สังคม

เปิดคำแถลง 'ไอทีวี' เทียบคลิปประชุม หาข้อสรุปยังดำเนินกิจการ 'สื่อ' หรือไม่?

โดย panwilai_c

15 มิ.ย. 2566

133 views

ครบ 1 สัปดาห์ที่ ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบประเด็นหุ้นไอทีวี ทั้งการตรวจสอบสถานะไอทีวีประกอบกิจการสื่อหรือไม่ และข้อพิรุธงบการเงิน



วันนี้บริษัทไอทีวี มีหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้น ทั้ง 3 ประเด็น ทั้งกรณีบันทึกการประชุมที่ไม่ตรงกัน โดยระบุว่า เป็นการบันทึกแบบสรุปคำตอบ ไม่ใช่คำต่อคำ และไม่ได้ต้องการสื่อสารว่าบริษัทยังประกอบกิจการสื่ออยู่ ส่วนงบการเงิน ปี 2565 เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ ส่วนงบการเงินไตรมาส 1/2566 เป็นฉบับร่างที่ไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานภายนอกบริษัทได้ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ ซึ่งข่าว 3 มิติตรวจสอบกับนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน พบว่า ยังมีความไม่ชัดเจนอีกหลายประเด็น



บริษัท ไอทีวี ชี้แจงผู้ถือหุ้น ใน 3 ประเด็นสำคัญ ตามที่ ข่าว 3 มิตินำเสนอข่าวไปในประเด็นแรกกรณีเอกสารบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 ไม่ตรงกับเอกสารบันทึกการประชุมนั้น



บริษัทไอทีวี ชี้แจงว่า ในการประชุมมีทั้งหมด 9 วาระ วารที่ 1 ถึง วารที่ 8 เป็นวาระรายงาน/อนุมัติและพิจารณาการดำเนินการทางธุรกิจตามการค้าปกติของบริษัท ส่วนวาระที่ 9 เป็นวาระอื่น ๆ ซึ่งไม่ได้มีผู้ถือหุ้นเสนอวาระเพื่อพิจารณาและอนุมัติเพิ่มเติม บริษัทจึงเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นชักถามในเรื่องอื่น ๆ



ในการประชุม ดังกล่าว มีคำถามที่ซ้ำซ้อนจากผู้ถือหุ้นหรือเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัท ดังนั้น การจัดทำบันทึกคำถามและคำตอบในรายงานการประชุม บริษัทจึงได้สรุปสาระสำคัญของคำถามและคำตอบในระหว่างการประชุม เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัทเท่านั้น เพื่อให้มีความกระชับและชัดเจนโดยมิได้จดบันทึกการประชุมเป็นคำต่อคำ



ทั้งนี้ การบันทึกรายงานการประชุมที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ เป็นการสรุปคำตอบจากคำถามหลายข้อที่ผู้ถือหุ้นส่งเข้ามา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องสิทธิตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ฯ นั้น บริษัทได้บันทึกรายงานการประชุมไว้แล้วในวาระ 9 หน้า 14 ว่า "ผลคดีเป็นจุดสำคัญที่สุด หากผลคดียังไม่ออก เป็นไปได้ยากมากที่บริษัทจะดำเนินการใดๆ ในขณะนี้"



สำหรับในส่วนที่มีการบันทึกรายงานการประชุมว่า "ปัจจุบัน บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ" นั้น บริษัทไม่ได้ต้องการจะสื่อสารว่าบริษัทยังประกอบกิจการสื่ออยู่ แต่หมายถึงบริษัทยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยมิได้มีการเลิกกิจการแต่อย่างใด



ประเด็นที่ 2 ในส่วนของแบบนำส่งงบการเงิน หรือ ส.บช.3 ของบริษัทประจำปี 2565 ที่บริษัทยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชข์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 บริษัทไอทีวีชี้แจงว่า รายได้จาก การประกอบธุรกิจของบริษัทได้แสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัท ประจำปี 2565 ซึ่งได้มีการตรวจสอบ และลงนามรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และ ได้ยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในงบการเงินดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นว่า รายได้ของบริษัทมาจากผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับเท่านั้น ซึ่งงบการเงินฉบับดังกล่าว บริษัทได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 เช่นกัน



ส่วนประเด็นที่ 3 เรื่อง งบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัทที่มีการโพสต์ในเว็บไซต์ www.itv.co.th ตามที่มีข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น บริษัทชี้แจงว่า ทราบว่างบดังกล่าวเป็นเพียงร่างงบการเงินที่ใช้ภายใน บริษัทและยังไม่ได้มีการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชี จึงยังไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานภายนอกบริษัทได้ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ



บริษัทไอทีวี ย้ำด้วยว่า การดำเนินการประชุมการจัดทำรายงานการประชุม การนำส่งแบบนำส่งงบการเงินงบการ เงิน และการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทเป็นการดำเนินการทางธุรกิจตามปกติและเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ



จากหนังสือชี้แจงของบริษัทไอทีวี ไม่ได้ระบุว่า คลิปบันทึกวิดีโอไม่จริง แต่เหตุที่ข้อความในเอกสารไม่ตรงกับคลิปวิดีโอเพราะไม่ได้บันทึกคำต่อคำ แต่จากคลิปที่ข่าว 3 มิติ มีอยู่ พบว่า การบันทึกข้อความในวาระที่ 9 ในช่วงก่อนถามตอบมีการบึนทึกแบบคำต่อคำ ระบุไว้ในหน้า 13 ของเอกสาร ส่วนหน้า 14 ที่เป็นช่วงถามตอบ มีการสลับคำถามระหว่าง นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน และนายวิรัตน์ คล่องประกิจ ซึ่งบันทึกคำตอบของ นายภาณุวัฒน์ ไม่ตรงกับในคลิปทุกถ้อยคำ แต่บันทึกคำตอบของ นายวิรัตน์ กลับบันทึกตรงกัน



ส่วนคำชี้แจงว่าถึงคำตอบของนายภาณุวัฒน์ ที่บันทึกในเอกสาร ไม่ได้บอกว่า ไม่จริง แต่บอกว่าไม่ได้ต้องการสื่อสารว่ายังประกอบกิจการสื่อ แต่หมายถึงบริษัทยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยมิได้มีการเลิกกิจการแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อตรวจสอบกับวัตถุประสงค์ของบริษัทไอทีวี พบว่ามี ข้อ 18 ระบุว่าประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ และออกหนังสือพิมพ์ ข้อ 40 ข้อ ถึง 43 ที่ระบุว่าประกอบกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์เคเบิ้ลทีวี รับจ้างโฆษณา ปลิตสารคดีเป็นต้น ซึ่งในประเด็นนี้นักกฏหมายมองว่าอาจนำไปสู่การตีความได้ว่า บริษัทไอทีวี ยังดำเนินการสื่อยู่หากมีหลักฐานมายืนยัน



สำหรับการชี้แจงเรื่องงบการเงินปี 2565 มีการตั้งข้อสังเกตจาก นางสาวสฤณี อาชวานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินว่า แม้ทางบริษัทยืนยันว่า รายได้ในปี 2565 เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับเท่านั้น แต่บริษัทไอทีวี ไม่ได้อธิบายว่า ทำไมแบบ ส.บช.3 แบบนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ถึงได้ระบุ สื่อโฆษณา ในช่องสินค้าและบริการ ทั้งๆที่ในปี 2565 ไม่มีการทำธุรกิจและไม่มีรายได้จากธุรกิจนี้ รวมถึงร่างงบการเงินไตรมาส 1 /2566 เป็นฉบับร่างที่ไม่สามารถใช้ไปอ้างอิงได้ ดังนั้นหลักฐานที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นต่อ กกต.จึงใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นเอกสารชุดเดียวกัน



คำชี้แจงของไอทีวีวันนี้ จึงยังไม่สามารถทำให้การตั้งคำถามถึงประเด็นการปลุกคืนชีพไอทีวีเป็นสื่อตกไป เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้ตอบ โดยข่าว 3 มิติยังคงพยายามติดต่อสัมภาษณ์นายคิมส์ สิริทวีชัย ผู้บริหารบริษัทอินทัช และ บริษัทไอทีวี เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วยตัวเอง

คุณอาจสนใจ

Related News