'ชูวิทย์' แฉสูตร 'ซูเปอร์ดีล' พาทักษิณกลับบ้าน ใช้สูตรเหลือง+แดง พิฆาตส้ม ฟันธงจบไม่เกิน 15 ส.ค.

ชูวิทย์ แฉซูเปอร์ดีล ทำไมทักษิณ ถึงกลับบ้าน ปล้นคะแนนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง ปูดใช้สูตร เหลือง+แดง ล้มส้ม โหวตนายกฯครั้ง 3 ไม่ผ่าน ก่อนเพื่อไทยยกสิทธิแกนนำให้พรรคอันดับ 3 จัดตั้งรัฐบาล แล้วภูมิใจไทย เป็นแกนนำแกะข้าวต้มมัด ไม่ชวนก้าวไกลร่วมรัฐบาล

ก่อนเสนอนายกฯ คนตัวสูง เพื่อไทย เข้าโหวตผ่านครั้งที่ 4 พร้อมเปิดภาพข้งเบ้ง ผู้อยู่เบื้องหลังนายกฯคนต่อไป ฟันธงไม่เกิน 15 สิงหา นี้ ได้ทั้งนายกฯ และ ครม.

วานนี้ 27 มิ.ย.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าว ทำไมทักษิณถึงกลับบ้าน โดยนายชูวิทย์ ระบุถึงสาเหตุที่เชิญสื่อมา เพราะเห็นว่ามีการปล้นคะแนนประชาชน ที่มาจากการเลือกตั้ง มีผลออกมาแน่ชัดนั่นคือทรัพย์สมบัติที่ประชาชนมอบให้ แต่เมื่อปรากฏว่าได้ทรัพย์สินไป กลับมาทำร้ายประชาชน นั่นคือสิ่งที่รับไม่ได้นั่น และนั่นคือเหตุผลที่มาพูดในวันนี้

นายชูวิทย์ อธิบายว่าผลการเลือกตั้งแสดงชัดเจนว่าฝั่งประชาธิปไตยได้ 312 เสียง ส่วนอีกฟากฝั่งได้ 188 เสียง

ในเวลาต่อมา 312 เสียง มีการจับมือทำ MOU ซึ่งเบื้องลึกจริงๆ ในการเซ็น MOU ตนไม่เอ่ยชื่อ แต่คนที่ไปจับมือบนเวที หลังจากลงมาแล้วก็ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง ดังนั้น MOU 8 พรรค ล่มตั้งแต่วันแรก หรือมีความตั้งใจที่จะให้ล้มตั้งแต่วันแรกแล้ว

ในรอยร้าวนี้ ปรากฏได้จากประธานสภา จะเห็นรอยร้าว ต่อมามีการโหวตนายก รอบแรก ก็คือไม่ผ่าน สว. // พอโหวตรอบ 2 ก็โหวตไม่ได้ // และจะโหวตรอบสาม ก็เลื่อน และไปจบวันที่ 3 สิงหาคม

การที่ก้าวไกลยกให้เพื่อไทยเป็นแกนนำ เพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ใช้วิธีการอัญเชิญ 188 เสียงอีกฟากฝั่ง มาคุยกับเพื่อไทย โดยบอกว่าเป็นการหาแนวทาง ทั้งที่ จริงๆ ในการเมือง ร้อยทั้งร้อยก็รู้อยู่ว่า เป็นการโชว์ให้ผู้สื่อข่าวเห็นว่ามีการจีบกัน มีการชักชวนกัน เมื่อกระแสไม่ดี ทุกอย่างก็กลับไปเงียบสงบ และเมื่อกลับไปเงียบสงบแล้ว ท้ายสุดมีการตกลงกัน ซึ่งตนเรียกว่า 'Super Deal'

จากนั้น นายชูวิทย์ก็เปิดภาพ ของ นายทักษิณ ชินวัตร / นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร / นายพายัพ ชินวัตร และ นายประภัตร โพธสุคน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และอีกภาพที่นายประภัตร กับ นายทักษิณยกมือไหว้ทักทายกัน

นายชูวิทย์ ระบุว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันอังคาร เวลาบ่าย 3 โมง ที่โรงแรมเพนนินซูล่าฝั่งเกาลูน ของฮ่องกง โดยระบุว่า super deal ที่ว่า มีแกนนำเพื่อไทยไป // แกนนำพรรคอื่นๆไป // มีศาสดาไป (หมายถึงธนาธร) // มีนายทุนไป และมีทหารไปก่อน

ดังนั้น ถามว่า ทำไมต้องไปคุยกับทักษิณ นายชูวิทย์อธิบายว่า ก็เพราะว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ตรงกลางระหว่างสองข้างนี้ (ระหว่าง 312 เสียง กับ 188 เสียง) เพื่อไทยหรือที่เดิมเรียกว่า 'แดง' ไปผสมกับเหลืองได้ แล้วทำไปเพื่ออะไร ก็เพื่อไปล้มส้มใช่ไหม // ส่วนส้มผสมเหลืองมันไม่ได้

ดังนั้น ถ้าตนพูดไป อย่ามาตำหนิผม เพราะสิ่งที่พูดเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง เนื่องจากสิ่งที่คุณทำต่างหาก เป็นคุณปล้นทรัพย์สินประชาชนมา จึงเรียกว่า 1 เสียง แลก 26 ล้านเสียง มันคุ้มค่าไหม

เพราะฉะนั้น super deal คือ การให้ทักษิณกลับบ้าน เมื่อกลับมาแล้ว ถ้าไม่ปล่อยออกมา ก็จะไม่มีดีลนี้ ซึ่งหลายคนมองว่า คุณทักษิณ เป็นตัวประกัน แต่ตนดูว่า เป็นคนคุมเกม โดยมองว่าการกลับมา กลับได้เป็นร้อยเป็นพัน จะกลับเวลาไหนไม่กลับ มากลับเวลา climax

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดีลนี้นายทักษิณจะต้องกลับก่อนถึงจะเกิด เพราะทักษิณคือผู้นำจิตวิญญาณ และเห็นหลักฐานแล้วว่า ทุกคนจะต้องไปหาทักษิณถึงฮ่องกง ทำไมล่ะ

แต่การจะแยกข้าวต้มมัดอย่างไร คุณชูวิทย์ จึงมีการนำตัวเลขที่นั่งของ เพื่อไทย ไปบวกภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และยกรวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน หากรวมไปรวมมา จะกลายเป็น 279 ต่อ 221 ซึ่งตนมองว่า 279 คือ สูตรที่จะทำการสำเร็จ แต่จะเป็นสูตรที่ตนเรียกว่า 'ปล้นคะแนนประชาชน' เพราะฉะนั้น แต่ถ้าถามตนว่า จะเลิกกันยังไง ก็ให้ย้อนไปดูครั้งแรก ก้าวไกลจัดตั้งไม่สำเร็จ // มองให้พรรคอันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย จัดก็ไม่สำเร็จ

จากนั้น จึงต้องให้พรรคอันดับสาม ก็คือพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งได้สำเร็จ เมื่อถามว่าทำไมสำเร็จ เพราะว่าสูตรที่ตนบอก เมื่อเป็นการนำภูมิใจไทย ก็จะเป็นเจ้าบ้าน เป็นคนเชิญพรรคต่างๆ มาร่วม แต่ไม่เชิญก้าวไกล และการเจรจาครั้งนี้ ก็ได้ให้บุคคลคนหนึ่งเป็นว่าที่นายก ในการโหวตครั้งที่สาม หรือครั้งที่สี่ก็ได้

สูตรนี้เป็นสูตรล่าสุด ให้ภูมิใจไทยเป็นแกนนำแกะข้าวต้มมัด เพราะจะให้เพื่อไทยเป็นคนพูดเองก็ไม่ได้ ดังนั้น ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านชัดเจน สวนกับกระแสประชาชน ก้าวไกลตกอันดับทั้งประธานสภานายกรัฐมนตรี // รัฐบาล // แม้กระทั่งผู้นำฝ่ายค้าน


การใช้วิธีนี้ คือการยืมมือพรรคภูมิใจไทยการยืมปากภูมิใจไทย แต่มันไม่ตรงกับเจตนารมย์ของประชาชนที่เลือกตั้ง

นายชูวิทย์ ยังขยายความต่อว่า ตนเป็นคนคุก ทราบดีว่า หากอายุเกิน 70 ปี เค้าเรียกว่าคนแก่ เมื่อคนแก่เข้าไป โดยหลักการ แม้กระทั่งชั่วโมงเดียว 2 ชั่วโมง หรือหนึ่งวัน จะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ โดยการยื่น ไม่สามารถยื่นก่อนได้ และคนที่จะยื่นต้องสละยศ

ซึ่งในกรณีของนายทักษิณ ได้มีการถอดยศแล้ว และอายุ 74 ปีบริบูรณ์ ถ้าในภาษาคนคุกก็จะเรียกว่า ออกลูกคนแก่ และในบางกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ต้องขังที่มีอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป ถ้าอายุมาก กึมีเงื่อนไขใส่กำไล EM นั่งอยู่ที่บ้านก็ยังได้อีก

จากนั้น นายชูวิทย์ ก็เอาแสตนดี้เงาชายตัวสูงคนหนึ่งมา พร้อมมีข้อความว่า “นายกคนใหม่ประเทศไทย ความซื่อสัตย์ เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ?

ก่อนบอกว่า ผมขอเปิดอภิปรายนอกสภาตามสไตล์ตนเอง พร้อมเปิดภาพชายคนหนึ่ง โดยบอกว่ามีนามฉายาว่า 'ขงเบ้ง' ผู้เป็นเบื้องหลังว่าที่นายกฯคนต่อไป ในวงการหุ้น ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์จะรู้จักดี จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาดู // พร้อมฟันธงว่า ทุกสิ่งจะเกิดขึ้น ไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคม จะมีนายก บวก ครม.ใหม่ แน่นอน
---------------