สังคม

"นราพัฒน์" ยันพร้อมนั่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนใหม่ แจงที่ประชุมล่ม เป็นเสน่ห์ของพรรค

โดย onjira_n

9 ก.ค. 2566

542 views

นายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังจากที่การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถที่จะเดินหน้าประชุมต่อไปได้ โดย โดยเฉพาะวาระสำคัญคือเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ จึงต้องเลื่อนออกไปก่อน โดยเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้



เนื่องจากพรรคเดินทางมาถึง 77 ก้าวสู่ปีที่ 78 แล้วคิดว่าเหตุการณ์ในวันนี้ ประชาชนและสมาชิกจะเข้าใจ ซึ่งต้องยอมรับว่าจะต้องปรับเปลี่ยน ในการสื่อสารใหม่ทั้งภายในและภายนอก



ส่วนกรณีที่หลังจากนี้จะดำเนินการต่อไปเนื่องจากตนเองเป็นแคนดิเดตที่จะถูกเสนอชื่อจริงเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่



นายนราพัฒน์ ระบุว่าจะต้องไปเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับพรรค ที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะเรียกประชุม และจะได้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค



ส่วนจะมีการเรียกประชุมในวาระดังกล่าวก่อนวันที่ 13 กรกฎาคม หรือไม่นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการหารือของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อบังคับพรรค ที่กรรมการบริหารพรรคจะมีข้อยกเว้น หรือจะดำเนินการต่อให้ทัน เพราะตามกรอบระยะเวลา 60 วันเป็นไปตามกรอบข้อบังคับพรรค หลังจากนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ลาออกเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นข้อบังคับของพรรค ไม่ใช่ระเบียบของ กกต. เพราะฉะนั้น กรรมการบริหารพรรคสามารถไปหารือกันต่อได้



จากเหตุการณ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของพรรคที่ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหรือไม่ นายนราพัฒน์ ชี้แจงว่า นั่นคือปัญหา และเคยพูดตั้งแต่ต้นว่านี่คือเสน่ห์ของการเป็นประชาธิปไตยของพรรค เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน ตนจึงอยากจะบอกกับสมาชิกและเพื่อนๆ ว่าเราต้องเคารพในการตัดสินใจ ว่าหากประชาธิปัตย์จะทำอะไรจะต้องตัดสินใจตามมติ



หากมติไปในทิศทางใดก็จะต้องเดินตาม ซึ่งความเห็นส่วนตัวพูดได้ทำได้ แต่ก็ต้องเคารพมติพรรค และเดินข้างหน้าไปด้วยกัน อย่างนี้เราจึงรวมกันเป็นหนึ่งได้ ในอนาคตข้างหน้าเราต้องเป็น One Democrat หรือวันประชาธิปัตย์ ให้ได้



พร้อมย้ำว่าตนเองแสดงจุดยืนว่ามีเจตนาที่จะเข้ามาบริหาร จัดการ ปรับเหลี่ยมโครงสร้างของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต้องเอาความเห็นของผู้อาวุโส มาผนวกกับความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ และยุทธวิธีใหม่ๆ และบางครั้งก็คิดในใจว่าจะพิจารณาตัวเอง ว่าอาจจะอยู่ในตำแหน่งปีครึ่งไม่เกิน 2 ปี เพื่อคืนอำนาจให้กับสมาชิกพิจารณาอีกครั้ง



ส่วนกรณีที่ประชุมระบุว่า 70 : 30 ไม่เป็นธรรมนั้น ส่วนตัวมองว่าถ้ารอโอกาส ให้มาหารือกันอีกครั้ง อาจจะมีกฎระเบียบกติกาที่ชัดเจน ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และทุกฝ่ายจะต้องยิ้มได้ ที่จะรวมพลังเดินหน้าไปข้างหน้าได้



พร้อมยอมรับว่า ที่วันนี้เราเป็นแบบนี้เพราะแพ้ภัยตัวเอง แล้ววันนี้เราต้องรวบรวมกับสรรพกำลัง และความเข้าใจ ซึ่งการสื่อสารภายในองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าสื่อสารแล้วทำให้เราเดินทางไปในทิศทางเดียวกัน ได้ก็จะจบ ทำให้การสื่อสารภายนอกง่ายขึ้นทำให้ประชาชน เข้าใจว่าเราคือใคร ทำอะไร มีตัวตนอย่างไร และมีแนวคิดอย่างไร และมีทิศทางอย่างไร



ซึ่งตนเองได้ตัดสินใจมาซักระยะหนึ่งที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ พร้อมยืนยันว่ามีผู้ใหญ่มาทาบทามและเสนอมุมมอง อยากหาใครสักคนที่เป็นกลางพูดคุยกับทุกฝ่ายได้ มาเขียนกติกาและกฎเกณฑ์เพื่อให้วันข้างหน้า รวมกันเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สอดคล้องกับความคิดของตนอยู่แล้ว



พร้อมยอมรับว่า มีบทเรียนที่เราไม่ได้รวมกันจึงทำให้พลังเราลดลง และยินดีหากมีสมาชิกมาสนับสนุนก็จะขับเคลื่อนกติกา และข้อบังคับโครงสร้างพรรคให้ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ทันต่อโลก



ส่วนกรณีที่ตอนนี้เหลือระยะเวลาอีกประมาณ 30 วันจะถือโอกาสไปหาเสียงไปในตัวด้วยหรือไม่ นายนราพัฒน์ ระบุว่ายังไม่ทราบว่าคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาและกำหนด วันเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเมื่อไหร่

แต่หากมีการพูดคุยและปรับความเข้าใจกัน แล้วพรรคมีทิศทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นตนก็ได้



แต่หากใครมีความคิดแบบตนและสามารถทำให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้า ด้วยความเข้มแข็งต่อไปได้ ก็ยินดีหากคนนั้นจะมาเป็นผู้นำให้ แต่ยืนยันว่าตนเองก็พร้อมที่จะอาสามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ถ้าหากสมาชิกลงคะแนนให้ตนเองได้เป็นก็ยินดี ได้เป็นก็ยินดี

คุณอาจสนใจ