'ชัยธวัช' ขอบคุณ 'พท.' ชัดเจนเรื่องประธานสภา - แชทไลน์หลุดเด็กเพื่อไทย โวยพรรคยกเก้าอี้ให้ก้าวไกล

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่มีท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันดีขึ้น แต่ก็ต้องมีการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอีกครั้ง ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ

-----------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้แจงถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร จนเกิดการตีความว่า พรรคเพื่อไทยยอมถอยให้พรรคก้าวไกล ว่า

ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เพราะเพิ่งจะมีการพูดคุยไปเพียง 1-2 ครั้ง ตั้งแต่เกิดข้อถกเถียงกัน เพราะความแตกต่างของทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย มี ส.ส.ต่างกันไม่มาก

-----------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภา ว่า

เรามีกระบวนการพูดคุยกระบวนการเจรจาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น พรรคแกนนำหรือพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ที่มีเสมือนข้อตกลงร่วมกัน ต่างฝ่ายก็ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเจรจา แต่ก็ยังไม่ใช่ข้อยุติ หรือข้อตกลงร่วมกัน โดยสรุปแต่ละพรรคก็ไปคุยกันในพรรคของตัวเอง เพราะฉะนั้นข่าวที่ได้รับมาก็จะเป็นลักษณะเนื้อในของแต่ละคณะทำงาน

-----------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทย ภายหลัง กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 500 คน โดยในกลุ่มไลน์ที่มีว่าที่ส.ส.ของพรรคอยู่เป็นกว่า 100 คน แสดงความไม่พอใจ ต่อการให้สัมภาษณ์ของแกนนำพรรคที่ระบุว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร มีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล จนได้ข้อสรุปแล้ว โดยพรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ

ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะรับตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 เนื่องจากมติดังกล่าวเป็นเพียงการพูดคุยหารือกันภายในระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่กี่คนกับตัวแทนของพรรคก้าวไกล ทั้งที่ เรื่องนี้ควรมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคกันเป็นการภายในก่อน ซึ่งจะมีการสัมมนาว่าที่ ส.ส.ของพรรค ในวันที่ 21 มิถุนายน นี้ ที่โรงแรม เอส ซี ปาร์ค แล้วจึงค่อยมีการแถลงข่าวเป็นมติพรรค

ทั้งนี้การพูดคุยในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ว่าที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทยยังมองว่าการตัดสินใจดังกล่าวของแกนนำพรรคไม่ยึดโยงกับ ส.ส. ทำเหมือนว่า ส.ส.ไม่มีราคามีหน้าที่รอฟังคำสั่งอย่างเดียว จะทำให้พรรคไม่เป็นสถาบันทางการเมือง พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ควรมีการหารือ และบอกความคืบหน้าของสถานการณ์ให้สมาชิกทราบ

โดยเฉพาะ ตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ ควรมีการลงมติกันในพรรคก่อน เพราะตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักด้านนิติบัญญัติ ที่ต้องคานอำนาจกัน เมื่อพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งฝ่ายบริหาร ส่วนอำนาจนิติบัญญัติควรจะเป็นพรรคอื่นๆ ที่สมาชิกเห็นว่ามีความเหมาะสม เพราะอำนาจนิติบัญญัติจะต้องมีการตรวจสอบ และ ถ่วงดุลกับ อำนาจบริหาร

-----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8lkSYJ4Ggm0