สังคม

ศาลตัดสินจำคุก ชดใช้ 4 ล้านสาวเมาแล้วขับชนน้องอ๊อฟกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง

โดย onjira_n

12 มิ.ย. 2566

2.3K views

ความคืบหน้ากรณีนางสาวดวงกมล วุฒิโรธง แม่ของนายธนกฤต วุฒิโรธง หรืออ๊อฟ นักแสดงจากภาพยนตร์ 16 ห้าว 19 เดือด ที่ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องนั่งรถกู้ภัยฯเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกายถึงหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกิน อ.เมืองลำพูน ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านม หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งที่อยู่ในอาการมึนเมา ขับรถยนต์มาชนท้ายรถจยย.ของอ๊อฟอย่างจัง ทำให้อ๊อฟหัวฟาดพื้น กะโหลกศีรษะร้าว อาการสาหัส กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่บัดนั้น และจนถึงบัดนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้ออยู่ที่บ้าน



ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดลำพูน ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีที่นางสาวดวงกมล แม่ของน้องอ๊อฟ ได้ยื่นฟ้องนางสาวลัคกี้ คู่กรณีขับรถชนจักรยานยนต์ อ๊อฟ ซึ่งคู่กรณีได้รับสารภาพในคดีอาญาตั้งแต่การสืบพยานก่อนหน้านี้ ส่วนคดีแพ่งผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายประกอบด้วยค่าขาดรายได้ ซึ่งได้คำนวนคร่าวๆจากการการแสดงของนายธนกฤต วุฒิโรธง หรืออ๊อฟ เฉลี่ยวันละ 3,500 บาท ตั้งแต่เกิดเหตุ 2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างรักษาตัว 2 ล้านบาท ค่าตกเป็นบุคคลไร้ความสามารถ 1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรักษาและดำรงชีพอนาคต 3 ล้านบาท



ด้านนายเหมวัต อภิวัง ทนายความฝ่ายโจทย์ เปิดเผยหลังออกจากห้องพิจารณาคดีพร้อมกับนางสาวดวงกมล  แม่ของอ๊อฟ ดาราหนุ่ม ว่าในส่วนของคดีอาญาเมาแล้วขับ และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับเป็นเงิน 4 หมื่นบาท จำเลยสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท จำเลยทำผิดครั้งแรก ชดเชยค่าเสียหายให้โจทย์บางส่วนให้รอลงอาญา 2 ปี พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถ 2 ปี และให้คุมประพฤติและทำงานบริการสังคมครบ 2 ปี



ส่วนคดีแพ่ง ศาลตัดสินให้จำเลยชดใช้โจทย์รวมเป็นเงิน 4,172,962.62 บาท และให้จำเลยชดให้ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้กับโจทย์ร่วมด้วย ส่วนการอุทธรณ์คดีต้องปรึกษากับลูกความก่อนหลังจากอ่านผลการพิจารณาคดี ภายใน 30 วันหลังศาลตัดสิน



ขณะที่นางสาวดวงกมล  แม่ของดาราหนุ่มอ๊อฟ เปิดเผยว่าหลังลูกชายถูกรถชนตนและครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานมานานนับไปในการดูแลลูกชายที่ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงสูญเสียรายได้จำนวนมาก หลังทราบคำพิพากษา หลังจากนี้ต้องปรึกษากับทนายความว่าอุทธรณ์คดีหรือไม่ และขอดูรายละเอียดว่าค่าชดใช้จะเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ตนมีค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกชายเป็นจำนวนมากทั้งค่ากายภาพบำบัด ค่ายานอกบัญชี ค่าอาหารผู้ป่วย และค่าอื่นๆเฉลี่ยเดือนล่ะไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท ทุกวันนี้ตนต้องดูแลลูกชายตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาว่างทำหมี่กรอบขายในโซเชียล บางครั้งก็รับจ้างเย็บพรมเช็ดเท้าหารายได้นำเงินมาดูแลลูกชาย



คุณอาจสนใจ