สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 7 ก.ค.66 เตือน ส.ว.อย่าฝืนมติมหาชน-โรงงานปลาร้าขอพิมรี่พายชดใช้-รวบเดนคุกฟันคอตา

โดย thichaphat_d

7 ก.ค. 2566

110 views

1.แจ๊บ คอตกเข้าเรือนจำ ไร้ญาติประกัน

ศาลอาญาอนุญาตฝากขัง แจ๊บ ผู้ต้องหาใช้ไม้เบสบอลตีลูกเลี้ยงวัย 12 ปี เสียชีวิต อำพรางศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูนอำพรางคดีหนีผิด ไร้ญาติยื่นประกัน ราชทัณฑ์นำตัวคุมขังในเรือนจำ ด้าน ผบก.น.2 โร่แจง หลังแจ้งข้อหาแจ๊บ เบาหวิว แค่ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ถึงเเก่ความตาย ชี้พิจารณาจากวงจรปิด พบเจตนาทำร้ายร่างกาย ไม่ได้หวังชีวิต หากอัยการพิจารณาให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ก็สามารถทำได้

2.เจอแล้ว ป้าอ้อย กลายเป็นศพถูกทิ้งลงหน้าผา

เจอแล้ว ป้าอ้อย หลังหายตัวกว่า 7 วัน กลายเป็นศพถูกทิ้งลงหน้าผา ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ขณะที่ตำรวจเค้นสอบเพื่อนสนิท นาน 4 ชั่วโมง ก่อนเปิดปากสารภาพ รวมหัวกับแฟนหนุ่มฆ่ารัดคอ "ป้าอ้อย" ทิ้งศพลงหน้าผา หวังล้างหนี้ดาวน์รถ ส่วนตำรวจเร่งขยายผลขบวนการลักลอบค้ารถผิดกฎหมาย ขณะที่ ลูกชาย-ลูกสะใภ้ ปล่อยโฮ ยืนยันศพ เป็นป้าอ้อย ด้านกู้ภัยโรยตัวหน้าผาริมกู้ร่างส่งพิสูจน์

3.รวบเดนคุก ยิง-ฟันแทงเพื่อนบ้านสาหัส พบประวัติโชกโชน

จับแล้ว ไชยา หนุ่มเดนคุกสุดโหดพึ่งพ้นโทษ ก่อเหตุใช้ปืนยิงคุณตาข้างบ้าน มีดแทงฟันซ้ำแผลเหวอะทั่วตัว บาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนี ด้านตำรวจระดมพลกว่า 100 นาย ไล่ล่าชี้เป็นบุคลอันตราย สุดท้ายจนมุมกลางป่า สิ้นฤทธิ์โดนรวบ จ่อคุมทำแผนวันนี้ ขณะที่ค้นประวัติพบก่อเหตุโชกโชนตั้งแต่อายุ 17 ปี ก่อนผงะซ้ำเคยฆ่าพ่อเลี้ยง ข่มขืนแม่ เมื่อปี 62

4. เจ้าของโรงงานร่ำไห้ ขอ พิมรี่พาย ชดใช้ 10 ล้าน


2 คู่กรณี พิมรี่พาย ร่ำไห้กลางรายการ แฉสัญญาทาส ให้ผลิตน้ำปลาร้าล้านขวด ดีใจนึกว่าได้ดีลใหญ่ถึงขั้นไปกู้หนี้นอกระบบมา สุดท้ายโดนเท เพราะหาว่าน้ำปลาร้าเค็มผิดปกติ ก่อนอึ้งซ้ำพบวิธีการคิวซีของพิมรี่พาย คือใช้ปากชิม วอนพิมรี่พาย ชดใช้ 10 ล้าน ขณะที่อดีต พนง.พิมรี่พายโผล่ให้ข้อมูล ชี้ PO เป็นเรื่องภายในบริษัท โรงงานน้ำปลาร้าไม่ผิด

5.อีเจี๊ยบ เลียบด่วน แจ้งเศร้า ประกาศหยุดทำเพจถาวร

อีเจี๊ยบเลียบด่วน ประกาศปิดเพจถาวร ยุติเส้นทางกวนบาทานับ 10 ปี ยันมีเหตุผลด้านสุขภาพทางจิตใจที่แย่ลง ก่อนปัดเกี่ยวกับถูกกดดันเรื่องทางการเมือง ชี้จากกันตอนที่คนยังรัก ยังมีคิดถึงดีกว่า ก่อนฝากเตือนชาวเน็ต เล่นโซเชียล อย่างมีสติ สนใจติดตามข่าวสาร อย่าเน้นแต่บันเทิง และระวังเพจอีเจี๊ยบปลอม



เรื่องเล่าการเมือง

1.วันนอร์ แจงคิวโหวตนายกฯ รอบสอง 19 ก.ค. หากรอบแรกไม่ผ่าน


มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการโหวตนายกฯ ล่าสุดทางว่าที่ประธานสภาได้หารือกับประธานวุฒิสภาแล้วว่าหากวันที่ 13 กรกฎาคม โหวตชื่อนายพิธา ไม่ผ่าน ก็จะนัดโหวตครั้งต่อไปในวันที่ 19 กรกฎาคม

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าจะเลือกกี่ครั้ง หากครั้งแรกได้ครบ 376 เสียงก็ถือว่าจบ แต่ถ้าไม่ครบ ก็จะเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะขณะนี้ประชาชนรอรัฐบาลใหม่ จึงต้องทำให้เกิดความสมดุล และเหมาะสม

ส่วนการนัดโหวตครั้งที่สอง เบื้องต้นน่าจะเป็นวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งได้ปรึกษากับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา แล้ว ก็เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะ ส.ส.ก็มาประชุมสภาอยู่แล้ว ส่วน ส.ว.ก็ไม่ติดประชุม และไม่ตรงกับการประชุม ครม. ส่วนที่จะต้องเว้นไว้ 7 วันนั้น แม้ไม่ได้มีข้อกำหนด แต่ต้องการให้สมาชิกมาประชุมโดยพร้อมกัน ทั้ง ส.ว. และ ส.ส. เพราะเป็นการเลือกผู้นำประเทศ จึงต้องทำให้มีความพร้อม และโปร่งใสที่สุด/ แต่หากครั้งที่สองยังไม่จบ ก็ต้องหารือหน้างานกันอีกที

ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำว่า การโหวตเลือกนายกฯครั้งต่อไป ยังสามารถเสนอชื่อบุคคลเดิมซ้ำได้อีก เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม



2.ส.ว. ดิเรกฤทธิ์ เปิด 2 มุมมอง ส.ว. หนุน - ค้านพิธา

สำหรับท่าทีของ ส.ว.ที่จะมาร่วมโหวตนายกฯ เมื่อวาน ส.ว. ดิเรกฤทธิ์ หนึ่งใน ส.ว.ที่จะโหวตสนับสนุนนายพิธา เปิดเผยถึงท่าทีของ ส.ว.ทั้ง 2 ฝั่ง และแนะให้นายพิธา แถลงเรื่องที่ถูกตั้งคำถามให้ชัดก่อนโหวตนายกฯ

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ให้สัมภาษณ์คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผ่านรายการ "กรรมกรข่าวคุยนอกจอ" ถึงการโหวตเลือกนายกฯ โดยระบุว่า ตนยืนยันหลักการรัฐสภา ถ้าได้เสียงข้างมากในสภา ควรเลือกนายกฯที่มาจากเสียงข้างมาก

แต่ยังมี ส.ว.จำนวนมากที่ติติงนโยบายพรรคก้าวไกล จึงเห็นว่าก่อนถึงวันเลือกนายกฯ หากมีเรื่องใดที่มีการตั้งคำถาม หากคุณพิธาประกาศต่อสาธารณะให้ชัดเจนว่าจะขับเคลื่อนอย่างไร

นายดิเรกฤทธิ์ ได้ชี้แจงเหตุผลของฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการโหวตนายพิธา โดยฝ่ายที่เห็นด้วยมองว่า การเสนอรายชื่อนายกฯ เป็นเรื่องฝ่ายบริหาร ส่วนเรื่องที่มีความกังวลกันอยู่ รวมถึงเรื่องมาตรา 112 เป็นกระบวนการนิติบัญญัติ เป็นสองเรื่องที่แยกจากกัน หากเอาสองเรื่องมาปนกันจะไม่เป็นธรรม

ส่วนความเห็นของ ส.ว.อีกฟากที่ไม่สนับสนุนนายพิธา ส.ว.ดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ส.ว.กลุ่มนี้มองว่านโยบายของพรรคก้าวไกลสุดโต่งในหลายเรื่อง จึงเห็นว่าควรตัดไฟแต่ต้นล้ม ซึ่ง ส.ว.ที่เห็นแนวนี้มีจำนวนมาก นายพิธา จึงน่าจะได้เสียงไม่ถึง 376 เสียง


3.สุขุม เตือน ส.ว.อย่าฝืนมติมหาชน ชี้หากพิธา ไม่ผ่าน วิกฤตแน่

ขณะที่ อ.สุขุม นวลสกุล วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองอย่างเข้มข้น บอก หากนายพิธาผ่าน เกิดวิกฤตแน่ เตือน ส.ว.อย่าฝืนมติมหาชน

รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอเหมือนกัน กล่าวว่า กลัวประวัติศาสตร์ย้อนรอย จะเล่นการเมืองก็เล่นไป แต่อย่าเล่นกับมติมหาชน ประชาชนตัดสินแล้วว่าต้องการให้ใครปกครอง บริหารบ้านเมือง ไม่มีเหตุผลที่ ส.ว.จะขัดขวาง ไม่สำเร็จเรื่องนี้ก็จะเอาเรื่องใหม่ ดูแล้ว ส.ว. ที่ออกมาพูดก็อยากให้คนที่แต่งตั้งเขามามีอำนาจเหมือนเดิม

"ผมไม่ได้เลือกพิธา แต่ผลเลือกตั้งออกมาอย่างนี้ผมต้องเคารพ ผมไม่ใช่เจ้าของประเทศเพียงคนเดียว ว่ามันต้องเป็นไปตามที่ผมคิด รักชาติให้น้อยลงหน่อย คนอื่นเขาก็มีส่วน ยิ่งพวกอายุมากๆอย่างพวกผมคุณจะเป็นเจ้าของประเทศไปอีกกี่ปี บ้านเมืองเป็นของคนแต่ละรุ่น อย่าไปห่วงเขามาก ห่วงตัวเองเถอะ"

เมื่อถามว่าอีกฝั่งมองว่าก้าวไกลสุดโต่งเช่นเรื่อง 112 รศ.สุขุมกล่าวว่า ใน MOU ไม่มี และบอกว่า "ขอยืมคำพูดปรมาจารย์บางท่าน เสียดายที่กรุงศรีอยุธยาแตกซะก่อน ถ้าคนเหล่านี้อยู่อาจจะแตกเร็วกว่านี้"

"หากนายพิธาไม่ผ่าน วิกฤติเกิดแน่ เรื่องอ่อนกว่านี้ยังเกิดเลย ปี 2500 เลือกตั้งสกปรก จอมพล ป. ก็เอาไม่อยู่ ปี 2535 พล.อ. สุจินดา เอาอยู่ไหมล่ะ ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าเอาอยู่กันทั้งนั้นแหละ"

เมื่อถามว่าอาจจะเกิดรัฐประหารประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อ.สุขุม กล่าวว่า จองเครื่องบินรอได้เลย ไม่มีใครสู้มติมหาชนได้



4.รทสช.ปัดส่งชื่อพีระพันธุ์ ชิงนายกฯ ตั้งรบ.เสียงข้างน้อย

ขณะที่ขั้วรัฐบาลเดิม เมื่อวานนี้ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ปฏิเสธข่าวลือ ยืนยันว่ารวมไทยสร้างชาติ จะไม่เสนอชื่อพีระพันธุ์ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เมื่อวานนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง ย้ำจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีกระแสข่าวว่ารวมไทยสร้างชาติ จะส่งคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค แข่งกับ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า ไม่เป็นความจริง

ก็ยอมรับว่าพรรคเรา มีเพียง 36 เสียง ไม่พอที่จะไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และคุณพีระพันธุ์กับผม ไม่เคยมีความคิด และไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาฯอย่างเด็ดขาด ถึงจะตั้งไปก็อยู่ไม่ได้

นายเอกนัฏ ย้ำจุดยืนของพรรค ว่า ไม่รับนายกฯหรือรัฐบาลที่จะแก้หรือยกเลิก ม.112 สามารถทำได้ด้วยวิธีไม่โหวต โหวตไม่รับ หรืองดออกเสียง โดยไม่ต้องส่งแข่งก็สู้ได้ (ต่างจากรองประธานสภาฯ)

และยังบอกว่า "มีคนพยายามกุข่าวลือ สร้างข่าวเพื่อให้การต่อสู้ของเรานั้นสูญเสียความชอบธรรม ผมขอปฏิเสธชัดๆไปเลย ว่า "เราไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย" หากจะต้องเป็นฝ่ายค้านก็เป็น เพราะการจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ไม่สำคัญไปกว่าการรักษาจุดยืนของเรา


5.เศรษฐา ย้ำเพื่อไทย-ก้าวไกล ไม่มีแตกแถว ดันพิธานายกฯ


ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อวานนี้พูดถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ตัวติดกันไม่มีแตกแถว ในการดันนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังท่าที ส.ว. ค่อนข้างชัดเจนไม่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็บอกว่า ไม่แน่ใจว่าชัดเจนขนาดไหน แต่นายพิธา ยืนยันว่าสามารถรวมเสียงได้ 376 เสียง จึงขอเป็นกำลังใจให้ และมั่นใจว่าเพื่อไทยไม่แตกแถว

พร้อมเชื่อว่า ส.ว. น่าจะทำตามฉันทามติของประชาชน ส่วนกรณีที่ ส.ว. พร้อมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขที่พรรคก้าวไกลต้องถอยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายเศรษฐา บอกว่า เป็นความเห็นของส.ว.เพียงท่านเดียว ซึ่งยังมั่นใจ ว่าเสียงส.ว.ส่วนใหญ่น่าจะให้การสนับสนุน เสียงที่มาจากประชาชนและย้ำว่าเรากับ พรรคก้าวไกล ตัวติดกันมาจากฝ่ายประชาธิปไตย และ 8 พรรค ก็เซ็น MOU เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าว ถามว่า หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งแรกไม่ได้ควรจะให้โอกาสเลือกอีกกี่ครั้ง นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องมาดูว่าคะแนนเสียงที่ได้เป็นไงบ้าง ซึ่งหากคะแนนขาดอยู่เล็กน้อย ก็ควรจะให้โอกาส



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LCqTNIB8-RI

คุณอาจสนใจ

Related News