เลือกตั้งและการเมือง

ส.ว.รุกตั้งคณะกรรมการชง กกต. สอบ ‘พิธา – ก้าวไกล’ - ‘ส.ว.เสรี’ ขู่ใครแตะ ม.112 เจอโหวตคว่ำ

โดย petchpawee_k

17 พ.ค. 2566

14 views

เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว.ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกฯว่า  เป็นเผยกับทีมข่าวของเราว่า เมื่อวาน คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน ได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาใน 3 ประเด็น ก่อนจะส่งให้ กกต.ตรวจสอบต่อไป คือ 1.เรื่องการครอบงำพรรค 2.เรื่องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา และ 3.เรื่องการละเมิด ม.112 โดยคณะทำงานจะเร่งทำให้เสร็จในหนึ่งเดือน ก่อนส่งให้ กกต.ดำเนินการก่อนประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน 


ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึง กรณีฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ ส.ว.โหวตสนับสนุนพรรคก้าวไกล ที่ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องดูการรวบรวมเสียงของพรรคก้าวไกล จะรวบรวมเสียงได้ 309 เสียงจริงหรือไม่ ขณะนี้เป็นแค่การพูดฝ่ายเดียวจากพรรคก้าวไกล แต่พรรคอื่นๆ ยังไม่มีใครแสดงเจตจำนงตอบตกลงร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ


หลังจากรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ส.ว.ก็จะพิจารณานโยบายต่างๆ ของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามีการยกเลิกหรือแก้ไขเรื่องสำคัญอย่างมาตรา 112 ตนไม่สามารถโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ได้แน่ ไม่ใช่แค่เฉพาะนายพิธา แม้แต่เสนอชื่อคนพรรคอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้ามีนโยบายแตะต้องมาตรา 112 ก็ไม่โหวตให้เช่นกัน


เมื่อถามว่า การที่ ส.ว.ไม่โหวตให้เสียงข้างมากได้ครบ 376 ในการโหวตนายกฯ จะถูกมองเป็นการขัดขวางการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ก็ให้มองกันไป ส.ว.ไม่ได้คิดว่ารวมเสียงแล้วจะได้เท่าไร แต่อยู่ที่จะใช้อำนาจทำอะไรให้ประเทศ อย่าคิดว่ามีเสียงข้างมากแล้วจะเหลิง ลุงแก่อำนาจทำอะไรก็ได้ ควรทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ สร้างสามัคคี เพราะคะแนนที่ได้มา ไม่ใช่คะแนนทั้งประเทศ พรรคก้าวไกลได้คะแนน 14 ล้านเสียง ก็ไม่ใช่ฉันทามติอะไร เพราะพรรคอื่นๆก็ได้คะแนนหลักล้าน เป็นเสียงจากประชาชนเช่นกัน ถ้าคิดจะสร้างกระแสกดดัน ส.ว.ให้ลงมติตามที่ต้องการ โดยอ้างฉันทามติมาเป็นกระแสกดดัน รับรองว่า ไม่สามารถมากดดัน ส.ว.ได้ เราพร้อมใช้อำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม ถูกต้อง


ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงผลการเลือกตั้งว่า เป็นเรื่องดีที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก คาดว่าเดือนกรกฎาคม จะสามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ หลังจากนั้นภายใน 15 วันก็จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี



แต่จนถึงตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ว่า ส.ว. จะเลือกใคร เบื้องต้นทราบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอตัวเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่มีอะไรการันตีว่าจะมีเพียงชื่อเดียว พรรคอื่นอาจจะเสนอชื่อมาอีกก็ได้ ยังมีเวลา และพรรคการเมืองอาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวคิด


ดังนั้นจึงยังบอกไม่ได้ว่าจะเลือกใคร ต้องรอให้ กกต. รับรองผลการเลือกตั้งก่อน ยังเร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้


ส่วนตัวเชื่อว่า พรรคก้าวไกล อาจรวมเสียงได้ไม่ถึง 309 เสียง เพราะยังมีบางพรรคที่มีปัญหา ต้องพิจารณาอีกหลายอย่างประกอบ อย่างเช่น การเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่หลายคนเป็นกังวล ดังนั้นต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขหรือยกเลิก


นอกจากนี้ นายสมขาย ยังบอกด้วยว่า นายพิธา ต้องพิสูจน์เรื่องการถือครองหุ้นในบริษัทสื่อมวลชน ที่ยังประกอบกิจการอยู่ด้วย ซึ่ง กกต. จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้การขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ของนายพิธา เป็นที่ยอมรับของสังคม เช่นเดียวกับหลายๆ คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องตรวจสอบการถือครองหุ้นของตัวเองให้ชัดเจนด้วย




รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/SY2kHvm_ukE

คุณอาจสนใจ

Related News