ตร.เข้าค้นร้านอาหาร-บ้านพัก ขยายผลจับกุมแก๊งคนจีนหลอกขายวัตถุมงคลเพิ่มใน จ.ชลบุรี

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เข้าจับกุมแก๊งชาวจีนหลอกขายวัตถุมงคล ตามวัดในเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี วันนี้ชุดทำงานของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ขยายผลการจับกุมเพิ่มเติม โดยเข้าค้นร้านอาหารจีนและบ้านพักในจังหวัดชลบุรี ที่มีส่วนเชื่อมโยงเส้นทางการเงินกับแก๊งชาวจีนหลอกขายวัตถุมงคลตามวัด


ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ นำหมายศาลจังหวัดพัทยา เข้าตรวจค้นพื้นที่ 2 จุด เพื่อขยายผลการจับกุม หาหลักฐานเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับแก๊งชาวจีน 12 คน ที่หลอกขายวัตถุมงคลให้กับนักท่องเที่ยวในวัดเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังออกหมายจับชาวจีนเพิ่มอีก 2 คน ข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยจุดแรกเข้าค้นคือที่ร้านอาหารไทยจีน ตั้งอยู่บนถนนพัทยานาเกลือ พบพนักงาน 10 คน เป็นคนไทย 4 คน เมียนมาร์ 4 คน และ ชาวจีน 2 คน ตรวจยึด เครื่องรูดบัตรเครติด เอกสารๆที่พบในร้านไปตรวจสอบ


จุดที่สองเข้าค้นที่บ้านพักในหมู่บ้านพัทยาฮิลล์วิลเลจ 2 ซึ่งเป็นบ้านพักของชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ พบเพียงชาวจีนเป็นผู้หญิง 2 คน และเด็ก 1 คน โดยอ้างว่าเป็นผู้เช่าบ้าน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เบื้องต้นไม่พบหลักฐานอะไรที่เกี่ยวข้องกับชาวจีนที่ออกหมายจับ


พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการ ตม.จันทบุรี หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นแม้จะไม่ได้ตัวชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ แต่ได้ยึดเอกสารและเครื่องรูดบัตรเครดิตจากร้านอาหารไปตรวจสอบ เนื่องจากพบว่ามีการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้รูดชำระค่าเช่าวัตถุมงคลภายในวัดเขาชีจรรย์ และยังพบว่าข้อสังสัยในการทำธุรกรรมกับทางวัด คล้ายนิติกรรมอำพรางโดยใช้คนไทยเป็นนอมินีให้ ซึ่งจะต้องขยายผลรวบรวมหลักฐานต่อไป เบื้องต้น ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่วัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ในแนวทางการสืบสวนอย่างมาก


ส่วนการที่ชาวจีนมาดำเนินกิจการจำหน่ายวัตถุมงคลตามวัด จะมีคนไทยเป็นคนกลาง หรือ เป็นนอมินีให้ ซึ่งในปัจจุบันมีความพยายามตัดตอน และ ชาวจีนก็มีความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น จึงมีคนไทยเข้าไปดำเนินการทางนิติกรรมแทนคนจีน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานแล้วว่ามีชาวจีนเป็นผู้รับผลประโยขน์และเป็นเจ้าของกิจการตัวจริงอยู่เบื้องหลัง ส่วนกรณีทางวัดจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ของวัด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ในแนวทางการสืบสวนอย่างมาก หลังจากนี้จะใช้เวลาอีกสักระยะในการตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานสัญญาต่างๆ เพื่อการขยายผลต่อไป