ก.ต่างประเทศ แจงเคยเยียวยาแล้ว แม่บ้านทูตทำงานจนตาบอด ขอเพิ่มอีก 1 ล้าน แต่กรมบัญชีกลางไม่อนุมัติ

ก.ต่างประเทศ แจงกรณีแม่บ้านสถานทูตทำงานจนตาบอด เรียกร้องเงินเยียวยา ยันเคยให้ความช่วยเหลือ แล้ว 1.9 แสน แต่เจ้าตัวขอเพิ่มอีก 1 ล้าน แต่กรมบัญชีกลาง ไม่อนุมัติ


วันที่ 1 ก.ค.66 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส. รัตน์ตพร แสงอ่อน อดีตผู้ติดตาม (พนักงานบริการ) เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ปี 2552 - 2555 เรียกร้องเงินเยียวยาปัญหาสุขภาพทางสายตาระหว่างการปฏิบัติงานว่า กระทรวงการต่างประเทศมิได้นิ่งนอนใจและได้ตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่า ในระหว่างช่วงการปฏิบัติงาน นายจ้างได้นัดหมายให้ น.ส.รัตน์ตพรฯ ได้รับการตรวจจากแพทย์ทั้งในไทยและในฝรั่งเศส น.ส.รัตน์ตพรฯ มีอาการผิดปกติทางสายตา (ต้อหิน) มานานก่อนปฏิบัติหน้าที่ในราชการแล้ว ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางกรรมพันธุ์ และสมาชิกครอบครัวของ น.ส. รัตน์ตพรฯ มีประวัติป่วยด้วยโรคเดียวกันนี้หลายคน


ในปี 2555 น.ส.รัตน์ตพรฯ ลาออกจากราชการด้วยเหตุผลด้านสุขภาพโดยไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่น และเป็นการลาออกที่ไม่ได้รับเงินชดเชยตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการที่มีสำนักงานอยู่ในต่างประเทศ


ในปี 2561 น.ส.รัตน์ตพรฯ ได้ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม กระทรวงฯ จึงได้ขอให้กรมบัญชีกลางพิจารณาจ่ายเงินช่วยเป็นกรณีพิเศษ โดยต่อมากรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้จ่ายเงินช่วยกรณีพิเศษแก่ น.ส. รัตน์ตพรฯ 196,547.15 บาท ประกอบด้วยเงินช่วยเหลือ 186,000 บาท และเงินรางวัลประเพณี 10,549.15 บาท


จากนั้น น.ส.รัตน์ตพรฯ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงฯ หลายครั้ง เพื่อขอเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 1,000,00 บาท ซึ่งกระทรวงฯ ได้ขอให้กรมบัญชีกลางพิจารณาเป็นระยะๆ ในปี 2564 น.ส.รัตน์ตพรฯ ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้แสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรมบัญชีกลางกรณีไม่จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ตน ปี 2565 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติ “ให้ยุติเรื่อง” เนื่องจากยังไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานเพียงพอ และได้ขอให้กรมบัญชีกลางพิจารณาแนวทางหรือวิธีการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมให้แก่บุคคลที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว


ต่อมา เดือน มี.ค.2566 กรมบัญชีกลางแจ้งว่า ไม่สามารถอนุมัติเงินช่วยเหลืออื่นใดได้ เนื่องจาก น.ส. รัตน์ตพรฯ พ้นสถานะ “ลูกจ้าง” และเคยได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว จึงไม่อยู่ในข่ายที่จะรับเงินทำขวัญ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ โดยกระทรวงฯ ได้แจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวให้ น.ส. รัตน์ตพรฯ ทราบแล้ว


อธิบดีกรมสารนิเทศย้ำว่า กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลากรและเจ้าหน้าที่ และมีความเห็นใจ น.ส.รัตน์ตพรฯ ตลอดจนได้ดำเนินการช่วยเหลือ น.ส.รัตน์ตพรฯ ภายใต้ระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เท่าที่จะทำได้แล้ว ทั้งนี้ ขอส่งกำลังใจให้ น.ส.รัตน์ตพรฯ ด้วย