ข่าวโซเชียล
สธ.แจงดรามาหมอจบใหม่ราว 1 ใน 3 ลาออก เผยมีวิธีจัดสรร
โดย panwilai_c
3 มิ.ย. 2566
424 views
ปัญหาเรื่องบุคลากรทางด้านสาธารณสุขในโรงพยาบาลของรัฐขาดแคลนเป็นประเด็นร้อนที่มีการพูดคุยกันในเพจของคนในวงการหมอ พยาบาล โดยโพสต์ถึง ปัญหาแพทย์จบใหม่เเห่ลาออก เกือบ 1 ใน 3 จนเกิดปัญหาแพทย์ขาดแคลน
จากโพสต์หนึ่งของเพจเรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ออกมาระบุ กระแสข่าวแพทย์จบใหม่ลาออกกันเยอะมาก พร้อมระบุ ข้อมูล จำนวนแพทย์ จบใหม่ 2,700 คน สมัครใจลาออก แล้วกว่า 900 คน
โดยให้เหตุผลที่หลากหลาย ทั้งภาระงานหนัก งานเกินหน้าที่ คุณภาพชีวิตแย่ จากการอยู่เวรเยอะจนไม่มีเวลาพักผ่อน รวมไปถึงเรื่องค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า เงินออกช้า 3 เดือนขึ้นไป จึงทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องถึงบุคคลากรส่วนอื่นๆที่ต้องรับภาระงานเพิ่มขึ้นจากอัตรากำลังไม่เพียงพอ
หรือโพสต์ล่าสุดของเพจสหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ที่โพสต์ ปัญหาจากคุยกับเพื่อนหลาย รพ.ศูนย์แถบภาคใต้ แต่ละที่ต้องเปิดรับแพทย์จบใหม่จากต่างประเทศและจากโรงเรียนแพทย์เอกชนเพิ่มเอง เพราะอัตรากำลังที่กระทรวงสาธารณสุข ประเมินและจ่ายมาให้ไม่เพียงพอ ถ้าปัญหายังคงต่อเนื่อง จุดจบคิดได้ไม่ยากเลย คงจะเป็นการลาออก , ประท้วง
ขณะที่โพสต์นี้มีการแชร์จำนวนมาจากเพจกระทรวงสาธาณรสุขเป็นคลิปการทำงานของแพทย์จบใหม่ท่านหนึ่งที่งานค่อนข้างยุ่ง พร้อมกับมีการตั้งคำถามว่าไหวมั๊ย ซึ่งมีการเข้าแสดงความเห็นจำนวนมาที่บอกว่า ไม่ไหว บอกไหว แต่ล่าสุดโพสต์ดังกล่าวถูกลบไปแล้ว
หลังมีกระแสดรามา ทางการกระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า แพทย์ที่จะไปปฏิบัติชดใช้ทุนส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มี 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มแพทย์โครงการที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมผลิต และ 2) กลุ่มแพทย์ใช้ทุนโครงการทั่วไป ที่ผลิตโดยสถาบันแพทยศาสตร์ (กสพท.) โดยในปี 2566 ได้รับจัดสรรแพทย์ใช้ทุนปี 1 จำนวน 2,014 คน
ส่วนที่บางเขตสุขภาพได้รับจัดสรรแพทย์ลดลง เมื่อดูข้อมูลย้อนหลังจะพบว่าเป็นเขตสุขภาพที่เคยได้มากมาก่อน จึงเป็นการเฉลี่ยในแต่ละปี หากโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลทั่วไปที่มีภาระงานมาก เขตสุขภาพยังมีวิธีการบริหารจัดการ เช่น จัดให้แพทย์ใช้ทุนปี 2 และ 3 มาช่วยปฏิบัติงานในโรงพยาบาล เพิ่มเติมได้ และยังมีแพทย์ที่อยู่ระหว่างการอบรมเพิ่มพูนฝึกทักษะ ที่สามารถนำมาจัดสรรเพิ่มเติมได้อีก จึงคาดว่าในปีนี้จะสามารถเติมเต็มความขาดแคลนแพทย์ของโรงพยาบาลชุมชนได้มากกว่าร้อยละ 90
ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/27kAYx5fYeM
