เลือกตั้งและการเมือง

'ชูศักดิ์' ชี้ พท.ได้ประธานสภา คือความเสมอภาคและให้เกียรติกัน - 'ภูมิธรรม' เผยยังมีเวลา เพราะสภาเปิด 4 ก.ค.

โดย nattachat_c

28 มิ.ย. 2566

31 views

วานนี้ (27 มิ.ย. 66) เวลา 12.00 น. ณ พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรค และกาารประชุม ส.ส.พรรค ว่า 


เรื่องการเลือกตำแหน่งประธานสภา ทุกอย่างต้องจบก่อนวันที่ 4 กรกฎาคม และมั่นใจว่าจะจบได้ด้วยดี แต่ถ้ามีเหตุจำเป็น ก็อาจมีการประชุม ส.ส.ก่อนวันที่ 4 กรกฎาคม และเชื่อว่า วันลงมติ เสียงของพรรคเพื่อไทยจะไม่แตก


ถามว่า หากมีการลงมติกันแล้วมั่นใจ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะโหวตทิศทางเดียวกัน ใช่หรือไม่

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่ใช้ที่ประชุมเพื่อลงมติ เพราะการเจรจายังไม่สิ้นสุด  เราต้องไปฟังคู่เจรจาก่อนว่า จากมุมของพรรคเพื่อไทยทั้งสองมุมนั้น พรรคก้าวไกลเห็นอย่างไร


เราคุยกันแบบพรรคร่วม ที่จะต้องจับมือร่วมกันไป เรารู้ว่าเราแยกกันไม่ได้ และเราเองก็ไม่มีทางที่จะแยกกันได้ด้วย ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน เช่นนี้จึงแยกยาก ต้องจับมือร่วมกันไปเพื่อทำงานตามที่ประชาชนมุ่งหวัง คือรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน


ถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ว จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ใช่หรือไม่

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ในมุมพรรคเพื่อไทยมั่นใจไม่เกิดขึ้น เกิดขึ้นแค่ในมุมมองของสื่อ


ถามถึง ความกังวลในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีแข่งของฝ่ายรัฐบาลเดิม ในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อรวมกับเสียงของ ส.ว.จะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ เพราะเขามีสิทธิที่จะทำ หากเขาทำเช่นนั้น โอกาสได้นายกรัฐมนตรีสูงมาก เพราะเขามีเสียง 188 บวกกับ ส.ว. 250 ก็เกิน 276 เสียง ก็ถือเป็นข้อกังวล


แต่หากการโหวตครั้งแรกๆ เขาน่าจะมีความละอาย เขาน่าจะละอายที่ไม่เสนอชื่อนายกฯเสียงข้างน้อยมาแข่ง อย่างไรก็ตาม หากเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง เรามีหน้าที่รับมือไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น


ถามว่า หากวันนั้น โหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สำเร็จ ทาง 8 พรรคร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อ

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าพรรคอันดับ 2 เดินอย่างไร แต่ต้องทั้ง 8 พรรคมาคุยกัน”


ถามว่า หากเป็นพรรคเพื่อไทย จะสามารถรวมเสียงได้ 376 เสียง หรือไม่

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ด้วยความเคารพ ผมพยายามที่จะไม่ตอบคำถามนี้ เพราะผมตอบไม่ได้จริงๆ หากตอบจะกลายเป็นเงื่อนไขที่เราพยายามแย่งจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่ดี


ถามถึง กระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อดีลลับกับพรรคเพื่อไทย

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ไม่มีดีลลับ เพราะถ้ามี เขาต้องมาแจ้งผม ซึ่งคนดีลกลับมาแล้ว และในนามหัวหน้าพรรค ยืนยันว่า ไม่ได้รับการแจ้งเบาะแสเรื่องที่เป็นข่าว โดยสรุปคือ เราไม่มีดีลลับ


ถามว่า เป็นการดิสเครดิตทำลายพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า แล้วแต่จะมอง เราชินชาแล้ว แต่ก็คงไปห้ามไม่ให้มีข้อวิจารณ์ไม่ได้ แต่เรายืนยันว่า จะยึดในวิถีประชาธิปไตย และประชาชนเป็นหลัก

-------------

วานนี้ (27 มิ.ย. 66) เวลา 17.00 น. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย // นายภูมิธรรม เวชยชัย // นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค // นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังประชุมกรรมการบริหารพรรค และประชุม ส.ส.พรรค เพื่อขอความเห็นเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่คณะเจรจาของพรรคเพื่อไทยจะนำไปหารือกับพรรคก้าวไกล ในวันนี้ (28 มิ.ย. 66)


นายแพทย์ชลน่าน ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมา คณะเจรจาเสนอหลักการ 14+1 ต่อคณะกรรมการบริหารพรรคมาโดยตลอด สรุปคือ คณะเจรจาได้ข้อยุติจากคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า จะไปหารือกับพรรคก้าวไกล เรื่องประธานสภา ร่วมกับตำแหน่งรัฐมนตรี ด้วยสูตร 14+1


ซึ่งที่ผ่านมา เรายืนยันสูตรนี้มาโดยตลอด คือ พรรคก้าวไกลได้นายกฯ + 14 เก้าอี้ รมต. ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ประธานสภาฯ + 14 เก้าอี้ รมต. 


โดย คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันในหลักการเดิม 14+1 เหมือนเดิม ซึ่งในประเด็นดังกล่าว กรรมการบริหารได้นำไปหารือกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้ง 141 คน ซึ่งส่วนใหญ่ยืนยันขอให้คณะเจรจา นำข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารนี้ ไปเจรจากับพรรคก้าวไกลในวันนี้ (28 มิ.ย. 66) 

--------------
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญที่จะต้องควบคุมกำกับดูแลการดำเนินการของรัฐสภา ประธานสภาต้องวางตนเป็นกลางทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิก และพรรคการเมืองทุกพรรค และประธานสภา นอกจากดำรงความเป็นกลาง ต้องมีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์วุฒิภาวะ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย


ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้รับทราบว่า คณะเจรจาของพรรคได้เสนอต่อที่ประชุมกับพรรคก้าวไกล ขอเสนอใช้สูตร 14 + 1 ซึ่งที่ประชุมกรรมการบริหารและประชุม ส.ส.เห็นว่า มีความเป็นธรรม เพราะคำนึงถึงความเสมอภาค ให้เกียรติซึ่งกันและกัน พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็ควรที่จะในตำแหน่งประธานสภา ที่ประชุมจึงเห็นควรยืนยันสูตรนี้


ซึ่งทีมเจรจาควรที่จะยืนยันในสูตรนี้ต่อไป ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการแก่งแย่งตำแหน่ง แต่พรรคเพื่อไทย ยังคงยืนยันเห็นความจำเป็น และให้ความสำคัญในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายก


นาย​ชู​ศักดิ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ การมีประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้สภาเดินหน้าเดินหน้าในสภาได้ราบรื่นเรียบร้อย  ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพต่อไป

--------------

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีการตอบกลับอย่างเป็นทางการ มีแต่สื่อสารทางโซเชียล ดังนั้น ในวันนี้ (28 มิ.ย. 66) ตนจะนำข้อสรุปของเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม ไปเจรจาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล


ซึ่งตนคาดหวังว่า การคุยจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใช้เหตุและผล เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามที่พี่น้องประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว ซึ่งเรายังไม่อยากคิดว่าจะไม่สำเร็จ เพราะมันจะบั่นทอนความร่วมมือกัน


ทั้งนี้ หากวันนี้ (28 มิ.ย. 66) ยังไม่เรียบร้อย ก็ยังมีเวลาในการเจรจาต่อไป แต่หากฝั่งก้าวไกลไม่ยอม ต่างฝ่ายต่างต้องกลับไปทบทวน เพราะแสดงว่าข้อสรุปในการเจรจามันไม่จบ


ถามว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมถอย ใช่หรือไม่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าไม่ได้ ก็ต้องกลับไปทบทวน เชื่อว่ายังมีเวลา เพราะการเปิดสภาจะเริ่มต้นในวันที่ 4 กรกฎาคม ทุกนาทีมีค่า ก็รอผลวันนี้ (28 มิ.ย. 66) อาจจะจบลงด้วยดี สามารถจัดตั้งกันได้


ถามว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทย มีรายชื่อประธานสภาแล้วหรือไม่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการหารายชื่อเป็นสเต็ปที่เกิดขึ้นภายหลังได้ ไม่ใช่เรื่องซีเรียส เรื่องที่ซีเรียสคือ ต้องตกลงกับพรรคก้าวไกลให้ได้ก่อนว่า ตำแหน่งประธานสภาจะเป็นของใคร

--------------

คุณอาจสนใจ

Related News