฆราวาส โดยสวมชุดนอนสีดำ ไม่ได้ห่มจีวรแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมบัตรพนักงาน ปปส.เขาทำการตรวจค้น พบยาไอซ์หนัก 10 จี ยาบ้า 1 เม็ด อุปกรณ์การเสพ 1 ชุด


นอกจากนี้ยังพบวัตถุทางเพศ เป็นอวัยวะเพศหญิงเทียมทำด้วยยางซิลิโคน ซึ่งพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ให้การรับสารภาพแต่โดยดี และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจโดยติดต่อล่อซื้อยาบ้า ยาไอซ์ จากเครือข่ายให้ตำรวจ ส่วนวัตถุทางเพศลามกอนาจาร อวัยวะเพศหญิงที่พบในกุฏินั้นอ้างว่าเป็นของลูกศิษย์ผู้ชายวัยรุ่นที่มาเยี่ยมที่กุฏิฝากเอาไว้เท่านั้นไม่เกี่ยวกับตน


โดยเจ้าหน้าที่ได้ซ่อนตัวอยู่ภายในกุฏิ และภายในวัด ก่อนให้พระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” โทรศัพท์ติดต่อนายเกียรติศักดิ์ หรือ “เจมส์” อายุ 35 ปี ทำงานเป็นพนักงานไรเดอร์ส่งอาหารของบริษัทหนึ่ง ให้นำยาไอซ์ จำนวน 10 จี มาส่งมอบให้ที่กุฏิ


แต่เนื่องจากนายเกียรติศักดิ์ หรือเจมส์ ติดภารกิจมาช้า พระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ได้โทรสอบถามพร้อมเร่งให้มาส่ง นายเกียรติศักดิ์ หรือ “เจมส์” ถามย้ำว่าปลอดภัยไหม อยู่กับใคร พระปลัดสมเกียรติหรือท่านโต้ง” กล่าวตอบอย่างไร้พิรุธว่า “กูอยู่กับผัว มึงอย่าช้า รีบมาด่วน” จนในที่สุดนายเกียรติศักดิ์ หรือ” เจมส์” ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าที่กุฏิและเปิดประตูเข้าไปภายในกุฏิ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม ท่ามกลางความตกใจหน้าซีดของนายเกียรติศักดิ์



จากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติดของกลางในตัวนายเกียรติศักดิ์ รวมทั้งที่ รถจักรยานยนต์แต่อย่างใด แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำหลักฐานการพูดคุยกับพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” สั่งซื้อยาไอซ์มายืนยัน แต่นายเกียรติศักดิ์ ยังปากแข็งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาอ้างว่ามาหาพระปลัดสมเกียรติ หรือท่านโต้ง เพื่อมาทวงหนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดใด ๆ



ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ไปให้ท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาสทำการสึกตามขั้นตอน โดนทางเจ้าคุณ เจ้าอาวาสระบุว่าคงไม่ต้องสึก เพราะไม่ได้ห่มจีวรอยู่ในชุดฆราวาสอยู่แล้ว ที่สำคัญมีพฤติกรรมแบบนี้คงไม่ใช่พระขาดจากความเป็นพระไปแล้ว อย่างไรก็ตามพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” กล่าวยอมรับว่าตนเองขาดจากความเป็นพระไปแล้ว และยังลั่นวาจาสึกขาดจากความเป็นพระตามขั้นตอน พร้อมยินดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย



เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปลงบันทึกการจับกุมที่ป้อมตำรวจสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำการตรวจปัสสาวะทั้งนายสมเกียรติ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” และนายเกียรติศักดิ์ หรือ “เจมส์” พบว่ามีสารเสพติดในกระแสเลือด ทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งจะนำปัสสาวะส่งตรวจที่ รพ.มหาราช เพื่อยืนยันผลตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง



ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า ,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบา ,ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายเกียรติศักดิ์ จันทร์เพชร ดำเนินคดีในข้อหา ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบา ,ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีรตามกฎหมายต่อไป



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในขณะที่ถูกควบคุมตัวนายสมเกียรติ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายเกียรติศักดิ์ ยอมรับสารภาพและนำยาเสพติดของกลางมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นายเกียรติศักดิ์ ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด นายสมเกียรติ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” จึงแจ้งกับตำรวจว่า จะติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากเครือข่ายรายอื่น ๆ ให้ตำรวจอีกก็ได้ ซึ่งมีอีกหลายราย



ซึ่งทางตำรวจจะได้ สอบสวนสืบสวนขยายผลพลต่อไป และอาจจะมีการใช้ พ.ร.บ.ฟอกเงินตรวจสอบและยึดทรัพย์สินของนายสมเกียรติ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ ซึ่งล่าสุดเพิ่งซื้อรถเก๋งมือ 2 ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน  นครศรีธรรมราช มาจอดหน้ากุฏิได้เพียง 2 วัน หากพบว่ารถเก๋งและทรัพย์สินใด ๆ ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดก็จะตรวจยึดเช่นกัน หลังการจับกุมประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาทำบุญและกราบไหว้ขอพรท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาส ต่างพากันสาปแช่งนายสมเกียรติ หรืออดีตพระสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ที่ทำให้วัด และศาสนา รวมทั้งท่านเจ้าคุณ พลอยเสื่อมเสีย มัวหมองไปด้วย ทั้งที่ท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาสเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธทั่วไปเป็นที่ประจักษ์.

คุณอาจสนใจ

Related News