“วิโรจน์” เชื่อ 99% รีดไถแม่ค้ากล้วยแขกไม่ใช่ตำรวจ มองเป็นการแอบอ้างเจ้าหน้าที่

“วิโรจน์” เชื่อ 99% รีดไถแม่ค้ากล้วยแขกไม่ใช่ตำรวจ มองเป็นการแอบอ้างเจ้าหน้าที่ จี้ผู้การฯนนทบุรีหาตัวมาลงโทษให้ได้ ลั่น ทุเรศเกินไป เพราะส่วนใหญ่ตำรวจจะรีดไถแต่อาชีพที่มีช่องว่างทางกฎหมายให้เรียกเก็บส่วย



(21 มิ.ย.2566) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจรีดไถเงินแม่ค้าขายกล้วยแขก ว่า ภายหลังจากที่ตนได้ทวีตข้อความ แสดงความคิดเห็นไป ยังไม่มีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่ได้เป็นตำรวจจริง โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มองว่าเรื่องนี้เสื่อมเสียต่อสถาบันตำรวจ โดยเฉพาะในพื้นที่นนทบุรี ซึ่งหากนำคลิปมาตรวจสอบ ตนคิดว่าน่าจะเห็นป้ายทะเบียนชัดเจน และไม่ได้เป็นเรื่องยากที่ผู้การนนทบุรีจะจับตัวผู้ต้องหารีดไถแม่ค้ามาสอบสวนดำเนินคดี



“ปกติตำรวจจะไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่พ่อค้าแม่ขาย และพ่อค้าแม่ค้ากล้วยแขกไม่ได้มีประเด็นที่ผิดกฎหมายอะไร ส่วนใหญ่ตำรวจบางนายที่มารีดไถประชาชนหรือผู้ประกอบการ เขาจะฉวยเอากฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับการปฎิบัติจริง ไม่ทันสมัย ที่ทำให้คนสุจริตไม่ได้มีเจตนาทำอะไรไม่ดีกับสังคม แต่ต้องผิดกฏหมายโดยที่ไม่ควรจะเป็น เอาช่องว่างทางกฎหมายมาหากิน แต่กรณีนี้ผมไม่เห็นว่าแม่ค้ากล้วยแขกจะทำอะไรที่ผิดกฎหมาย” นายวิโรจน์ กล่าว



นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรณีนี้น่าจะเป็นการสวมรอยเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า เพราะแม่ค้าขายกล้วยแขกเป็นค้นหาเช้ากินค่ำ



“ผมไม่เชื่อว่าจะทุเรศขนาดนี้ ลองเปรียบเทียบกับพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล อย่างนี้มีสิทธิ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าต้นทุนสลากที่รับมาขาย 80 บาทไม่ได้ จึงมีช่องว่างที่ทำให้ตำรวจบางคนไปกวาดจับขึ้นรถกระบะแล้วมารีดไถให้โอนเงินเข้าบัญชีม้าทุกเดือน อย่างนี้เป็นไปได้ เนื่องจากกฎหมายไม่คำนึงถึงความเป็นจริง แต่กล้วยแขกหาร่องรอยของการทำผิดกฏหมายไม่ได้เลย” นายวิโรจน์ กล่าว



เมื่อถามว่าตำรวจควรดำเนินการอย่างไรบ้าง และมีกรณีนี้อีกมากหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่าตนคิดว่ามีมาเฟียจริง มีมิจฉาชีพจริง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้บางทีก็มีตำรวจให้ท้าย บางครั้งตำรวจไม่ได้ทำแต่ก็ไปให้ท้าย พวกมีอิทธิพล กลุ่มอันธพาล หรือบางครั้งกลุ่มที่เป็นมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลข้ามชาติก็เป็นผู้สนับสนุนนายตำรวจ เพื่อให้ตัวเองทำตามอำเภอใจก็ได้ ตนมองว่ากรณีกล้วยแขกไม่ได้กระจอกขนาดนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ออกตัวแรง แต่เชื่อว่า 99% ไม่ใช่ตำรวจทำ และตำรวจจะปล่อยนิ่งเฉยไม่ได้เพราะจะมีกรณีนี้อีกมาก

ล่าสุด วันที่ 21 มิ.ย.2566 เวลา 08.30 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณร้านกล้วยแขก แห่งหนึ่งย่าน  ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามถึงกรณีมีกลุ่มบุคคลขับรถเข้ามาในพื้นที่และยังแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนถึงเดือนละ 3,500 บาท พร้อมให้ติดสติกเกอร์ไว้ที่ร้านเพื่อเป็นการระบุว่าร้านนี้จ่ายเงินแล้วจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในระแวกนั้นๆ ว่าเป็นมิจฉาชีพแอบอ้างหรือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่อย่างไร



จากการลงพื้นที่พบ น.ส.อติกานต์ หรือ แหว๋ว อายุ 46 ปี เจ้าของร้านขายกล้วยทอดดังกล่าว เล่าว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 12.55 น.น้องที่ร้านได้มาบอกกับตนว่าเดียววันนี้ช่วงประมาณ 10 โมงกว่าๆ จะมีคนเขามาเก็บเงิน พร้อมกับยื่นสติกเกอร์รูปสิงโตอันเล็กๆ แล้วมีตัวหนังสือเขียนอยู่ด้านหลังว่า "มิถุนายน" พร้อมกับมีลายเซ็นต์กำกับอยู่ด้านล่าง ตนก็งงว่าใครจะมาเก็บเงินแล้วจะมาเก็บเงินค่าอะไร ถามน้องน้องก็บอกไม่รู้เรื่อง แค่มีผู้ชายเดินเข้ามาคุยแล้วมอบสติกเกอร์นี้ให้มา พอเวลาประมาณเกือบบ่ายโมงก็มีกลุ่มชายประมาณ 4 คน ขับรถเข้ามาจอดหน้าร้าน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจมาขอเก็บเงินประจำเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่เคยต้องจ่ายเงินให้ใคร สติกเกอร์แบบนี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

จากที่เห็นหน้าคิดว่าไม่น่าจะใช้คนในพื้นที่ เพราะไม่คุ้นหน้าเลย เพราะตนเปิดร้านขายมานานกว่า1ปีแล้ว กลุ่มผู้ชายดังกล่าวมีรูปร่างหน้าตาดูดี ดูคล้ายตำรวจ โดยนั่งรถมากันทั้งหมด 4 คน  ขับรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียน 9สญ 399 กทม.แต่ไม่มีใครลงจากรถทำให้ตนเห็นหน้าไม่ชัด พอบอกให้เขาลงจากรถมาคุยกันเขาก็ไม่ลง ตนอยากรู้เหตุผลที่มาเก็บเงินที่ร้านของตนทำไมก็ไม่ยอมตอบ พอตนยืนยันว่าไม่ให้เงิน เขาก็ขับรถออกไปเลย ตอนนี้รู้สึกกังวลในเรื่องของความปลอดภัยมากกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เพราะตอนนี้ก็มีกลุ่มคนหลายคนเข้ามาหาตน ทั้งนักข่าว ทั้งตำรวจ แต่ก็ต้องเปิดร้านขายของทุกวันเพราะตนก็ต้องกินต้องใช้จะเจออะไรก็ต้องเจอ ต่อมาเมื่อคืนวันที่ 20 มิ.ย.ตนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางแม่นาง เพื่อสอบถามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ทางผกก.สภ.บางแม่นาง ติดเข้าร่วมประชุมไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่าจากกรณีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้แบ่งเป็นสองประเด็นคืออาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงแต่เป็นตำรวจนอกพื้นที่กับคนมาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อน เบื้องต้นตรวจสอบแล้วไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แน่นอน