จลาจลฝรั่งเศสผ่อนคลาย ประชาชนร่วมให้กำลังใจนายกเล็ก เรียกร้องยุติความรุนแรง

สถานการณ์ความวุ่นวายในฝรั่งเศส จากการก่อเหตุจลาจลตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้ผ่อนคลายลงแล้ว หลังจากที่ในหลายเมืองเกิดการประท้วงอย่างรุนแรง จนถึงขั้นจุดไฟเผาสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงการปล้นสะดม เนื่องจากไม่พอใจที่ตำรวจได้ยิงวัยรุ่นชายวัย 17ปี ผู้อพยพเชื้อสายโมร็อกโก-อัลจีเรีย ที่เมืองนองแตร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โดยที่เมืองนองแตร์ เมื่อวานนี้ แพททริค จาร์รี นายกเทศมนตรีเมือง ได้แถลงว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ได้ถูกสกัดกั้นเอาไว้ทั้งหมด แต่ก็ย้ำเตือนว่า ทุกฝ่ายไม่ควรเผลอเรอ เพราะความรุนแรงอาจจะปะทุขึ้นมาได้อีกอีกเสมอ และว่า จะนำตัวผู้ก่อเหตุความวุ่นวายมารับผิดให้ได้

ในวันเดียวกันนั้น ที่ เมือง เลย์-เลส์-โรส ชานกรุงปารีส มีประชาชนจำนวนมาก ได้มารวมตัวกันให้การสนับสนัน แวงซองต์ ฌองบรุน นายกเทศมนตรีเมือง หลังจากที่บ้านของเขาถูกกลุ่มคนก่อเหตุขับรถพุ่งชน และจุดไฟเผารถคันดังกล่าว เพื่อให้ไฟลุกลามไปยังตัวบ้าน ก่อนจะยิงพลุเข้าใส่ เมลานี โนวัค ภรรยาของฌองบรุน ที่กำลังพยายามพาลูกอายุ 7 กับ 5 ขวบ หลบหนี ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บขาหัก ลูกอีกคนก็ได้รับบาดเจ็บ

ฌองบรุน ซึ่งมาร่วมการชุมนุมครั้งนี้ได้กล่าวว่า "เราได้เหตุโฉมหน้าที่แท้จริงของพวกก่อความรุนแรงพวกนี้แล้ว พวกนี้เป็นฆาตกร ต้องการฆ่าภรรยา และลูกๆ ของผม ขณะที่พวกเขาหลับอยู่ คนพวกนี้ต้องการเผาลูก-เมียผม ทั้งเป็น"
-------------

ทั้งนี้ สถานการณ์ในฝรั่งเศส เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 3 ก.ค. 2023) เริ่มสงบลงแล้ว หลังจากที่รัฐบาลประกาศประจำการตำรวจ 45,000 คนทั่วประเทศ ส่วนในพื้นที่ปารีส และใกล้เคียงก็ยังหยุดให้บริการรถเมล์ และรถราง โดยในภาพรวมนั้น มีคนถูกจับกุมไปทั้งสิ้นกว่า 850 คน และมีรถยนต์ถูกเผา 2,197 คัน มีอาคาร 534 แห่ง ได้รับความเสียหายหรือถูกเผาวอด  

ขณะเดียวกัน ได้ปรากฏคลิปวิดีโอผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นภาพของความรุนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่า มีการก่อเหตุที่รุนแรงอย่างมากในหลายเมืองของฝรั่งเศส ทั้งขับรถพุ่งชนอาคาร มีการยิงปืน เอเค-47 ขึ้นฟ้าด้วย

มีภาพขณะที่ กลุ่มผู้ประท้วงได้ขับรถพุ่งชนร้านค้า ที่เมืองนองต์ โดยที่มีการส่งเสียเชียร์ และกระโดดโลดเต้นกันอย่างบ้าคลั่ง

มีภาพขณะที่ผู้ประท้วงได้ยิงปืน เอเค-47 ขึ้นฟ้า ไม่ระบุว่าเกิดขึ้นที่เมืองใด ซึ่งปืน เอเค-47 นั้นเป็นปืนที่ผลิตขึ้นสมัยสหภาพโซเวียต และมักจะถูกนำมาใช้โดยกลุ่มก่อความไม่สงบในหลายประเทศ

-------------