เลือกตั้งและการเมือง

มติ 8 พรรคร่วมเข็น 'พิธา' ชิงนายกฯต่อ ชี้ยังไม่มีชื่อสำรอง หากวืดเก้าอี้ ยันรักกันดีกับ 'เพื่อไทย'

โดย petchpawee_k

18 ก.ค. 2566

212 views

มติ 8 พรรคร่วม เข็น 'พิธา' ชิงนายกฯ ต่อ เจ้าตัว ชี้ ยังไม่มีชื่อสำรองหากวืดเก้าอี้ มั่นใจ ส.ว.ที่ไม่ได้มาโหวตรอบแรกจะสนับสนุนเสียงเพิ่ม ย้ำยังไม่ใช่มติพรรคร่วมฯ ชวน 'ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา' ร่วม รบ. ฝากสื่อมวลชนถาม 'บิ๊กป้อม' รวมเสียงแข่งหรือไม่ ยันไม่เปลี่ยนใจลดเพดาน ม.112


เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) เวลา 18.30 น. ที่อาคารไทยซัมมิท ภายหลังการประชุมหารือหัวหน้าพรรคการเมือง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมอีก 7 พรรค ได้ลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังการประชุมร่วมนานเกือบ 2 ชั่งโมง


โดยนายพิธา กล่าวว่า ผลการหารือเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) มีข้อสรุปอยู่ 3 ข้อ คือเรื่องของวันที่ 19 ก.ค 66 ทั้ง 8 พรรคมีมติส่ง ตน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกคนที่ 30 และมีการหารือกันเรื่องการยื่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ของพรรคก้าวไกลที่พรรคก้าวไกลเสนอโดยพรรคเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ 7พรรคร่วม


และเรื่องสุดท้าย คือเรื่องข้อบังคับที่ 41 ของรัฐสภา ที่มีข่าวออกมาว่าวุฒิสภาเตรียมยื่นในวันโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความเห็นทางกฎหมายว่าเป็นเรืาองเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ไม่ถือเป็นญัตติ และไม่ได้เกี่ยวกับเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะมองเห็นต่างในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ยังมีการหารือ เรื่องการเตรียมรายละเอียดการเข้าสู่วันที่ 19 ก.ค.ด้วย


เมื่อถามว่าตั้งหลักอย่างไรหากวันที่ 19 ก.ค.มีเสียงโหวตไม่เพียงพอ นายพิธากล่าวว่าเป็นไปตามที่เคยได้แถลงผ่านคลิปวีดีโอไป และตามแผนผังโรดแมพ สำหรับสมรภูมิแรก หากคะแนนไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เราก็พร้อมจะถอยให้กับประเทศชาติ ถอยให้กับพรรคอันดับ 2 ก็คือพรรคเพื่อไทย ตาม MOU ขณะเดียวกันยังมีเรื่อง ม.272 ที่ได้ยื่นเข้าไปแล้ว ซึ่งยังอยู่ภายใน15วัน จึงต้องย้ำอีกทีส่าเป็นการดำเนินการของพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว


ส่วนหากวันที่ 19 ก.ค.หากมีการตีความในรัฐสภาว่าเข้าข้อบังคับที่ 41 ไม่สามารถเสนอนายพิธา ซ้ำได้ 8 พรรคร่วมจะดำเนินการอย่างไรในวันนั้น นายพิธา กล่าวว่า วันนี้เราก็มีข้อสรุปการตีความกฎหมายทางฝั่งของเรา ซึ่งวันนี้ (18 ก.ค.) จะมีประชุมวิป 3 ฝ่ายอีกครั้ง หากมีโอกาสประชุมวิปก็น่าจะเห็นตรงกัน ญัตติก็คือญัตติ ซึ่งเป็นเรื่องของข้อบังคับ ส่วนการเสนอนายกรัฐมนตรี เป็นคนละหมวดกัน ขอให้รอฟังผลการประชุมวิป3ฝ่าย ว่าเหตุและผลฝั่งตรงกันข้ามเป็นอย่างไรตนได้เห็นแต่พาดหัวข่าวยังไม่ได้ลงรายละเอียด ว่าเหตุใดถึงเห็นเป็นเรื่องของญัตติได้


เมื่อถามว่า ยังยืนยันจับมือเดินหน้าต่อของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายพิธา พยักหน้าแล้วตอบว่า ถึงได้มีมติร่วมในวันนี้


ส่วนบรรยากาศในการประชุมเป็นไปได้ด้วยดี มีความพยายามที่จะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ และมีมติส่งตนอีก 1 ครั้ง ซึ่งตนจะใช้เวลาที่เหลืออย่างเต็มที่


เมื่อถามว่า มีการชวนพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมโหวตนายพิธาด้วยนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายพิธา ตอบว่า ยังไม่ใช่มติของ 8 พรรค


เมื่อถามว่าได้มีการหารือเตรียมชื่อสำรองไว้หรือไม่ นายพิธา ตอบทันทีว่า ยังไม่มี ส่วนการรวมเสียง ส.ว.ในรอบนี้ จะมั่นใจมากขึ้นหรือไม่ว่าจะมีการโหวตให้ นายพิธา กล่าวว่า หลังวันที่ 13 ก.ค. ได้มีการรวมเสียง ส.ว.มากขึ้นเรื่อยๆ มีหลายคนที่ไม่มาลงคะแนนในวันนั้น ก็ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน ว่าอาจจะติดภารกิจต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ว่าจะมาลงคะแนนในรอบที่ 2 ให้


ส่วนกระแสข่าวที่นายพิธาต่อสายไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจริงหรือไม่แล้วมีการตอบรับอย่างไรนั้น นายพิธา ระบุว่า เป็นเรื่องปกติ และโดยปกติตนจะหารือทางการเมืองกับเพื่อนที่เป็น ส.ส.และ ส.ว. เวลาเดินผ่านในสภาหรือเวลาจะตรวจสอบข้อมูลอะไรก็มีโอกาสได้พูดคุยกัน แต่ไม่ได้มีโอกาสเชิญมาร่วมรัฐบาล ซึ่งตนพูดคุยได้เกือบทุกพรรคยกเว้นพรรคลุง ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ ได้มีโอกาสพูดคุยถึงสถานการณ์เป็นการแลกเปลี่ยนทางการเมือง ยืนยันว่าเป็นการคุยเรื่องทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่สนับสนุนตนเป็นนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ขอเสียงใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ‘ไม่’ โทรไปแลกเปลี่ยนประเด็นทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าพรรค คุยกับหัวหน้าพรรค ไม่ใช่มาเริ่มทำกันอาทิตย์นี้


เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับกระแสข่าวดังกล่าว นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นรายละเอียด ยืนยันว่าน่าจะไม่ได้เป็นความจริง และย้ำอีกว่าไม่ได้ทาบทามเป็นการหารือทางการเมืองพูดคุยหารือซึ่งกันและกัน


ส่วนที่กล่าวว่า การโหวตครั้งที่ 2 ตัวเลขไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จะวางมือให้พรรคอันดับ 2 สามารถบอกได้หรือไม่ว่าตัวเลขนั้นจะเป็นเท่าไร นายพิธากล่าวว่า หากมองให้เหมาะสม คิดว่าต้องเพิ่มขึ้น 10% จากจำนวน 324 เสียง เป็นประมาณ 344 เสียง จะเป็นในลักษณะแบบนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะกั๊กไว้ ตั้งใจจะเป็นเลขนัยยะสำคัญแต่ไม่ได้คิดในใจ แต่คงจะมีตัวเลขที่ไม่ฝืนสายตาของประชาชน


เมื่อถามว่า ประเมินว่ารอบ 2 จะมีการเสนอขื่อแข่งด้วยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ฟังสัมภาษณ์จากพรรคการเมือง 10 พรรค มีการพูดเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทุกคนพูดว่า เรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นไปไม่ได้ อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคร่วมไทยสร้างชาติ และนายอนุชา นาคาศรัย แกนนำพรรคร่วมไทยมร้างชาติ ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้


เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แข่งนายกฯ สามารถรวมเสียงได้หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ต้องฝากนักข่าวไปถามพล.อ.ประวิตร ส่วนกระแสการซื้องูเห่าไปอยู่ขั้วตรงข้ามแล้วพลิกขั้วรัฐบาล นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้ติดตามและคอยเช็คตลอด มั่นใจว่าทุกคนได้รับบทเรียนของการเป็นงูเห่าและได้คะแนนกลับมาเป็นหลักพันกว่าคะแนนเท่านั้น มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลไม่มีอะไรและเพื่อไทยก็คงคิดแบบนั้น


ส่วนเรื่องการถอยเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วจะมีพรรคอื่นที่มีจุดยืนไม่เอา ม.112 มาร่วมโหวตให้ นายพิธา กล่าวว่า ต้องคิดว่าในมุมของตน ในสิ่งที่เราคิด ม.112 เป็นข้ออ้างที่อยู่ข้างหน้า แต่ข้างหลังก็คงมีหลายเรื่อง ที่นำมาเป็นเหตุผลตามที่สื่อมวลชนหลายสำนักวิเคราะห์กัน


มีหลายเรื่องที่อ่านไปส่งผลกระทบกับสัมปทาน เกี่ยวกับผลประโยชน์ การปฏิรูปกองทัพ ที่พรรคก้าวไกลต้องการให้ทหารออกจากการเมืองให้ได้ ดังนั้น ตนคิดว่าเรื่อง ม.112 เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเหมือนกันแต่ไม่ใช่ทุกอย่าง พอเรื่องนี้หายไปเรื่องอื่นก็จะมาอีก และที่สำคัญที่สุดคือต้องการรักษาคำพูด ก่อนหาเสียงพูดไปอย่างไรหลังหาเสียงก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าสู่อำนาจด้วยทุกวิถีทาง


ส่วนเรื่องศาลรัฐธรรมจะพิจารณาในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับวันโหวตนายกรัฐมนตรี นายพิธา กล่าวว่า ก็เห็นว่ามีการประชุมในวาระที่ 4 แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ทำให้ความเป็นแคนดิเดตนายกฯหายไป เมื่อเทียบกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จึงถือเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลใจแต่อย่างใด

ในช่วงท้ายของการแถลง สื่อมวลชนได้ถามนายพิธาว่าหากเสนอชื่อไม่สำเร็จกี่ครั้งจะยอมถอยให้กับพรรคเพื่อไทย นายพิธา กล่าวว่า ขอให้ยึดตามที่แถลง ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 ครั้งใช่หรือไม่ นายพิธา พยักหน้าแล้ว ชูนิ้ว 2 นิ้ว

---------------------------------------------------------------------


'ภูมิธรรม' ยัน ยังไม่ได้คิดแผนสอง แต่หาก ‘พิธา’ ไปต่อไม่ได้ 8 พรรคร่วมยังมีเวลาคุยกัน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงข่าวของ 8 พรรคร่วมเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ว่า การตีความเรื่องญัตติเป็นไปตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญ โดยวันที่ 18 ก.ค. จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายซึ่งคงได้คุยกันว่าทางส.ว.จะว่าอย่างไร ทางพรรคก้าวไกลก็ไม่มีปัญหาอะไรให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ต้องดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ แต่ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลที่จะเสนอ พรรคอื่นก็เป็นอิสระตามนโยบายของเขา


เมื่อถามว่า 8 พรรค มีความเป็นห่วงเรื่องเสียงส.ว.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราให้โอกาสเขาในการทำงานต่อก่อนถึงวันโหวตขอให้ทำให้เต็มที่ ถ้าไปไหวก็ไปต่อ ถ้าไม่ไหวก็มาเปลี่ยนแปลงว่าที่เหมาะสมควรจะเป็นอย่างไร


เมื่อถามอีกว่าในที่ประชุมได้ขอให้เพื่อไทยหาเสียงส.ว.ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรคก็ช่วยกันหาเสียงทำความเข้าใจว่าเรื่องราวและสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ เป็นอย่างไร

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ หรือไม่ว่าที่ประชุมรัฐสภาจะมีเสียงเพิ่มอีกตามที่นาพิธาได้แถลงไปคืออย่างน้อย 10% นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องใช้ความพยายามของทุกฝ่ายในการทำความเข้าใจ ไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามอีกว่ามีการเตรียมแผนสำรองในการโหวตวันที่ 19 ก.ค.หรือไม่หากญัตติของนายพิธา ถูกตีตก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มี แต่หากไปต่อไม่ได้ก็ต้องมาเริ่มคิดกันใหม่ ยังมีเวลาอยู่ คิดว่าหากดำเนินการแล้วเป็นไปไม่ได้ก็ต้องดูเวลา และดูว่าจะมีการถกเถียงกันมากน้อยแค่ไหน ทั้งหมดคงจะจบในวาระวันนั้นในเรื่องเดียว และถ้ามีโอกาสก็คงได้ดำเนินการต่อหลังจากนั้น

---------------------------------------------------------

'พิธา' ยันรักกันดีกับ “เพื่อไทย” ขอไม่เปรียบเปรยรักนี้ต้องเจอเมียน้อย ลั่น พรรคเราไม่พูดเรื่องเพศ ปัดให้ความเห็น ‘ส.ว.เสรี’ ไม่เอา 'ก้าวไกล' บอก 8 พรรคร่วมฯ มีวิธีคุย ส.ว.อยู่แล้ว


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการแถลง มีกระแสโซเชียลมีเดียเปรียบ สามีเพื่อไทยและเจ้าสาวก้าวไกล ถามว่ารักกันดีไหม นายพิธาบอกว่ารักกันดี ส่วนประเด็นที่มีการโยงเรื่องมือเปรียบเปรยกันว่าความรักครั้งนี้ เหมือนจะต้องเจอเมียน้อยหรือ “อีหนู” นายพิธาบอกว่า พรรคเราไม่มีพูดเรื่องเพศ หรือเปรียบแบบนี้อยู่แล้ว


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/NxtnRTxNJ8I

คุณอาจสนใจ

Related News