‘โจ๋หัวร้อน’ ชี้หน้าด่าตำรวจอ้วนพุงพลุ้ย ของขึ้นต่อหน้าสาว โกรธจัดถูกเรียกตรวจรถ

เปิดนาที “โจ๋กร่าง” หัวร้อนกลางถนน ชี้หน้าด่าตำรวจอ้วนพุงพลุ้ย โกรธจัดหลังถูกเรียกตรวจ จยย. ไม่ติดกระจกมองข้าง ไม่มีป้ายทะเบียน

กรณีเหตุการณ์ที่วัยรุ่นรายหนึ่งมีปากเสียงและด่าทอตำรวจ สน.ฉลองกรุงด้วยถ้อยคำหยาบคาย แถมมีท่าทีเหมือนจะเข้าไปทำร้ายตำรวจด้วย โดยจากในคลิปจะเห็นว่าแฟนสาวของวัยรุ่นคนนี้พยายามห้าม แต่วัยรุ่นรายนี้ไม่ฟังยังมีท่าทีหัวร้อนไม่ยอมหยุด

โดยวัยรุ่นรายนี้นอกจากจะด่าตำรวจแล้วยังบูลลี่ตำรวจหลายอย่างเช่น มาจับทำไมแค่มอเตอร์ไซด์ กระบะซิ่งทำไมไม่ไปจับ ตำรวจอ้วนพุงพลุ้ยแบบนี้จะไปจับใครได้

จากนั้นวัยรุ่นรายนี้ได้โทรศัพท์ไปหาคนๆหนึ่งและเรียกปลายสายว่าพ่อ สอบถามว่าตำรวจยึดกุญแจรถมอเตอร์ไซด์ได้หรือไม่ เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย วัยรุ่นรายนี้ก็ด่าตำรวจและทวงคืนกุญแจมอเตอร์ไซด์จากตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ซึ่งตลอดระยะเวลาเหตุการณ์ที่ถ่ายคลิปไว้ 3 นาที จะเห็นได้ว่าตำรวจ ไม่ได้ด่าตอบโต้ หรือใช้ความรุนแรงกับวัยรุ่นรายนี้ บอกแค่เพียงว่าส่งตัวไปให้ร้อยเวรแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริ์นพาร์ท 6 โพสต์ข้อความว่า ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องกลัว ยุคสมัยนี้มันหมดแล้วมั้งที่จะมายัดข้อหา

สื่อโซเชียลมันไว แหกปากโวยวายด่าทอไม่ให้เกียรติก่อนแล้วจะมาเรียกร้องเอาอะไร สิ้นแล้วมนต์ขลังสำหรับคำว่าตำรวจหรือผู้พิทักษสันติราษฎร์ ผู้กระทำผิดยังไม่เกรงกลัว ใครทำให้องค์กรตำรวจตกต่ำและหมดความน่าเชื่อถือและอ่อนแอลงในยุคที่ผู้บังคับบัญชาของตำรวจสร้างภาพว่าเขาทำดี ที่กำลังพลหรือผู้ปฏิบัติเป็นแบบนี้เพราะผู้นำหัวหดกลัวสื่อเอาตัวรอดอย่างเดียว

ลูกน้องหรือผู้ปฏิบัติก็ทำงานกันไปอย่างขาดขวัญและกำลังใจ จึงได้เห็นคลิปแบบนี้ออกมาสู่สื่อโซเชียลบ่อยๆ เวรกรรมของลูกน้องและมีความเสี่ยงสูงไม่มีนายปกป้อง ผู้กำกับการ สน.ฉลองกรุงอย่างเงียบนะครับ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ออกมาปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบริเวณแยกเจ้าคุณทหาร ถนนฉลองกรุง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ปรากฏในคลิป ทราบว่าวันเกิดเหตุคือตอน 5 โมงเย็นของวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา

โดยขณะที่ ดาบตำรวจเกรียงศักดิ์ สงเนย กำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร วัยรุ่นคนดังกล่าวได้ขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมา โดยพบว่าไม่มีกระจกมองข้างและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ดาบตำรวจเกรียงศักดิ์จึงให้วัยรุ่นรายนี้จอดเพื่อขอตรวจดูใบขับขี่ จนทราบว่าชื่อนายนรินทร์ภัทร ดำรงพลรัตน์ จากนั้นนายนริทน์ภัทรก็มีท่าทีไม่พอใจที่ถูกตำรวจเรียกตรวจ และด่าทอตำรวจอย่างที่ปรากฏในคลิป

ขณะที่พันตำรวจเอกรัฐชัย ศรีวิชัย ผู้กำกับการ สน.ฉลองกรุงเปิดเผยว่า ตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายนรินทร์ภัทร 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก เรื่องไม่มีกระจกมองข้างและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้ว

ส่วนที่สองดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งเป็นคดีอาญา โดยได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรี และศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก 2 เดือนปรับ 1 พันบาท ซึ่งนายนรินทร์ภัทรให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/QWBIMlMuiLM