สังคม

ครูเมืองตรัง ทำโทษเด็กอนุบาล 2 เขียนตัว T ไม่สวย จับถอดกระโปรงหน้าชั้นเรียน ด้านเจ้าตัวยังปฏิเสธ

โดย nattachat_c

17 ก.ค. 2566

125 views

วานนี้ (16 ก.ค. 66) เวลา 14.00 นผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กชมนต์ ณ พัทลุง หรือแม่โดม อายุ 26 ปี พร้อมด้วย นายปริวุฒิ ณ พัทลุง อายุ 40 ปี ผู้เป็นพ่อ ทั้งคู่เป็นชาว ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นำลูกสาวคือ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล 2/2 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง ใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เข้าพบผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เพื่อเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเป็นธรรม


หลังจากที่ ลูกสาวกลับมาบอกกับผู้ปกครองว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา คุณครูผู้หญิงชื่อย่อ บ. ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ได้ทำโทษลูกสาวโดยการถอดกระโปรงกลางห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนๆ ทั้งหญิงและชาย ในชั้นเรียนกว่า 28 คน


โดยอ้างว่า ลูกสาวเขียนอักษรภาษาอังกฤษตัว ที (T) ไม่สวย และได้นำกระโปรงมาวางตั้งไว้บนพื้นหน้าชั้นเรียน พร้อมกับให้ลูกสาวกลับไปนั่งเขียนตัวที (T) ที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในตัวเดียว


น.ส.กชมนต์  กล่าวว่า เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากลูกสาวกลับจากโรงเรียน ได้มาเล่าตนฟังว่า วันนี้ถูกคุณครูถอดกระโปรงออกไปตั้งที่พื้นหน้าชั้นเรียน ตนจึงถามว่าลูกทำอะไรผิด ลูกบอกว่าเพราะหนูเขียนตัวทีไม่สวย จึงโดนลงโทษด้วยการถอดกระโปรง ทำให้ขณะนั้นลูกร้องไห้ทั้งวัน หลังจากนั้นได้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในเท่านั้น โดยที่ลูกพยายามใช้ผ้ากั้นเปื้อนปิด ก่อนจะเขียนตัวทีจนเสร็จ และคุณครูก็อนุญาตให้มาหยิบกระโปรงไปใส่กลับ


หลังจากทราบเรื่องในวันเดียวกัน ตนได้ทักไลน์ไปถามคุณครู แต่คุณครูกลับปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ และภายในห้องไม่ได้มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น แถมยังชมว่า น้องเป็นเด็กน่ารักและปกติ ซึ่งได้รับข้อมูลมา ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ลูกเล่า


ถัดมาหลังจากนั้น ในวันที่ 14 ก.ค. 66 หลังเลิกเรียน ลูกกลับมาบอกว่า คุณครูคนเดิมได้พูดภาษาใต้กับลูกว่า “กลับไปฟ้องแม่อีกไหม ถ้ากลับไปบอกแม่อีก ก็ไม่ต้องนอนกลางวันแล้ว” ตนจึงเกิดความไม่สบายใจ เพราะลูกร้องไห้ และพูดตลอดว่า ไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว เพราะว่ากลัวคุณครู และอับอายเพื่อนๆ


ตนจึงได้โทรสอบถามผู้ปกครอง และเพื่อนๆ ของน้องคนอื่นๆ ที่เรียนอยู่ในห้องเดียวกัน แต่เด็กทุกคนที่สอบถามกลับเล่าตรง และเหมือนกับที่ลูกสาวเล่าว่า เหตุการณ์เป็นแบบนั้นจริงๆ พร้อมทั้งบอกว่า คุณครูคนดังกล่าวชอบดูกางเกงในของเด็กในห้อง


ถัดมาอีกวัน ตนได้โทรหาผอ.โรงเรียนฯ เพื่อบอกเล่าในเรื่องนี้ หลังจากนั้น คุณครูคนดังกล่าวก็ได้โทรกลับมาหาตน โดยในตอนแรกก็ปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ พยายามบอกว่าลูกตนเรียบเรียงเหตุการณ์ผิด


แต่ตนก็พยายามซักถาม และพยายามบอกว่าให้พูดความจริง หากบอกความจริง ตนจะไม่เอาเรื่อง คุณครูพูดยอมรับสารภาพว่า ถอดกระโปรงจริง แต่ถอดลงมาแค่เพียงหัวเข่า และให้ยืนอยู่อย่างนั้น แต่ก็ยังเป็นการยอมรับแบบไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะยังไม่ได้เป็นเหตุการณ์บอกเล่าที่ตรงกับที่ลูกสาวบอก


ซึ่งตนรู้ดีว่าลูกตนจะไม่พูดโกหก ก็เลยอยากให้คุณครูออกมาพูดความจริงว่า เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร ให้ออกมาพูดกันด้วยความเป็นจริง เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือว่าเป็นการลงโทษที่ผิดวิธี และผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครู แต่หากจะทำโทษในลักษณะอื่น ตนก็ไม่ได้ขัดอะไร


ตอนนี้ ลูกรู้สึกกลัวอับอาย เพราะเป็นผู้หญิง เด็กผู้ชายคนอื่นๆ เห็นหมด ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน และกลัวคุณครูคนดังกล่าวไปเลย แม้เมื่อลูกได้ยินว่าตนจะโทรหาครู ลูกก็กลัวไม่ให้ตนโทร และนำมือถือของแม่ไปแอบ แถมมีอาการร่าเริงน้อยลง


โดย วันนี้ (17 ก.ค. 66) ตนคงยังไม่ให้ลูกไปโรงเรียน เพราะลูกยังมีอาการตกใจและกลัวอยู่ ซึ่งตนก็จะเข้าไปสอบถาม และหาข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียนในวันนี้ (17 ก.ค.) เช่นเดียวกัน


ทั้งนี้ ตนก็ได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีไว้กับ สภ.ย่านตาขาว ไว้แล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 66 และอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับคดีในเร็ววัน เพื่อให้เรื่องที่ร้องทุกข์เข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย  และตนอยากให้ดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด และให้คุณครูออกมาชี้แจงรับผิด และพูดความจริงในสิ่งที่ทำลงไป และอยากจะฝากไปถึงโรงเรียนเทศบาลฯ ให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัย และจรรยาบรรณวิชาชีพ ของครูรายดังกล่าว

--------------

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับข้อความเสียงสนทนา ซึ่งเป็นพยานหลักฐาน จากผู้ปกครองที่พูดคุยกับคุณครูรายดังกล่าว


ซึ่งในช่วงแรก คุณครูปฎิเสธว่าไม่ได้กระทำ แต่เมื่อผู้ปกครองพยายามพูดให้คุณครูบอกความจริง และจะไม่เอาเรื่อง คุณครูกลับรับสารภาพว่า ถอดมาเพียงแค่หัวเข่า และต่อหน้าเพื่อนๆ ในชั้นเรียน เป็นการลงโทษที่เด็กเขียนตัวทีไม่สวย และน้องร้องไห้ แต่ไม่ได้พูดขู่ว่า ถ้าบอกแม่จะไม่ให้นอนกลางวัน


และจะบอกกับทาง ผอ.โรงเรียนฯ แบบที่บอกกับทางคุณแม่เช่นกัน แต่ก็ยังรับสารภาพไม่สอดคล้องกันทั้งหมด กับที่เด็กบอกเล่ากับผู้ปกครอง ทั้งนี้ ท้ายข้อความคุณครูรายดังกล่าวยังขอโทษกับผู้ปกครองและครอบครัว และยังยอมรับว่า เด็กไม่ได้ดื้อด้วยเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามกับทาง ผอ.โรงเรียนฯ ดังกล่าว ระบุว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว แต่คงไม่เป็นเช่นนั้น และได้สอบถามพูดคุณกับคุณครูรายดังกล่าวแล้ว แต่คุณครูยืนยันกับตนว่า ไม่ได้ทำพฤติกรรมเช่นนั้น และในวันนี้ (17 ก.ค. 66) ผู้ปกครองได้นัดตนเพื่อพูดคุยกัน พร้อมกับคุณครูรายดังกล่าว

----------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wez6R9u_NCc

คุณอาจสนใจ

Related News