'ประยุทธ์' ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ย้ำเคารพในวิถีประชาธิปไตย 'พีระพันธุ์' ยันบิ๊กตู่ไม่เครียด ยังอยู่ รทสช.

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 เวลา 22.04 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางกลับบ้านจากที่ทำการพรรค ด้วยสีหน้าเรียบเฉย กล่าวว่า


"ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่ให้มากับ ส.ส.เขตและพรรค ผมยืนยันจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่อะไรก็ตาม และตัวผมเองนั้นผมพยายามทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิตของผม และอุดมการณ์ของพรรคก็เช่นเดียวกัน ขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีความเจริญก้าวหน้า ผมเคารพในวิถีประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ขอบคุณครับ"


จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเดินออกจากที่ทำการพรรค ท่ามกลางการรุมล้อมของช่างภาพและสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยมีการพยายามตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรรค กรณีที่พรรคเพื่อไทยได้มาเป็นพรรคอันดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และคำถามพรรคก้าวไกลได้คะแนนขนาดนี้จะนำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว โดยพยายามแหวกวงล้อม ไปขึ้นรถเดินทางกลับทันที


ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค แถลงภายหลังผลนับการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ในเวลา 22.42 น. โดยกล่าวว่า


สำหรับการนับคะแนนเลือกตั้งยังไม่เสร็จสิ้น 100% แต่พอจะคาดการณ์ได้ สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของประชาชนที่มอบให้กับพรรค และให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของเรา ถือว่าทุกคะแนนเสียงนั้นมีค่า และขอขอบคุณเป็นอย่างมาก


ขณะเดียวกันยังขอขอบคุณประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ที่ผู้สูงอายุออกไปใช้สิทธิ์ และบางคนก็เจ็บป่วยก็ยังแสดงพลังของความเป็นคนไทยในระบอบประชาธิปไตย ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าคะแนนจะออกมาเท่าไร จะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนเท่าใด ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เข้าสู่สนามการเลือกตั้ง และทางพรรค ก็ตั้งมาได้เพียงไม่กี่เดือน เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองจริงจังในช่วงปลายปี 2565 ถึงวันนี้ใช้เวลาเพียง 4-5 เดือน ซึ่งทุกคะแนนเสียงที่ได้มา จึงขอขอบคุณประชาชน ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่สนามการเลือกตั้งและถือว่าเป็นความสำเร็จ


ส่วนพูดคุยแนวทางการทำงานกับพลเอกประยุทธ์ หลังจากนี้อย่างไรนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยปกติ ผลเป็นอย่างไรก็ต้องทำตามนั้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าผลจริง ๆ จะเป็นอย่างไร เนื่องจากตัวเลขยังไม่ออกมาเป็นทางการ


ส่วนจากการประเมินคร่าว ๆ เป็นไปตามการตั้งเป้าหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ผมไม่ได้ตั้งเป้าอะไรเลย ผมตั้งเป้าอย่างเดียวว่าทุกเขตให้ทำงานให้เต็มที่ ทำงานให้ดี เราทำเต็มที่แล้วหรือยัง ถ้าเราทำเต็มที่แล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไร นั่นคือการทำงานอย่างเต็มที่แล้วหากทำงานไม่เต็มที่นั่นคือสิ่งที่น่าเสียใจ แต่สำหรับในส่วนของพรรคและผู้บริหารของพรรคที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เรามั่นใจว่าเราทำงานได้อย่างเต็มที่แล้ว


โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ สำหรับผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยคิดว่า เมื่อพลเอกประยุทธ์เข้าสู่สนามการเมือง จะสามารถทนกับความร้อนความเหนื่อย การไม่ได้ทานอาหาร และอีกหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงสามารถร่วมเป็นร่วมตายกับพวกเราในสนามเลือกตั้ง ได้เกือบทุกวัน เหมือนกับเป็นนักการเมืองอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนประทับใจมาก และคิดว่าพลเอกประยุทธ์ทำได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น ซึ่งจากการพูดคุยกับเลขาธิการพรรค ผมประเมินว่าเราไม่มีจุดบกพร่องอะไร ทำงานได้เต็มที่แล้ว มั่นใจว่าในทุกส่วนเราทำได้ดีที่สุดโดยเฉพาะระยะเวลาที่เรามีอยู่ เพราะฉะนั้นทุกคะแนนที่ได้มาเป็นคะแนนที่เราภูมิใจ ว่าเป็นผลคะแนนจากการทำงานให้ดีที่สุด


ส่วนจะเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จัดตั้งรัฐบาลแข่งหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการและวิถีทางที่มีอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติเ ราไม่ทำอะไรที่ผิดแบบแผนหรือรูปแบบที่ทำมา และยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์ยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ในขณะนี้ ยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติและยังคงเป็นประธานคณะกรรมการแนวทางยุทธศาสตร์พรรคเหมือนเดิม


ขณะเดียวกัน นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีพรรรคร่วมรัฐบาลติดต่อมาแต่อย่างใด เพราะในตอนนี้ยังคงเกาะติดการนับคะแนน เนื่องจากขณะนี้ยังนับคะแนนไม่แล้วเสร็จ


ส่วนพรรคจะการดำเนินการทางการเมืองต่อไปไร นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อย่างน้อยต้องรอผลคะแนนจะต้องมีความชัดเจนก่อน และต้องรอ กกต.รับรองก่อน


โดย นายพีระพันธุ์ ยังยืนยันอีกว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้เครียดแต่อย่างใด ยังคงมีกำลังใจดีอยู่ แล้วพลเอกประยุทธ์เอง ก็เป็นผู้ให้กำลังใจพวกผม ยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์ไม่เสียกำลังใจ จะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันการให้กำลังใจไม่ได้แปลว่าเขาเสียใจหรือแต่อย่างใด ผมผ่านการเลือกตั้งมากกว่า 30 ปีแล้ว ทั้งแพ้ทั้งชนะมาทุกรูปแบบ ไม่เห็นมีอะไรจะต้องเสียใจหรือดีใจ เราทำงานการเมืองทำงานเพื่อประชาชนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อยู่ที่เราว่าทำงานได้ดีหรือไม่ ทำได้เท่าไหร่ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ไม่มีอะไรที่ต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้เสมอไป เพราะฉะนั้นการทำงานการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับความเป็นจริงอยู่ตลอดเวลาว่าไม่มีความแน่นอน


ขณะเดียวกัน ก็แสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล และทุกพรรคที่ได้คะแนนพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก ส่วนพร้อมจะร่วมงานกับพรรคขั้วค้านเดิมหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผมเป็นได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ส่วนมีเงื่อนไขในการทำงานหรือไม่ในการร่วมรัฐบาล ผมพูดมาเสมอว่า หลักการของพรรคคือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ถ้าหลักการเดียวกัน อุดมการณ์เดียวกันก็ทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดถ้าตรงนี้ไม่ตรงกัน ก็ทำงานร่วมกันไม่ได้


เมื่อถามย้ำว่า จะไม่ปิดช่องการจับขั้วทางการเมืองข้ามขั้วหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่ถึงเวลา ส่วนจะปิดช่องหรือไม่ไม่มีช่องอะไรให้ปิดอยู่แล้ว การเมืองไม่มีช่อง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ข้อเท็จจริง วันนี้ผลคะแนนยังไม่ออก สุดท้ายใครได้คะแนนเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้ เป็นเพียงคะแนนคร่าว ๆ ว่าใครได้เท่าไหร่ ตัวเลขนิ่ง ๆ ยังไม่มี เพราะฉะนั้นก็ยังไม่มีใครเขาคุยกันหรอก เมื่อถึงเวลาก็คงคุยกันตามกระบวนการตามขั้นตอนที่ปฏิบัติกันมา


ขณะเดียวกัน นายพีระพันธุ์ ย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีการประเมินว่าจะได้จำนวน ส.ส.จำนวนเท่าใด เพราะนี่คือครั้งแรกของการเข้าสู่สนามการเลือกตั้งของพรรค และทุกคะแนนคือความสำเร็จ    


ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวต่างประเทศพยายามสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ขอให้ไปถามพวกเขาเอาเอง ผมจะพูดภาษาไทยอย่างเดียว

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/a8r6JGjA1u4