ต้องมีคนรับผิดชอบ! ‘ชัชชาติ’ ชี้สะพานลาดกระบังถล่ม ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย - ‘ดร.เอ้’ เคยเตือนแล้วว่าไม่ปลอดภัย

'ชัชชาติ' ยังไม่ชัดสาเหตุสะพานข้ามแยกลาดกระบังถล่ม เผยเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น มองไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ลั่น เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ ยัน กทม. ดูแลคนเจ็บ-เสียชีวิตอย่างดีที่สุด

วานนี้ (10 ก.ค. 66) เวลา 20.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางถึงที่เกิดเหตุสะพานข้ามแยกถล่ม บริเวณถนนหลวงแพ่ง พื้นที่เขตลาดกระบัง กทม.

นายชัชชาติ ระบุว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ผอ.สำนักโยธา ดูแลเรื่องนี้ร่วมกับวิศวกรรมสถานว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน เพราะด้านในยังมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ค้างอยู่ด้านใน ณ ขณะนั้น และยังไม่แน่ใจด้วยว่าจริงๆแล้วมีคนติดค้างอยู่ใต้ซากนี้หรือไม่แต่ก่อนที่เข้าไปต้องให้มั่นใจก่อนว่าเข้าไปแล้วจะไม่เกิดการพังทลายอีก

เมื่อถามว่าตัวคานอื่นๆ ยังมีความเสี่ยงหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า หากไม่มีการก่อสร้างคงไม่มีอะไร แต่การก่อสร้างหยุดแล้ว ต้องไปวิเคราะห์สภาพก่อน เพราะลักษณะคานมีความต่อเนื่องกัน ที่เป็นเสาและหล่อคานเป็นชิ้นเดียวกัน ดังนั้น การที่คานพังไปบางส่วนต้องประเมินว่าส่วนอื่นมีความมั่นคงอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งได้มอบหมายให้ประเมินด้านวิศวกรรมแล้ว เพราะฉะนั้น การกู้ภัยจึงไม่สามารถเข้าไปกู้ภัยได้ทันที ซึ่งทีมกู้ภัยต้องฟังเจ้าหน้าที่วิศวกรด้วย และได้ให้ไปประเมินแล้วว่า ต้องการอุปกรณ์อะไรบ้าง ชิ้นส่วนที่ต้องยกหนัก น้ำหนักกี่ตัน จะได้เอาเครนหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมมา หรือต้องการเครื่องตัดถ่างแบบใด ฯลฯ ถ้าวิศวกรคิดว่าพร้อมถึงจะเข้าพื้นที่ไปกู้ภัย ขณะเดียวกันต้องเรียกผู้รับเหมา ผู้คุมงานเข้ามาคุยด้วยว่าตอนเกิดเหตุกำลังทำขั้นตอนใดอยู่เพราะจะเป็นคนรู้ดีที่สุด เมื่อรู้ขั้นตอน ก็จะรู้สาเหตุของการพังถล่มลงมาได้

นายชัชชาติ ยังระบุว่า จริงๆแล้วสะพานพวกนี้จุดอ่อนคืออยู่ระหว่างการทำงาน เพราะระหว่างการทำงานไม่มีความมั่นคง เพราะว่าคอนกรีตแต่ละชิ้นเทไม่ต่อเนื่องกัน การที่เทต่อเนื่อง แข็งตัว จะมีความมั่นคงมาขึ้น ดังนั้น จุดอ่อนที่สุดคือช่วงก่อสร้าง ที่เอาทุกชิ้นมาประกอบกันและรอคอนกรีตแห้งและแข็งตัว หากพังจะพังช่วงก่อสร้าง แต่ต้องไปดูก่อนว่าสาเหตุแน่ชัดมาจากอะไร

เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เท่าที่ดูตนมองว่า คงไม่ใช่เรื่องสุดวิสัย เพราะเป็นโครงการก่อสร้างปกติไม่ได้มีเหตุสุดวิสัยหรือเป็นอุบัติเหตุ แต่ต้องไปดูให้แน่ชัดเสียก่อน ซึ่งตนมองว่าต้องมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ตามหลักแล้วไม่ควร มีความอันตรายเกิดขึ้นเช่นนี้

เมื่อถามว่าหลายคนต้องข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากน้ำและดินอ่อนโซนลาดกระบัง นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆแล้วการก่อสร้างใช้เข็มลึกมาก ลึกไปถึงชั้นทราย มีความมั่นคง เพราะเสาต้องอยู่เป็นร้อยๆปี แต่ตนยืนยันว่าน่าจะมีความผิดพลาดระหว่างหารติดตั้ง เพราะแต่ละชิ้นส่วนไม่เชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน

นายชัชชาติ ย้ำชัดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องมีการเอาผิด และต้องมีรับผิดชอบเพราะมีทั้งคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วน กทม. ยืนยันจะดูแลอย่างดีที่สุด

พร้อมกันนี้ หลายคนตั้งข้อสังเกตเรื่องการปิดถนนทั้งหมดระหว่างก่อสร้าง ประเด็นนี้ นายชัชชาติ กล่าวว่า การปิดจราจร การก่อสร้างปกติปิดเฉพาะเกาะกลางอยู่แล้ว แต่หากการก่อนสร้างใดที่มีความเสี่ยงมากก็จำเป็นต้องปิด

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า โครงการนี้ เป็นโครงการของกทม. มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้นมา 3-4 ปี แล้ว ยืนยันมีการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ ซึ่งมีกำหนดการแล้วเสร็จ 11 ส.ค.นี้ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด จึงเลื่อนไปและมีกำหนดการแล้วเสร็จช่วงเดือน ธ.ค.67

ทั้งนี้ คาดว่าการก่อสร้างล่าช้าแน่นอน เพราะว่าจากนี้ต้องเอาเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ต้องทำให้ความปลอดภัย ในพื้นที่กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติก่อน ส่วนการจราจร นายชัชชาติ ระบุว่า ต้องการปิดถนนตั้งแต่วันนี้ (11 ก.ค.66) เป็นต้นไป ส่วนจะถึงวันใดนั้นยังไม่สรุป แต่เบื้องต้นคาดว่า 3-4 วัน

-----------------------

‘วิโรจน์’ รุดตรวจสอบสะพานถล่ม จ่อลุยเช็กการจัดซื้อจัดจ้าง-ใช้งบนับพันล้าน ยันก้าวไกล จะคอยตามเรื่องทวงเยียวยาอย่างเป็นธรรมให้ผู้ประสบเหตุที่เสียชีวิต-บาดเจ็บ-ผู้ที่สูญเสียทรัพย์สิน

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และกำลังเร่งกู้จากใต้ซาก โดยยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก และมีรถยนต์เสียหายอีกหลายคัน รวมถึงบ้านเรือนแถวนี้จะได้รับความเสียหายหรือไม่ซึ่งต้องมีการตรวจสอบ

ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะตรวจสอบถึงสาเหตุการก่อสร้างล่าช้า แต่ก็เข้าใจส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาการระบาดของโควิด 19 แต่สาเหตุทางวิศวกรรมที่ทำให้สะพานถล่ม รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้งบประมาณถูกต้องหรือไม่ ประเด็นนี้ต้องตรวจสอบเช่นกัน รวมถึงตรวจสอบการก่อสร้างรอบคอบและปลอดภัยหรือไม่ โดยต้องร่วมกันตรวจสอบกับ กทม. โดยเชื่อมือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.

นายวิโรจน์กล่าว “ที่สำคัญการก่อสร้างหลังโควิด ไม่แน่ใจมีความเร่งรัดและมีความพร้อมหรือไม่ โดยอาจตรวจสอบและดูไปถึงการก่อสร้างสะพานอื่นๆ ด้วย ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบมีผู้ติดค้างภายในอีกหรือไม่ โดยการก่อสร้างต่าง ๆ มีความกังวล เพราะช่วงโควิดมีการหยุดไป เมื่อกลับมาสร้างใหม่ จึงต้องตั้งคำถามว่าการก่อสร้างต่อมีความพร้อมหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย โดยอาจต้องตรวจสอบทั่วประเทศ”

นายวิโรจน์ ยังเปิดเผยอีกว่า ผมเองอยู่ในจุดที่ไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ สำหรับสาเหตุของการที่สะพานถล่ม เมื่อสักครู่รองผู้ว่าฯ วิศณุ แจ้งว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยจะเดินทางมาตรวจสอบในเบื้องต้น ตอนนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ คงต้องประเมินสถานการณ์ ตรวจเช็กว่าไม่มีใครที่ติดอยู่ในซากแล้ว

สำหรับผู้เสียชีวิต ตนก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย อย่างไรก็ตามทางตนและพรรคก้าวไกลจะติดตามเรื่องนี้เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าปัญหาเกิดจากอะไร สำคัญที่สุดคือการชดเชย เยียวยาให้กับผู้ที่ประสบเหตุที่เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่สูญเสียทรัพย์สิน เข้าใจว่ามีรถยนต์จำนวนหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย ที่ต้องตรวจสอบต่อไปคืออาคารบ้านเรือนว่าได้รับความเสียหายทางโครงสร้างด้วยหรือไม่

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า เข้ามาเก็บรายละเอียดเพื่อเป็นประจักษ์พยาน และจะติดตามการชดเชยที่เป็นธรรมต่อไป “สะพานนี้สร้างมาแล้วประมาณ 3 ปี ที่ล่าช้ามาจากสถานการณ์โควิด และเพิ่งมาสร้างต่อตามกำหนดการ จากที่ต้องแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ แต่การก่อสร้างอาจจะล่าช้า ต้องตรวจสอบว่าพังทลายลงมาได้อย่างไร”

-------------------------- 

‘ดร.เอ้’ เสียใจที่สุด หลังเกิดเหตุสะพานข้ามแยกลาดกระบังทรุด เคยเตือนแล้ว เมื่อ ปี 65 ว่าไม่ปลอดภัย

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ “ดร.เอ้” อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้ทำการรีโพสต์เนื้อหาที่ได้เคยโพสต์ไว้เมื่อ วันที่ 19 ส.ค. 2565 หลังจากเกิดเหตุสะพานข้ามแยกทรุดตัว บริเวณหน้าโลตัสลาดกระบัง ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง เมื่อเวลา 18.08 น. วานนี้ (10 ก.ค.) และในเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย

โดยระบุว่า "เสียใจที่สุด เพราะผมเคยเตือนไปแล้ว ไม่น่าเลย สุดท้ายต้องมีคนสูญเสียชีวิต จนได้"

สำหรับเนื้อหาที่ ดร.เอ้ ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2565 นั้น ได้โพสต์ถึงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ที่อยู่ในโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังเอาไว้ว่า

“กลับบ้านวันศุกร์ ไม่สุข ไม่ปลอดภัย” ผมขอแสดงความเป็นห่วงจากใจ โครงการก่อสร้างสะพานข้าม ถนนอ่อนนุช-หัวตะเข้ เขตลาดกระบัง เห็นปัญหาชัดเจน

1. เครื่องจักรใหญ่ทำงาน ไม่มีแนวป้องกัน เสี่ยงอุบัติเหตุของหล่น ประชาชนเดือดร้อนเสี่ยงชีวิต

2. ถนนยุบจากการก่อสร้าง เสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ของเด็กนักศึกษา ห่วงจริงๆ

3. รถติดสาหัส เพราะก่อสร้างกินพื้นที่ บางช่วงก่อสร้างเสร็จแล้ว ต้อง คืนพื้นที่ให้ประชาชนผู้สัญจรได้ เพราะอุบัติเหตุจากการก่อสร้างสะพาน เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลายครั้งมีผู้เสียชีวิต มีทรัพย์สินเสียหาย ขออย่าให้เกิดที่ใด กับใคร อีกเลยครับ เป็นห่วงจริงๆ ครับ”

พร้อมกับได้บรรยายประกอบภาพว่า การก่อสร้างควรมีรั้วกั้นเขตก่อสร้าง แบบนี้อันตราย และการจัดการความสะอาด ควรปรับปรุง ไม่เช่นนั้น ประชาชนใกล้เคียงมีความเสี่ยง เดือดร้อน ถนนยุบพังทั้งเส้น และการทำงานของเครื่องจักร รถเครน ต้องพึงระวัง เพราะชิดติดถนน เสี่ยงมาก

---------------------------------------------------

โซเซียล ทวิตภาพเก่า บริษัทผู้รับเหมา สุดชุ่ย ใช้เครนยกถังลอยเหนือถนน ถามแบบนี้ได้เหรอ แฉอีก แม้แต่ป้ายกันก่อสร้างก็เคยล้มใส่คนมาแล้ว  

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ทวีตภาพขณะที่เครนก่อสร้างกำลังยกสิ่งของลักษณะคล้ายถังสีส้มขนาดใหญ่ ข้ามไปมาเหนือถนนขณะที่รถกำลังวิ่งผ่าน

พร้อมข้อความ ระบุ "บริษัท รับเหมาบริษัทนี้เหี้ยมาก เราคนในพื้นที่เจอมาหมด

- ห้อยถังแบบนี้เหนือถนนที่มีรถสัญจรไปมา

- น้ำปูนเลอะเทอะบนถนน มอไซค์ลี้นล้ม

- ไม่เคยเห็นวิศวกรคุมงาน

- คนงานมีน้อยมาก

- กำหนดเสร็จ11สิงหาเอาไรมาเสร็จ

จากนั้นยังได้ทวีตข้อความเพิ่มเติม โดยระบุว่า "แฉอีก อีป้ายนี่เคยล้มใส่คนขี่มอไซค์จ้า #สะพานถล่ม" พร้อมแท็กหา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fck8cDdrxyg