สังคม

3 ตร. ร้องอัยการสอบคดีรีดเงิน 140 ล้าน หลังตกเป็นผตห. หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดย panwilai_c

22 มิ.ย. 2566

205 views

ตำรวจ 3 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอุ้ม-รีดเงินแก๊งพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ เพื่อขอให้เข้าร่วมสอบสวนคดี ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หลังตั้งข้อสังเกตการทำงานของคณะพลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ชอบมาพากล ด้านบิ๊กโจ๊กยืนยันเรื่องนี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ตีความกฎหมายไปในอีกแนวทาง



พันตำรวจโท เสถียร รัชพงษ์ไทย อดีตรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี พันตำรวจโท นครราช นนสีลาด อดีตสารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาม และ ร้อยตำรวจเอก สมบุญ บุดดาเลิศ อดีตรองสารวัตรสืบสวน สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีเรียกรับเงินแก๊งพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ยื่นหนังสือถึงนาย กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสวบสวน ที่สำนักงานการสอบสวน ตลิ่งชัน โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการสอบสวนของชุดคณะทำงานที่ทำคดี



นอกจากนี้ยังอ้างว่า กระบวนการสอบสวนของตำรวจที่ทำคดีนี้ ไม่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มาตรา 31 วรรค 3 ที่กำหนดขั้นตอนการดำเนินคดีว่าต้องแจ้งเหตุให้พนักงานอัยการทราบ เพื่อให้อัยการตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนทันที และยังหลีกเลี่ยงไม่แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ให้แก่ผู้ต้องหาคนใดเลย ทั้งที่ในหนังสือรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ระบุพฤติการณ์โดยละเอียด และมีคำให้สัมภาษณ์ของผู้บังคับบัญชายืนยันว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการดำเนินคดีกับพวกตนเองทั้ง 3 คน อาจไม่ชอบมาพากล ตอนนี้เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว นับตั้งแต่เป็นคดี แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งให้อัยการทราบ แสดงให้เห็นเจตนาในการจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากอธิบดีอัยการ



ด้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า กรณีนี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน จากความเข้าใจผิดของอดีตตำรวจกลุ่มนี้ที่ตีความข้อกฎหมายไปอีกแนวทางหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาไม่เห็นสำนวนทั้งหมด อีกทั้งชุดสอบสวนยังได้แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์อีกหนึ่งข้อหา ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง โดยได้มีการแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 149 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ไปแล้ว ส่วน พ.ร.บ.อุ้มหาย

หลังจากนี้จะต้องมีการหารือร่วมกับอัยการ เพราะยังมีบางส่วนของข้อกฎหมายที่อาจจะไม่เข้าข่ายการกระทำความผิด ที่ผ่านมาชุดทำงานได้มีการทำคดีบ้านเด็กที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย เป็นคดีแรก ส่วนคดีตบทรัพย์ 140 ล้านบาท จะรับเป็นคดีที่ 2 ในประเทศ หากครบองค์ประกอบในการกระทำความผิด ทำให้ต้องหารือกับอธิบดีอัยการอีกครั้งหนึ่ง



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์มองว่าการที่มี พ.ร.บ.อุ้มหาย ออกมา ก็ยังพบว่าตำรวจยังต้องมีการทำความเข้าใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นกฎหมายใหม่ แต่ถึงแม้กลุ่มนายตำรวจจะไปร้องอธิบดีอัยการก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ์ในการต่อสู้คดี



ส่วน พลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะมีการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 5 วัน ขณะนี้ยังไม่ส่งคำให้การมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งจะครบกำหนดในวันจันทร์หน้า

คุณอาจสนใจ

Related News