ทหารหนุ่ม นั่งทานข้าวกับกลุ่มเพื่อน ลมพัดร่มล้ม ก้านร่มแทงใต้ตาทะลุจมูก

เมื่อเวลา 17.10 นาฬิกา วันที่ 16 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รับแจ้งเหตุมีคนถูกก้านร่มแทงใต้ดวงตาทะลุออกจมูก เหตุเกิดที่บริเวณท่าน้ำหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานชุดตัดถ่างนำอุปกรณ์ตัดถ่างเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุ เป็นม้าหินอ่อนที่นั่งพักผ่อนริมแม่น้ำ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย ถูกก้านร่มยาวประมาณ 70 เซนติเมตร แทงเข้าบริเวณใต้ดวงตาข้างซ้ายทะลุไปออกในโพรงจมูกด้านขวา ก้านร่มเสียบคาอยู่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลได้ อีกทั้ง บริเวณบาดแผลที่ถูกก้านร่มแทงยังมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องทำการห้ามเลือดและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะตัดสินใจใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาตัดเอาก้านร่มออกจากตัวร่ม โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถตัดก้านร่มออกและนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษา พร้อมทำการเอ็กซ์เรย์ว่าก้านร่มไปถูกเข้ากับอวัยวะสำคัญภายในร่างกายส่วนใดหรือไม่ เบื้องต้น พบว่า ก้านร่มไม่กระทบกระเทือนกับดวงตาและอวัยวะสำคัญใดๆ แพทย์จึงทำการช่วยเหลือนำก้านร่มออกมาได้อย่างปลอดภัย

ทีมข่าวสอบถามไปยังนายประเสริฐ ประเสริฐศักดิ์ หัวหน้าชุดตัดถ่าง มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บรายนี้ คือ สิบเอกปานชัย  อายุ 32 ปี ทหารสังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ สิบเอกปานชัยพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ได้นัดหมายมานั่งรับประทานอาหารที่ริมท่าน้ำหนองบัว เพื่อรับลมเย็นๆ ปรากฏว่า ในระหว่างกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ ได้มีลมพัดมาอย่างแรง ส่งผลให้ร่มกันแดดขนาดใหญ่ที่ทางร้านค้ากางให้กับลูกค้า ถูกลมพัดจนล้มลงมาใส่โต๊ะที่สิบเอกปานชัยและเพื่อนนั่งทานอาหารกันอยู่ โดยเพื่อนของสิบเอกปานชัยลุกหนีได้ทัน แต่สิบเอกปานชัยหลบไม่ทันจึงถูกก้านร่มเสียบเข้าที่บริเวณใต้ดวงตาข้างซ้ายและไปทะลุออกบริเวณโพรงจมูกด้านขวา

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ก้านร่มยังคงติดอยู่กับตัวร่มและก้านร่มได้แทงทะลุเข้าไปค่อนข้างลึก จึงไม่สามารถดึงก้านร่มออกได้ทันที จึงตัดสินใจใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมา ตัดก้านร่มที่มีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตรออกได้สำเร็จ ก่อนจะนำตัวสิบเอกปานชัยส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการรักษาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังนับว่าโชคดี ที่ก้านร่มไม่เป็นสนิมและไม่แทงเข้าที่บริเวณดวงตา ทั้งนี้ อยากจะฝากเตือนไปถึงผู้ที่นั่งทานอาหารใต้ร่มกันแดดขนาดใหญ่ รวมถึงเจ้าของร้านที่กางร่มกันแดดให้กับลูกค้าในพื้นที่ที่มีลมพัดแรง ควรหาเชือกหรืออุปกรณ์ที่แน่นหนามาผูกร่วมไว้ ไม่ให้ถูกลมพัดจนล้มได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเหมือนเช่นในครั้งนี้ได้