เลือกตั้งและการเมือง

“เพื่อไทย” ยังไม่ประมาท กระแสเสนอชื่อ “บิ๊กป้อม”

โดย attayuth_b

14 ก.ค. 2566

133 views

“ประเสริฐ” ชี้ไม่ง่ายแก้ ม. 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. เผยหาหรือก้าวไกลเย็นวันนี้ มั่นใจ 13 เสียง ส.ว. ยังหนุน”พิธา” รับไม่ประมาทกระแสเสนอชื่อ “บิ๊กป้อม”ชิงนายกนายก ชี้ความเห็น “ปิยบุตร” เสนอก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ต้องรับฟัง


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลจะยื่น แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ส.ว.อีกครั้งว่า การแก้ไขและธรรมนูญมาตราดังกล่าวการประชุมที่ผ่านมาเพื่อไทยได้ยื่นการแก้ไขในมาตรานี้มาสองครั้งแล้วและไม่ผ่านการพิจารณาของสภา เพราะฉะนั้นการที่พรรคก้าวไกลได้เปิดประเด็นนี้ขึ้นมาต้นเข้าใจว่าเป็นการทลายกำแพงโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่มีการโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้เพราะส.ว. ไม่ตั้งกำแพงเริ่มมาตรา 112 เอาไว้เพราะฉะนั้นทางก้าวไกลอยากจะหยิบยกประเด็นนี้เพื่อที่จะให้การโหวตเลือกนายกเป็นเรื่องเฉพาะของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น

เมื่อถามถึงการหารือกับพรรคก้าวไกลวันนี้ นายประเสริฐ เปิดเผยว่า การหารือร่วมก้าวไกลเพื่อไทยซึ่งมีการนัดหมายในเวลา 17:00 น. วันนี้จะมีการพูดคุยในแนวทางเกี่ยวกับการเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าซึ่งขณะนี้เมื่อสักครู่ได้สอบถามไปยังประธานสภาว่าจะเป็นวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะมีการพูดคุยกันภายในก่อนเพื่อนำข้อเสนอของเพื่อไทยไปหารือกับก้าวไกลอีกครั้ง

เมื่อถามว่าจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา272ในสมัยนี้ได้เลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้าทำได้เป็นเรื่องดีแต่ข้อเท็จจริงการแก้ไขมาตรา 272 ต้องใช้เสียงของรัฐสภาเกินกว่าครึ่งหนึ่งและในกลุ่มหนึ่งนั้นต้องมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา 84 เสียงด้วยเพราะฉะนั้นที่ผ่านมาเพื่อไทยดำเนินการมาแล้วและไม่ง่ายไม่เคยได้เสียงของสมาชิกวุฒิสภา ครั้งนี้ยังก็เชื่อว่าส.ว. จะตั้งกำแพงสูงในเรื่องนี้เพราะการแก้ไขจะไม่ง่ายนักตามที่คิดเอาไว้

ส่วน 13 เสียงที่ส.ว. โหวตให้นายพิธา เมื่อมีการโหวตครั้งที่สอง เชื่อหรือไม่ว่าจะยังคงโหวตให้นาย ประเสริฐเชื่อว่า ส.ว ทั้ง 13 คน น่าจะยังอยู่ยังจะโหวตให้ในรอบสองคงจะมีเจตนาและคงมีความตั้งใจและเจตนาที่มองการเมืองอีกมุมนึง

เมื่อถามว่าเพื่อไทยต้องออกแรงเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เสียงส.ว.เพิ่มเติมหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าก้าวไกลพยามทำเต็มที่แล้วเพราะฉะนั้นขอคุยกับทางก้าวไกลก่อนว่าวันนี้จะแนวทางจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามต่อว่ามีอะไรจะไปแนะนำให้ด้วยเสียงเพิ่มหรือไม่ นายประเสริฐ มองว่าจริงๆแล้วถ้าการโหวตเป็นไปอย่างวันที่ 13 หากไม่มีข้อมูลใหม่หรือไม่มีอะไรเพิ่มเติมการโหวตในวันที่ 19 นี้คงจะใกล้เคียงกับการโหวตวันที่ 13


เมื่อถามว่าการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 จะมีการปรับภาพลักษณ์ให้การโหวตมากขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะพูดแทนก้าวไกลไม่ได้ และทางพรรคก้าวไกลก็ยังไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ดังนั้นเป็นเรื่องที่ก้าวไกลต้องคิดเองตอบแทนไม่ได้ ซึ่งวันนี้การพูดคุยกับพรรคก้าวไกลจะมีการคุยในหลายประเด็น และคิดว่าพรรคก้าวไกลรู้โจทก์แล้ว โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่อาจจะมีการเสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐเข้ามาแข่ง นายประเสริฐระบุว่า เป็นเรื่องที่แปดพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะต้องนำมาประเมินร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีความเคลื่อนไหวในการรวบรวมเสียงอยู่จึงประมาทไม่ได้ เพราะเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันนกหลังจากที่สองพรรคได้คุยกันก็จะต้องหารือใน 8พรรคอีกครั้ง

เมื่อถามว่าการเสนอรอบสองยังคงเป็นชื่อของนายพิธา คนเดียวหรือไม่ หรือมีการเตรียมมุมอื่นไว้อีก นายประเสริฐกล่าวว่าขอให้ได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ก่อน

เมื่อถามต่อว่าจำเป็นจะต้องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนอื่นหรือไม่เพื่อเป็นทางรอดให้กับแปดพรรคร่วม นายประเสริฐระบุว่าขอให้พูดคุยกับพรรคก้าวไกลก่อนยังเร็วเกินไปที่จะแสดงความเห็น

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าการเสนอชื่อนายพิธา ซ้ำจะไป ขัดกับข้อบังคับการประชุม นายประเสริฐกล่าวว่า หากดูข้อบังคับดีๆจะมีข้อถ่ายระบุว่าเป็นอำนาจของประธานรัฐสภาในการวินิจฉัยหากการเสนอญัตตินั้นมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป ตนเชื่อว่าอำนาจประธานชี้ได้ไม่น่าเป็นอุปสรรค การเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้หรือไม่นั้นถือเป็นดุลยพินิจของประธานรัฐสภา

เมื่อถามถึงกรณีที่ถามว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ในลักษณะที่ว่า พรรคก้าวไกล ควรไปเป็นฝ่ายค้าน มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นและส่งผลต่อพรรคก้าวไกล ดังนั้น คำพูดของนายปิยบุตร ก็ควรที่จะรับฟัง แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในพรรคก้าวไกล ถ้าจะให้แน่นอนต้องฟังความคิดเห็นของ หัวหน้า เลขา และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรหากพรรคก้าวไกลยอมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นายประเสริฐ กล่าวว่า จริงแล้วไม่มีแผน 2 แต่ทุกความเห็นที่เกิดขึ้นตอนนี้ ต้องนำไปหารือกับพรรคก้าวไกล และต้องแจ้งกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย

เมื่อถามว่า สว.ติดใจเรื่องมาตรา 112 ซึ่งไม่มีใน MOU พรรคก้าวไกล จะไปดำเนินการของเขาเองเรื่องนี้กังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า MOU มี 2 ฉบับ แบบ 2 พรรรกับ 8 พรรค แบบ 8 พรรค เท่าที่จำได้คือหากเป็นเรื่องที่นอกเหนือจาก MOU ให้ถือว่า เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลที่จะไปเสนอเอง ไม่เกี่ยวกับ 8 พรรค เป็นเรื่องเฉพาะที่พรรคก้าวไกลจะไปดำเนินการ ไม่เกี่ยวกับพรรคอื่นพรรคอื่น จะขอสงวนสิทธิ์ไม่ร่วมด้วย ก่อนจะย้ำว่ากำแพงที่พรรคก้าวไกลต้องข้ามให้ได้ คือ มาตรา 112 เพราะ สว.และพรรคเสียงข้างน้อยก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน พรรคก้าวไกล ต้องกลับไปทำการบ้าน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ข่าวการเมือง ,เพื่อไทย

คุณอาจสนใจ

Related News