ก้าวไกล แถลงขอโทษประชาชน ยอมถอยให้เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงการเลือกตั้งเมื่อ 14 ก.ค. เป็นการประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ด้วยการลงคะแนนเสียง เลือกพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย จนชนะเป็นพรรคอันดับ 1 และ 2 เป้าหมายสูงสุดในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จ เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม แต่ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ทุกอย่างชี้ชัดว่า ทุกองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ไม่ยอมให้พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเอาเรื่องมาตรา 112 มาบังหน้า และเอาความจงรักภักดีมาปะทะกับกรเลือกตั้งของประชาชน นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวผ่าน กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังตัดสิทธิของแกนนำพรรคและยุบพรรคก้าวไกลให้ได้

ด้วยเหตุนี้ ส.ว.จึงฝืนมติมหาชน ไม่โหวตเลือกนายกฯ ตามมติเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร และยังกล้าทำลายหลักการตีความข้อความข้อบังคับของรัฐสภาให้ขัดรัฐธรรมนูญ เปรียบเสมือนการล้มล้างการปกครองและฉีกรัฐธรรมนูญผ่านกฎหมู่ เพียงเพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรีตน์ เป็นนายกฯ คร้้งที่ 2 แต่ภายใต้การทำงานที่สอดประสานกันทั้งองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เราจำเป็นต้องขอโทษประชาชน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าพวกเขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล


อย่างไรก็ตาม การที่นายพิธา ไม่สามารถเป็นนายกฯได้ ไม่ได้หมายความว่าภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อพลิกขั้วรัฐบาลจะไม่สำเร็จ เป้าหมายสูงสุดในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ สิ่งสำคัญในวันนี้ จึงไม่ใช่เรื่องคุณพิธา ได้เป็นนายกฯหรือไม่ แต่คือเรื่องที่ประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ หยุดอำนาจการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกล จะเปิดโอกาสประเทศให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรคร่วม การประชุมสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดต จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯคนที่ 30