เลือกตั้งและการเมือง

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 ก.ค.66 พิธาชวดเก้าอี้นายกฯ-อภิปรายเดือด ม.112-ปะทะวุ่นวัดบางคลาน

โดย thichaphat_d

14 ก.ค. 2566

81 views

1.เปิดนาทีเดือด วัดบางคลาน ปะทะวุ่น ขวางเจ้าอาวาสใหม่

เปิดนาทีเดือด ชาวบ้านกว่า 100 คน ฮือต้านไม่ให้เจ้าอาวาสใหม่เข้าวัดบางคลาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดมพลกว่า 250 คน เข้าควบคุม ถูกสาดน้ำเน่า ยิงหนังสติ๊ก หัวแตก สกัดเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าวัด

ด้านนายอำเภอโพทะเล รับไม่สามารถเข้าควบคุมภายในวัดได้ ก่อนนำเจ้าอาวาสใหม่กันออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย ก่อนยุติการปฏิบัติการเป็นการชั่วคราว จ่อแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และ ทรัพย์สิน กับผู้ที่ชุมนุม

2.โจรลักรถ โดดหน้าต่างโรงพักหนีทั้งกุญแจมือ - แถมลักรถหนีซ้ำ

จับได้แล้ว โจรลักรถโดดหน้าต่างโรงพักท้ายเหมือง หนีทั้งกุญแจมือ ขณะเตรียมส่งฝากขัง ก่อนวิ่งหนีกว่า 1 กิโล ไปลักรถชาวบ้านซ้ำหนีซุกสวนปาล์ม เจ้าหน้าที่ระดม ตำรวจ พังงา-ภูเก็ต แกะรอยเร่งตามตัววุ่น ขณะที่พลเมืองดีชี้เบาะแส จนรวบตัวได้ ด้านผู้ก่อเหตุสารภาพอ้างคิดถึงลูกและเมีย อาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอ กระโดดหน้าต่าง ขอต่างด้าวสะเดาะกุญแจ หวังซิ่งหนี

3.ตร.ตามยึดของกลาง มัดแก๊งฆ่าหั่นศพ – ล้างมาเฟียพัทยา

ตำรวจเร่งตามยึดของกลางมัดแก๊งทมิฬ ฆ่าหั่นศพฮันส์ ปีเตอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมัน มั่นใจเอาผิดตัวการสำคัญ แฉโอลาฟวางแผนเหนือเมฆ จัดฉากโยนความผิด ทำทุกวิถีทางไม่ให้เรื่องถึงตัว ขณะที่ตำรวจ คุมตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คาดน่าจะไม่ได้รับประกันตัว หลังถูกเพิกถอนวีซ่าแล้ว ขณะที่รองโจ๊กสั่งระดมกำลังกวาดล้างแก๊ง Outlaws มาเฟียข้ามชาติแผ่อิทธิพลเรียกค่าคุ้มครองทำให้ประเทศไทยเสียหาย

4.ปปป.-ป.ป.ท. สอบเหตุสะพานถล่ม จ่อแจ้งข้อหา จนท.

ระดมทุกภาคส่วนสอบเหตุสะพานถล่ม เผย ประสาน กทม. ขอเอกสารรายละเอียดการจัดสร้าง หนังสือสัญญาแล้ว ด้าน ปปป. เน้นสอบเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ควบคุมงานก่อสร้าง การทำงานผู้รับเหมา และมาตรฐานของการก่อสร้าง ขณะที่ ป.ป.ท. ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้าง ดู จนท.รัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก่อนเชิญวิศวกรรมสถาน มาสอบปากคำต่อไป

5.เปิดคลิป ไล่ล่าระทึก คาราวานขนแรงงานเถื่อน

ไล่ล่าแก๊งขนแรงงานต่างด้าว สุดระทึกสุพรรณบุรี หลังคนร้าย ใช้ความเร็วขับหลบหนี ขับสวนเลน สร้างความวุ่นวายตื่นตระหนก ขณะที่ตำรวจทางหลวงร่วมกับ ตม.รวบต่างด้าว 24 ราย นั่งอัดแน่นมาในรถ 2 คัน หลบหนีไปได้ 4 คัน ด้านผู้ก่อเหตุรับสารภาพ ไล่รับแรงงานตั้งแต่สุโขทัยจนมาถึงสุพรรณบุรี มุ่งหน้าส่ง กทม. เผยมีรถร่วมขบวนการ 6 คัน ก่อนถูกนำตัวส่งดำเนินคดี

6.สุดเศร้า พนม นพพร เจ้าของเพลงดัง เสียชีวิตอย่างสงบ

วงการเพลงลูกทุ่งเศร้า ปิดตำนานพนม นพพรเจ้าของเพลงดัง ‘ลาสาวแม่กลอง’ เสียชีวิต ในวัย 77 ปี จากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ขณะที่ครอบครัวตั้งศพบำเพ็ญกุศลวัดบางรักน้อย ขณะที่ลูกชายจุกอกบอกพ่อจากไปไวมาก เผยพ่อสั่งเสียให้จัดงานเรียบง่ายใกล้บ้าน ด้านนายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่ง รับเป็นเจ้าภาพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ


เรื่องเล่าการเมือง

-พิธา ชวดเก้าอี้นายกฯ โหวตรอบแรก ส.ว.เห็นชอบ 13 คน


การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ผลเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่สามารถ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เพราะมีคะแนนเสียงไม่ถึง 357 เสียง

โดยเมื่อวานนี้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติ เห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยมติ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง ซึ่งเสียงข้างมาก ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องมีคะแนน 375 เสียงขึ้นไป ทำให้นายพิธา ยังไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ และจำเป็นต้องนัดประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกใหม่อีกครั้ง

สำหรับคะแนนเสียง 324 เสียง ที่นายพิธา ได้รับ มีเสียง ส.ว.โหวตเห็นชอบ 13 เสียง อาทิ นายไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ / พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา / นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล / พลตำรวจโทณัฏฐ์วัฒก์ รอดบางยาง / นางประภาศรี สุฉันทบุตร / นายพีระศักดิ์ พอจิต / นายมณเฑียร บุญตัน / และนายวันชัย สอนศิริ เป็นต้น โดย ส.ว. ส่วนใหญ่ใช้วิธีงดออกเสียง และมีบางส่วนที่ออกเสียงไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน แต่ก็มี ส.ว. อีก 43 คนที่ไม่อยู่ร่วมโหวตในที่ประชุม

ขณะที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่างก็พร้อมใจโหวตเลือกนายพิธาอย่างไม่แตกแถว จำนวน 311 เสียง งดออกเสียง 1 เสียงคือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่เพราะต้องทำหน้าที่ประธานรัฐสภา

ส่วนฟากพรรครัฐบาลปัจจุบัน อย่างพรรคภูมิใจไทย ,พรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมใจกันโหวตไม่เห็นด้วย ด้านพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพรรคชาติไทยพัฒนา งดออกเสียง

ทั้งนี้มี ส.ส.จากพรรคชาติไทยพัฒนา คือนายนพดล มาตรศรี รอบแรก โหวตเห็นชอบ ให้กับนายพิธา แต่กลับมาขอแก้ไขภายหลังเป็นงดออกเสียง เนื่องจากเข้าใจผิด ทำให้การประท้วงขึ้นเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ ส.ว. มีการมติเสร็จสิ้น หลายคนไม่ได้รอฟังผลอยู่ในที่ประชุม แต่รีบออกจากอาคารรัฐสภาทันที และไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลใดๆ โดยเฉพาะ ส.ว. กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ของตำรวจสภา ออกไป อย่างเร่งรีบ



-พิธาลั่น ยอมรับผลโหวตนายกฯ แต่ไม่ยอมแพ้

นายพิธา ให้สัมภาษณ์หลังผลโหวตออกมาว่า "ยอมรับ...แต่ไม่ยอมแพ้" พร้อมเดินหน้าปรับยุทธศาสตร์สำหรับการโหวตครั้งที่ 2

เวลา 18.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ภายหลังไม่ผ่านการลงมติโหวตเลือกนายกฯ ว่า ผลที่ออกมาเรายอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ สำหรับสาเหตุที่ออกมาเช่นนี้เชื่อว่าเพราะว่ามีการกดดัน ส.ว.เยอะ ทั้งนี้ขอขอบคุณ ส.ว. 13 ท่าน ที่กล้าหาญลงมติให้ตนเอง

หลังจากนี้จะคิดยุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียงในการโหวตครั้งต่อไป ส่วนจะเป็นวันใดก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา และย้ำว่ายังเชื่อใจพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะยอมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาตอนนั้น ตอนนี้ตนยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่

เมื่อถามว่า มีการเตรียมใจเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เตรียมใจ เตรียมแผน เตรียมสมอง เพื่อโหวตในครั้งที่ 2 ทั้งนี้นายพิธา ยังยืนไม่ถอยเรื่องการแก้ไข ม.112 โดยกล่าวว่า เราได้สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น และเมื่อวานถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้อภิปรายเรื่องนี้ในสภา เพื่ออธิบายให้ ส.ส. และ ส.ว. ที่ไม่เข้าใจตรงกันหรือเข้าใจคาดเคลื่อน

ทั้งนี้มีรายงานข่าว ในช่วงเย็นวันนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้นัดหารือกันเป็นการภายใน เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแนวทางสำหรับการโหวตครั้งต่อไป ซึ่งประเด็นสำคัญที่จะต้องหารือกันคือจะยังมีการเสนอชื่อนายพิธาเป็นครั้งที่สองหรือไม่

ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กหัวข้อ "แก้ 272 ปิดสวิทช์ ส.ว. หากพวกเขายังไม่ยอมอีก ก็ถอยมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน" โดยระบุว่า ให้ตาย ส.ว.ที่ไม่เลือกคุณพิธา ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจกลับมาลงคะแนนเห็นชอบให้พิธา เป็นนายกฯ

ครั้นพรรคก้าวไกลจะถอย ร่วมเสนอให้แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯแทน และยังร่วมรัฐบาลอยู่ ก็ไม่แน่ใจว่า บรรดา ส.ว. จะยอมหรือไม่ เพราะ พวกเขาน่าจะไม่ปรารถนาเห็นพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลเลยด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกัน ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ฯลฯ ก็คงไม่ยอม เพราะ พวกเขาอยาก "เสียบ" เข้าร่วมรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลมากกว่า

นายปิยบุตร ระบุว่า ทราบจาก พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.พรรคก้าวไกล ว่า มีความคิดเตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 "ปิดสวิทช์ ส.ว." ซึ่งนายปิยบุตร บอกว่าสนับสนุน และสุดท้ายหากทำไม่สำเร็จก็ให้ถอยออกมาเป็นฝ่ายค้าน / ทั้งนี้ ช่วงเที่ยงวันนี้ นายปิยบุตร จะออกมาแถลงเกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ด้วย


- เปิดเวทีโหวตนายกฯ ส.ว.- ส.ส.ขั้วรัฐบาลเดิม รุมถล่มพิธา ปมแก้ ม.112

ย้อนไปดูการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวาน หลายคนบอกบรรยากาศเหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งประเด็นอภิปรายหลัก คือ เรื่องการแก้ไขมาตรา 112

การประชุมรัฐสภาเมื่อวานเริ่มประชุมเวลา 09.30 น. โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานที่ประชุม

หลังทำความเข้าใจเรื่องกติกาการอภิปรายแล้ว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลุกขึ้นเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้ที่ประชุมเลือกเป็นนายกฯ

จากนั้นเข้าสู่การอภิปราย โดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายเป็นคนแรก ใจความสำคัญคือไม่เห็นด้วยกับการเสนอนายพิธา เป็นนายกฯ โดยยกถึงแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 / นายชาดา อภิปรายอย่างดุเดือดตลอดเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง โดยช่วงหนึ่งบอกว่า หากมีการแก้ไขมาตรา 112 "จะมีการยิงกันระเบิดแน่..." และบอกว่า "จะขอออกกฎหมายยิงคนหมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก"

จากนั้น ส.ว.ประพันธุ์ คูณมี อภิปราย ระบุว่า นายพิธา มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ จึงเป็นบุคคลที่รัฐสภาไม่สามารถรับไว้พิจารณาได้ เพราะจะทำให้ สมาชิกรัฐสภากระทำการผิดกฎหมายไปด้วย

จากนั้นนายพิธา ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของนายชาดา ช่วงหนึ่งนายพิธาระบุว่า กำลังพัฒนาคุณสมบัติและภาวะผู้นำของตน ซึ่งเรื่องหนึ่ง คือ ต้องเป็นรักษาคำพูด เหมือนสโลแกนของพรรคภูมิใจไทยคือ "พูดแล้วทำ" / และ ย้ำเรื่องการใช้เวทีรัฐสภาในการทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติ เพื่อเป็นทางออกของปัญหาต่าง ๆ

ส่วนที่ ส.ว.ประพันธ์ อภิปรายเรื่องคุณสมบัติ นายพิธา ระบุว่า ตนยังมีคุณสมบัติโดยสมบูรณ์ ส่วนข้อกล่าวหาของ กกต.เป็นอย่างไร ตนยังไม่มีโอกาสชี้แจงเลย พร้อมอ้างหลักการสันนิษฐานไว้ก่อน ว่าบริสุทธิ์ หากยังไม่มีคำตัดสิน / จะให้มีศาลเตี้ยในรัฐสภาไม่ได้



-ชัยธวัช ย้ำ แก้ ม.112 เพื่อสอดคล้องประชาธิปไตยสมัยใหม่

จากนั้นเป็นการอภิปรายของ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน ซึ่งอภิปรายลงรายละเอียดแนวทางแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล

นายคำนูณ ระบุว่า การแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลจะเป็นไปตามร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกล เคยพยายามจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่แล้ว

ซึ่งนายคำนูณ มองว่า จะกระทบการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ /เสมือนเป็นการแก้รัฐธรรมนูญทางประตูหลัง เกี่ยวข้องกับบทคุ้มครองพระมหากษัตริย์ และเป็นการนิรโทษกรรมผู้ต้องหาและจำเลยที่กระทำผิด มาตรา 112 โดยปริยาย

จากนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นชี้แจง ระบุว่า เรื่องนี้มาจากสถานการณ์ที่มีการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน มีผู้ถูกดำเนินคดี ถึง 253 คน จาก 272 คดี เราไม่เคยเกิดปรากฎการณ์แบบนี้มาก่อน

ซึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล จะทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาใหญ่นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกโจมตีทางการเมืองไม่ได้ เพราะหากปล่อยไปจะเป็นระเบิดทางการเมืองในอนาคต ไม่ใช่เรื่องนึกสนุก หรือ คิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทางประตูหลัง

นายชัยธวัช ย้ำว่า นี่ไม่ใช่สังคมใหม่ที่วุ่นวายอะไร แต่ข้อเสนอนี้มาจากหลักการสากล ในนานาอารยประเทศ ที่จะไม่มีการลงโทษจำคุกในความผิดฐานหมิ่นประมาทแล้ว ซึ่งเนื้อหาตามร่างแก้ไขของพรรคก้าวไกล เสนอสภาสมัยที่แล้ว เป็นไปเพื่อประกันเสรีภาพ สอดคล้องตามหลักประชาธิปไตยสมัยใหม่

ในการอภิปรายหลังจากนั้น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเดิมและ ส.ว.ยังคงอภิปรายโจมตีนายพิธา และพรรคก้าวไกลในเรื่องการแก้ไข ม.112 / ช่วงหนึ่งนายพิธา ได้ลุกขึ้นมาชี้แจงกรณีที่ ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ อภิปรายเรื่องการยุยงปลุกปั่นเด็ก

โดยนายพิธา ระบุว่า เยาวชนคนหนุ่มสาวสมัยใหม่นี้ยุยงปลุกปั่นไม่ได้ เพราะ มีความคิดเป็นของตัวเอง และเข้าถึงข้อมูลได้เยอะกว่าคนรุ่นก่อน

และช่วงหนึ่งได้มีการตอบโต้กันจนนายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะรองประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมขณะนั้นต้องห้ามปราม


-กกต. ยันทำหน้าที่รอบคอบแล้ว ส่ง ศาล รธน. คดีพิธา

เมื่อวานนี้ กกต. ชี้แจง กรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. ของนายพิธา ซึ่ง กกต. ยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างรอบคอบแล้ว

สำนักงาน กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่า เมื่อ กกต. เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส. มีเหตุสิ้นสุดลงให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย"

อีกทั้ง กรณีดังกล่าว ไม่ใช่การกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ที่จะต้องนำระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด มาใช้บังคับ / ดังนั้น เมื่อปรากฏว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. คนหนึ่งคนใด มีเหตุสิ้นสุดลง กกต. จะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง โดยไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหา หรือให้มาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะบุคคลดังกล่าวสามารถใช้สิทธิของตนเองไปชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

ส่วน ข้อกล่าวอ้างว่า กกต. เร่งรัดพิจารณานั้น ยืนยันว่า กกต. ได้ใช้ระยะเวลารวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว และดำเนินการตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

คุณอาจสนใจ

Related News